วิชาโหราศาสตร์
1. http//www.horasaadrevision.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=107154&N
2. http//www.payakorn.com/
3. http//www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353052819&grpid=01&catid=01
4.httpฝ/www.horawej.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=189124&N 5.http//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C
6. http//heritage.mod.go.th/nation/astrology/astrology.htm
7. http//www.jupitersiam.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538855596&N 8.http//www.myhora.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C/%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C-018.aspx
8.http//www.horasadthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=526097
9.http//www.luckkao.com/default.asp?content=showproduct&scid=1191
สอนวิชาโหราศาสตร์โดย Youtube
http://www.rojn-info.com/mainarticles/%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a8%e0%b8%b5.htmlhttps://www.youtube.com/watch?v=xYLmoObLBLQ
วิชาการทำนายด้วยเลข ๗ ตัว
แต่งโดย พรชัย ดวงมาลัย
วิชาการทำนายด้วยเลข ๗ ตัวเป็นการพยารณ์ชนิดหนึ่งที่จัดว่าแม่นยำดี ถ้าผู้พยากรณ์ศึกษาหลักของการพยากรณ์อย่างเชี่ยวชาญแตกฉานแล้ว ข้าพเจ้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า "แม่นยำไม่แพ้วิโหราศาสตร์เลยทีเดียว" แต่วิชาเลข ๗ ตัวนี้ ง่ายกว่าวิชาโหราศาสตร์ตรงที่ไม่ต้องไปท่องจำหลักการและกฏเกณฑ์ที่มากมากมายเหมือนวิชาโหรษศาสตร์ วิชาโหรา
ศาสตร์ ถ้ามีผู้มาให้พยากรณ์ไม่รู้เวลาตกฟากคือเวลาเกิดการพยากณ์ของวิชาโหราศาสตร์ก็จะไม่แม่นยำเลยนี้คือจุดอ่อน
ของวิชาโหราศาสตร์ แต่วิชาเลข ๗ ตัว ไม่ต้องใช้เวลาเกิดเลยก็พยากรณ์ได้แม่นยำดี ถ้ามีความประสงค์อยากจะให้วิชาเลข ๗ ตัว มีความแม่นยำจงดูการทำนายเลขโคจรให้ดีนี้คือจุดเด่นของวิชาเลข ๗ ตัว ข้าพเจ้าได้เรียนรู้มาทั้งสองอย่างแต่ข้าพเจ้าชอบใช้วิชาเลข ๗ ตัวทำการพยากรณ์ให้ผู้อื่นเพราะมันง่ายดีไม่มีหลักเกณฑ์มากมายและไม่ต้องใช้เวลาเกิดก็สามารถพยากรณ์ให้แม่นยำได้ ถ้าใครเรียนรู้กฏเกณฑ์และความหมายของตัวเลขอย่างแตกฉานแล้วท่านก็จะสามารถพยากรณ์ได้ทุกแง่ทุกมุมไม่แพ้วิชาโหราศาสตร์เลย
การศึกษาวิชาพยากรณ์ด้วยเลข ๗ ตัว แบ่งออกเป็ ๔ ภาค คือ:-
-ภาคการศึกษาที่ ๑ ว่าด้วยกฏเกณฑ์ต่างๆของพื้นดวงชะตา
-ภาคการศึกษาที่ ๒ ว่าด้วยองค์ประกอบที่เป็นพื้นพื้นฐานของพื้นดวงชะตา
-ภาคการศึกษาที่ ๓ ว่าด้วยกลวิธีการทายจรของเลข ๗ ตัว
-ภาคการศึกษาที่ ๔ ว่าด้วยการทำนายแบบยามอัฏฐกาล
-ภาคการศึกษาที่ ๕ ว่าด้วยการทำนายด้วยทักษาพยากรณ์
-ภาคการศึกษาที่ ๖ ว่าด้วยการทำนายด้วยหลักของกาลโยคประจำปี
-ภาคการศึกษาที่ ๗ ว่าด้วยภาคผนวก
การศึกษาภาคที่ ๑
-ภาคที่หนึ่ง ว่าด้วยกฏเกณฑ์ต่างๆของพื้นดวงชะตา ซึ่งแบ่งออกได้เป็น ๖ ชนิด คือ:-
๑.การตั้งเลขในพื้นดวงชะตา
๒.ภพและความหมายของภพ
๓.ความหมายของเลขในฐานบวก
๔.การพยากรณ์ตัวเลขในพื้นดวงชะตา
๕.ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันของตัวเลขในพื้นดวงชะตา
๖.ระดับสูงต่ำของพื้นดวงชะตา
การตั้งเลขในพื้นดวงชะตา
ตัวเลขในพื้นดวงชะตามี ๒๑ ตัว แบ่งออกเป็น ๔ แถวๆละ ๗ ตัว และยังมีตัวเลขที่เป็นฐานบวกอีก ๗ ตัว ร่วมเลขในพื้น ดวงชะตาทั้งหมดมี ๒๘ ตัว เช่น:-
-1 2 3 4 5 6 7 แถวที่หนึ่งนี้เป็นเลขที่เอามาจากเลขของวันเกิดของคน
-2 3 4 5 6 7 1 แถวที่สองนี้เป็นเลขที่เอามาจากเลขของเดือนเกิดของคน
-3 4 5 6 7 1 2 แถวที่สามนี้เป็นเลขที่เอามาจากเลขของปีเกิดของคน
-6 9 12 14 18 14 10 แถวที่สี่นี้เป็นเลขที่ได้มาจากการเอาเลขทั้งสามแถวบวกกัน
หลักการตั้งเลขวันเดือนปีเกิดลงในพื้นชะตาแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ:-
๑.หลักในการตั้งเลขของวันเกิดลงในพื้นชะตา
-วิชาเลข ๗ ตัวมีหลักในการตั้งเลขวันเกิดลงในพื้นชะตาดังนี้
๑.๑เลขในฐานของวันเกิดนี้ให้เอาเลขแค่ ๗ ตัว ถ้าเลขตัวใดเกินเลข ๗ ให้เอาเลข ๗ ไปลบออก เช่น คนไหนเกิดในวันพุธกลางคืน มันจะเป็นเลข ๘ เมื่อเป็นเลข ๘ แสดงให้เห็นว่ามันเลย ๗ ไปแล้ว ให้เอาเลข ๗ ไปลบเลข ๘ ก็จะเหลือเศษ ๑ ให้เอาเลข ๑ ไปตั้งเป็นเลขของแถววันเกิด เช่น:-
-1 2 3 4 5 6 7
๑.๒ตัวเลขประจำวันเกิดจงดูข้างล่างนี้
-คนเกิดวันอาทิตย์ คือ เลข ๑
-คนเกิดวันจันทร์ ,, ,, ๒
-คนเกิดวันอังคาร ,, ,, ๓
-คนเกิดวันพุธ ,, ,, ๔
-คนเกิดวันพฤหัสบดี ,, ,, ๕
-คนเกิดวันศุกร์ ,, ,, ๖
-คนเกิดวันเสาร์ ,, ,, ๗
-คนเกิดวันราหูหรือวันพุธกลางคืน คือเลข ๘
๑.๓คนเกิดวันไหนก็ให้ตั้งเลขประจำวันเกิดนั้นเป็นตัวแรกดังนี้
-คนเกิดวันอาทิตย์ ให้ตั้งเลข 1 เป็นตัวแรก เช่น:-
-1 2 3 4 5 6 7
-คนเกิดวันจันทร์ ให้ตั้งเลข 2 เป็นตัวแรก เช่น:-
-2 3 4 5 6 7 1
-คนเกิดวันอังคาร ให้ตั้งเลข 3 เป็นตัวแรก เช่น:-
-3 4 5 6 7 1 2
-คนเกิดวันพุธ ให้ตั้งเลข 4 เป็นตัวแรก เช่น:-
-4 5 6 7 1 2 3
-คนเกิดวันพฤหัสบดี ให้ตั้งเลข 5 เป็นตัวแรก เช่น:-
-5 6 7 1 2 3 4
-คนเกิดวันศุกร์ ให้ตั้งเลข 6 เป็นตัวแรก เช่น:-
-6 7 1 2 3 4 5
-คนเกิดวันเสาร์ ให้ตั้งเลข 7 เป็นตัวแรก เช่น:-
-7 1 2 3 4 5 6
-คนเกิดวันราหู ให้ตั้งเลข 1 เป็นตัวแรก เช่น:-
-1 2 3 4 5 6 7
**หมายเหตุในข้อที่ 3 นี้โปรดสังเกตดูให้ดีอาจจะตั้งเลขผิดได้ง่ายๆ คนเกิดวันไหนก็ให้ตั้งเลขประจำวันเกิดตัวนั้นเป็นตัวแรกแล้วก็ไล่ไปเรื่อยๆจนครบ 7 ตัว ถ้าวันเกิดใครนับไปถึงเลข 7 แล้วแต่ตัวเลขยังไม่ครบ 7 ตัวก็ให้นับเริ่มต้นที่เลข 1 ใหม่เช่น วันพฤหัสบดีนับเริ่มต้นที่เลข 5 6 7 ก็ถึงเลข 7 แล้วยังไม่ครบ 7 ตัวเลยก็ให้นับเริ่มต้นที่เลข 1 2 3 4
ไปอีกจนกว่าจะครบ 7 ตัวจึงจะหยุดได้ วันอื่นก็จงดูวันพฤหัสบดีนี็เป็นตัวอย่าง
๒.หลักการตั้งเลขของเดือนเกิดลงในพื้นชะตาให้ตั้งหล้กการเดียวกันกับเลขของวันเกิด ถ้าใครเกิดในเดือน 8 9 10 11 12 ให้เอาเลข 7 มาลบออก เหลือเศษเท่าไหร่ให้เอาเลขเศษนั้นไปตั้งเป็นเลขตัวเริ่มแรก เลขของเดือนเกิดนี้ให้ถามเจ้าตัวคนที่มาให้เราทำนาย แต่อย่าไปเชื่อนักบางทีเขาอาจจะจำมาผิดก็ได้ ทางที่ดีให้เอาวันที่ เดือน พ.ศ. เกิดของเขาไปตรวจดูที่ปฏิน 100 ปี, 150 ปี, หรือ 250 ปี ก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาด ถ้าใครจำวันเดือนปีเกิดไม่ได้อย่าไปทำนายให้เขาเลยมันจะไม่แม่นเดี๋ยวเขาจะดูถูกเราได้ในภายหลัง หลักการตั้งเลขของเดือนเกิดมีดังนี้
-คนเกิดในเดือน ๑ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-1 2 3 4 5 6 7
-คนเกิดในเดือน ๒ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-2 3 4 5 6 7 1
-คนเกิดในเดือน 3 ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-3 4 5 6 7 1 2
-คนเกิดในเดือน 4 ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-4 5 6 7 1 2 3
-คนเกิดในเดือน ๕ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-5 6 7 1 2 3 4
-คนเกิดในเดือน ๖ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-6 7 1 2 3 4 5
-คนเกิดในเดือน ๗ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-7 1 2 3 4 5 6
-คนเกิดในเดือน ๘ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-1 2 3 4 5 6 7
-คนเกิดในเดือน ๙ ให้ตั้งเลขของเดือนเป็นดังนี้
-2 3 4 5 6 7 1
-คนเกิดในเดือน ๑๐ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-3 4 5 6 7 1 2
-คนเกิดในเดือน ๑๑ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-4 5 6 7 1 2 3
-คนเกิดในเดือน ๑๒ ให้ตั้งเลขของเดือนเกิดเป็นดังนี้
-5 6 7 1 2 3 4
๓.หลักการตั้งเลขของปีเกิดลงในพื้นดวงชะตา ให้ตั้งในหลักการเดียวกันกับเลขของเดือนเกิดคือใครเกิดในปีมะแม, วอก, ระกา, จอ, กุล ให้เอาเลข 7 ไปลบออกเพราะเลขของปีทั้ง 5 เหล่านี้เกินเลข 7 ไปแล้ว หลักการตั้งเลขของปีเกิดลงในพื้นดวงชะตามีหลักในการตั้งดังนี้
๓.๑เลขของปีเกิด
-ปีชวด = เลข 1
-ปีฉลู = เลข 2
-ปีขาล = เลข 3
-ปีเถาะ = เลข 4
-ปีมะโรง = เลข 5
-ปีมะเส็ง = เลข 6
-ปีมะมะเมีย = เลข 7
-ปีมะแม = เลข 8
-ปีวอก = เลข 9
-ปีระกา = เลข 10
-ปีจอ = เลข 11
-ปีกุล = เลข 12
๓.๒การตั้งเลขของปีเกิด
-คนเกิดในปีชวด ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-1 2 3 4 5 6 7
-คนที่เกิดในปีฉลู ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-2 3 4 5 6 7 1
-คนที่เกิดในปีขาล ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-3 4 5 6 7 1 2
-คนเกิดในปีเถาะ ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-4 5 6 7 1 2 3
-คนที่เกิดในปีมะโรง ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-5 6 7 1 2 3 4
-คนที่เกิดในปีมะเส็ง ให้ตั้งเลขของวันเกิดเป็นดังนี้
-6 7 1 2 3 4 5
-คนที่เกิดในปีมะเมีย ให้ตั้งเลขของวันเกิดเป็นดังนี้
-7 1 2 3 4 5 6
-คนที่เกิดในปีมะแม ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-1 2 3 4 5 6 7
-คนที่เกิดในปีวอก ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-2 3 4 5 6 7 1
-คนที่เกิดในปีระกา ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-3 4 5 6 7 1 2
-คนที่เกิดในปีจอ ให้ตั้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-4 5 6 7 1 2 3
-คนที่เกิดในปีกุล ให้ต้งเลขของปีเกิดเป็นดังนี้
-5 6 7 1 2 3 4
ข้อควรจำในการตั้งเลขของวันเดือนปีเกิด
๑.เลขของวันเกิด ให้เริ่มนับวันเกิดตั้งแต่เวลา ๖.๐๐ น. ของกลางวันไปถึง เวลา ๖.๐๐ น. ของวันรุ่งขึ้น คือตั้งแต่เวลา ๖ โมงเช้าของวันนี้ไปจนถึง ๖ โมงเช้าของวันพรุ่งนี้ วันหนึ่งมี ๒๔ ชั่วโมง อย่าไปนับเวลาเหมือนแบบสากล แบบสากลเขานับตั้งแต่เวลา ๒๔ นาฬิกา คือ ๖ ทุ่มไปแล้วเขานับเป็นวันใหม่ นี่คือการนับแบบสุริยคติ ประเทศของเราใช้นับวันแบบจันทรคติคือต้องนับตั้งแต่เวลา๖ โมงเช้าวันนี้ไปจนถึง ๖ โมงเช้าของวันพรุ่งนี้ ถ้าท่านนับวันเกิดแบบสากลท่านจะทำนายผิดทันที โปรดจำเอาไว้ให้ดี
๒.เลขของเดือนเกิด ให้เริ่มนับตั้งแต่วันขึ้น ๑ ค่ำ ไปจนถึงวันแรม ๑๕ ค่ำ นี่เป็นการนับแบบจันทรคติ ไม่ได้นับแบบสากลคือนับตั้งแต่เดือน มกราคม ไปจนถึงเดือนธันวาคม ถ้าท่านนับแบบนี้ท่านจะทำนายให้เขาผิดทันที
๓.เลขของปีเกิด ใช้ปีตามนักษัตร คือปีเกิดคนจะเปลี่ยนเป็นปีใหม่ได้จะต้องเป็นวันที่ ๑๓ เมษายน คือวันสงกรานต์ของทุกปีเป็นต้นไป ถ้าใครเกิดก่อนวันสงการานต์ยังถือเป็นปีเก่าอยู่ แต่ถ้าใครเกิดวันที่ ๑๓ เมษายน ผู้นั้นถือว่าปีเกิดเป็นปีใหม่แล้ว ในระบบสากลเขาถือเอาวันที่ ๑ มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ วิชาการทำนายด้วยเลข ๗ ตัว ถ้าถือเอาวันที่ ๑ มกราคม เป็นวันเปลี่ยนปีใหม่ท่านจะพยากรณ์ผิดทันที ข้อนี้ข้าพเจ้าเคยเห็นหมอดูหลายคนใช้วันที่ ๑ มกราคมเป็นวันเปลี่ยนปีใหม่ ให้พยากรณ์ดูแล้วจึงไม่ค่อยแม่นผิดเสียเป็นส่วนมากข้อนี้จึงควรระวังไว้ให้ดี
๔.การคิดหาอายุของคน มีหลักในการคิดดังนี้
-ให้เอา พ.ศ.ปัจจุบันตั้ง แล้วลบด้วย พ.ศ.เกิด เช่น นายสุรสิทธิ์ เกิดในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2492
วิธีทำ:- ให้เอา 2558 ตั้งแล้วลบด้วย 2492
2558 - 2492 =67
ลบออกมาแล้วเหลือ 67 คนส่วนมากจะถือกันว่า นายสุรสิทธิ์อายุได้ 67 ปีแล้ว ถือเอาอย่างนี้ผิดนะ ทำไมถึงผิดเพราะยังไม่ได้หักเดือนที่เขาเกิดออก ต้องหักเดือนที่เขาเกิดออกก่อนจึงจะถูก เขาเกิดในเดือนพฤศจิกายน นายสุรสิทธิ์มาขอให้ทำนาย ในวันที่ 17 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เพราะฉะนั้นนายสุรสิทธิ์จึงมีอายุได้ 66 ปี 6 เดือน 17 วัน คือยังไม่ถึง 67 ปี ข้อนี้หมอดูทั้งหลายทายผิดกันเยอะมากเพราะไม่คิดระวังในข้อนี้ ข้าพเคยพยากรณ์เอาชนะหมอดูหลายคนก็ด้วยวิธีนี้ หมอดูทั้งหลายเอาอายุ 67 ปีไปพยากรณ์เลยไม่หักเดือนเกิดออกจึงทำนายไม่ค่อยแม่น
๕.ผู้ใดคิดจะเป็นหมอดูเลข ๗ ตัว จะต้องมีปฏิน 100 ปี, หรือ150 ปี เอาไว้ตรวจสอบ วันเดือนปีเกิดของคน ปฏิทิน 100 ปี, และ150 ปีนี้ นับว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพยากรณ์จะขาดเสียมิได้โดยเด็จขาด เพราะคนที่เอาวันเดือนปีเกิดมาให้เราพยากรณ์นั้น บางคนจำมาไม่ถูกถ้าเราขืนเอาตามเขาเราก็จะทำนายผิดไม่แม่นจะตัองถูกด่าลับหลังอย่างแน่นอนโปรดจำเอาไว้ให้ดี
อนึ่งหนังสือปฏิทิน 100 ปีและ 150 ปีนี้ มันเล่มใหญ่พอสมควรถือไปไหนมาไหนด้วยก็ลำบาก ถ้าใครเล่นคอมพิวเตอร์เป็นและเข้าเล่นอิเตอร์เน็ตได้ให้คลิกเปิดลิ้งค์ปฏิน 100 ปี และ 150 ปี ข้างล่างนี้ขึ้นมาตรวจสอบวันเดือนปีเกิดของคนได้เลยไม่ยุ่งยากรวดเร็วและสะดวกสบายอีกด้วยไม่ต้องถือไปไหนมาไหนด้วยให้มื่อยมือ เพียงแต่มี แท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือที่เล่นอินเตอร์เน็ตได้ และใส่ข้อมูลที่ต้องการลงไปในคอมพิวเตอร์แล้วคลิก ข้อมูลที่ต้องการก็ออกมาแล้ว ขอขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่สร้างคอมพิวเตอร์ขึ้นมาช่วยเหลือมนุษย์ให้มีเครื่องมือที่มหัศจรรย์ในการใช้งานและหาวิชาความรู้ได้ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ กรุณาเปิดลิ้งค์ปฏินข้างล่างนี้ขึ้นมาดู ก็จะสามารถตรวจสอบวันเดือนปีเกิดของมนุษย์ทั้งหลายได้อย่างถูกต้องแล้ว
http://www.myhora.com/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%99/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.2558.aspx
http://www.baanrak.com/fortune/150calendar/index.asp
http://www.goosiam.com/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%99/
เมื่อตั้งฐานเลขของวันเดือนปีเกิดได้แล้ว ต่อไปข้าพเจ้าจะยกเอาตัวอย่างของวันเดือนปีเกิดของคนมาตั้งฐานเลขให้ดูสักคน
ตัวอย่างการตั้งเลขพื้นดวงชะตาของ น.ส.วรรณภา แก้วกล้า
-น.ส.วรรณภา แก้วกล้า เกิดวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๐ ตรงกับวันอาทิตย์ เดือน ๙ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีฉลู
-วันเกิดคือ: วันอาทิตย์ = 1
-เดือนเกิดคือ: เดือน 9 เดือน 9 เป็นเดือนที่เกิน 7 ไปแล้ว ให้เอาเลข 7 มาลบเลข 9 จะเหลือเศษ = 2
-ปีเกิดคือ: ปีฉลู = 2
พื้นดวงชะตาน.ส.วรรณภา แก้วกล้า
1 2 3 4 5 6 7 แถวนี้เป็นเลขของวันเกิด
2 3 4 5 6 7 1 แถวนี้เป็นเลขของเดือนเกิด
2 3 4 5 6 7 1 แถวนี้เป็นเลขของปีเกิด
5 8 11 14 12 20 9 แถวนี้เป็นเลขของฐานบวก
ภพและความหมายของภพ
ภพ
-ภพ แปลว่า "ที่อยู่" คือที่อยู่ของตัวเลข
-ภพในวิชาเลข ๗ ตัว แบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ:-
๑.ภพในฐานของวันเกิดมี ๗ ตัว คือ:- อัตตะ หินะ ธนัง ปิตา มาตา โภคา มัซฌิมา
๒.ภพในฐานของเดือนเกิดมี ๗ ตัว คือ:- ตนุ กฎุมพะ สหัสชะ พันธุ ปุตตะ อริ ปัตตนิ ๓.ภพในฐานของปีเกิดมี ๗ ตัว คือ:- มรณะ สุภะ กัมมะ ลาภะ พยายะ ทาสา ทาสี
ชื่อของภพทั้ง ๓ แถวที่ต้องจำ
อัตตะ หินะ ธนัง ปิตา มาตา โภคา มัชฌิมา
ตนุ กฎุมพะ สหัชชะ พันธุ ปุตตะ อริ ปัตตนิ
มรณะ สุภะ กัมมะ ลาภะ พยายะ ทาสา ทาสี
ความหมายของภพในแถววันเกิด
-อัตตะ หมายถึง ตัวเรา รูปร่าง วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ แขนขวา สุขภาพร่างกาย ลักษณะท่าทาง อุปนิสัย รสนิยม และ แนวโน้มทางความคิด
-หินะ หมายถึง ความเสื่อม, ความชั่วร้าย, นิสัยที่ไม่ดี, ชะตาที่ตกต่ำ, ความดื้อดึง, ทิฏฐิมานะ, การเบียดเบียน, ตำหนิในร่างกาย, วาระสุดท้ายของชีวิต, และคนที่ตายจาก
-ธนัง หมายถึง แก้วแหวนเงินทอง เพชรนิลจินดา, ทรัพย์สินมรดก, และสังหาริมทรัพย์
-ปิตา หมายถึง บิดาหรือพ่อ, พ่อเลี้ยง, ญาติทางฝ่ายพ่อ, คนอุปถัมภ์หรือคนที่คอยให้ความช่วยเหลือ, บุคคลชั้นสูงชาย, การปกครองบริหาร
-มาตา หมายถึง มารดาหรือแม่, แม่เลี้ยง, ญาติทางฝ่ายแม่, คนอุปถัมภ์หรือคนที่คอยให้ความช่วยเหลือ, บุคคลชั้นสูงหญิง, การปกครองดูแล, และการรักษาพยาบาล
-โภคา หมายถึง ทรัพย์สมบัติคือ เรือกสวนไร่นาบ้านเรือนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เช่น จอบเสียมมีดพร้าแหลนหลาว ดราดไถ รถไถ และอสังหาริมทรัพย์
-มัชฌิมา หมายถึง ความเป็นกลาง, ความพอดี, เศรษฐกิจพอเพียง, แบ่งครึ่งปันส่วน, กลางทาง,ได้หรือเสียเท่ากัน,
และ คนละครึ่ง
ความหมายของภพในแถวเดือนเกิด
-ตนุ หมายถึง รูปร่าง, ตัวตนของเรา, อุปนิสัยใจคอ, รสนิยม, แนวโน้มทางการกระทำ
-กฎุมพะ หมายถึง ฐานะทางการเงิน, รายได้, การเงินทั้งหมด, อาหาร, เครื่องอุปโภคบริโภค, ใบหน้า, อัญมณี, พันธบัตร, หุ้น, ใบหุ้น, เช็ค, บัตรเครดิด, ธนาคาร, ทรัสต์
-สหัชชะ หมายถึง การติดต่อ, การเดินทาง, พี่น้องร่วมท้อง, คนใกล้ชิด, สมัครพรรคพวก, มิตรสหาย, น้องสาวน้องชาย, การเดินทาง, กรติดต่อสื่อสาร, จดหมาย, โทรเลข, โทรศัพท์, โทรทัศน์, ทีวี, วิทยุ, หนังสือพิมพ์, รถเรือ, เครื่องบิน, ไอพ่น, จรวด, ร่ม, รองเท้า
-พันธุ หมายถึง การเปลี่ยนแปลง, การโยกย้าย, วงศาคณาญาติ, บ้านเกิด, ถิ่นกำเนิด, ที่อยู่อาศัย, บ้านเรือน, โรงงาน, อาคาร, อพาร์ตเม้นท์, หลุมฝังศพ, และสถานที่ต่างๆ,
-ปุตตะ หมายถึง บุตรธิดา, ลูกเลี้ยงทั้งชายและหญิง, คนรัก, การเริ่มต้น, การสร้างสรรค์, และการผลืตสินค้า, เด็กๆ, ภาษีอากร, กฎหมาย, บุตรบุญธรรม, สินค้า, โครงการ, ความบันเทิง, การกีฬา, การแข่งขัน, การละเล่นต่างๆ, ภาพยนต์, ดนตรี, งานเลี้ยงต่างๆ, ลิเก, หมอลำ
-อริ หมายถึง ข้าศึก, ศัตรู, อุปสรรค, โจรผู้ร้าย, ความขัดข้อง, การต่อสู้, การวิ่งเต้น, หนี้สิน, ความทุกข์, ภัยอันตราย,
อาวุธ, ความทารุณโหดร้าย
-ปัตตนิ หมายถึง คู่ครอง, คนรัก, คู่กรณีย์, คู่สัญญา, แฟน, ถนนหนทาง, สามีภรรยา, คดีความ, หุ้นส่วน
ความหมายของภพในแถวปีเกิด
-มรณะ หมายถึง ความตาย, การเสร็จสิ้น, การสูญเสีย, คนต่างถิ่น, คนต่างประเทศ, คนที่หนีหรือจากไปไกล, ผลประโยชน์จากคนตาย, มรดก, เงินบำเหน็ดบำนาญ, เบี้ยหวัด
-สุภะ หมายถึง ความดี, การคุ้มครอง, ความเจริญก้าวหน้า, เกียรติยศชื่อเสียง, ตำแหน่งหน้าที่การงาน, สิ่งเคารพสักการะ, ต่างแดน, ต่างประเทศ, ศีลธรรม
-กัมมะ หมายถึง การงาน, การกระทำ, ธุรกิจ, และกิจการงานต่างๆ
-ลาภะ หมายถึง โชคลาภ, ความสำเร็จ, ผลกำไร, ความมุ้งหมาย, การหวังผล, เงินเดือน, การเสี่ยงโชค, การพนัน, รางวัล, ล็อตเตอรี่, หวย
-พยายะ หมานถึง การล้มละลาย, ความล้มเหลว, อุบัติเหตุ, ความเจ็บป่วย, แพทย์และพยาบาล, ความลึกลับ, การปองร้ายอย่างเงียบๆ, การถูกขัง, คุกตตะราง,เรือนจำ, เบื้องหลังในมุมมืด, ความวิบัติฉิบหาย, ความอดอยาก, ความขาดแคลน
-ทาสา หมายถึง คนใช้, คนรับใช้ชาย, การเสียสละ, การช่วยเหลือ, คนสปอร์ต, งานส่วนรวม
-ทาสี หมายถึง คนใช้, คนรับใช้หญิง, ครอบครัว, งานส่วนตัว, ความตระหนี่
ความสัมพันธ์ของภพในพื้นดวงชะตา
ทำนายภพอัตตะ
-อัตตะ ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีความเชื่อมั่นในตนเองสูงไม่ค่อยสนใจในความคิดเห็นของผู้อื่น"
-อัตตะ ตรงกับ กฎุมพะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบการแสวงหารายได้ในแบบหมุ่นเวียนชั่วครั้งชั่วคราวในลักษณะ
การเป็นตัวแทนนายหน้าหรือนายประกันกว่าอย่างอื่น"
-อัตตะ ตรง สหัชชะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบคบค้าสมาคม ชอบการเดินทางติดต่อสื่อสารและการท่องเที่ยว"
-อัตตะ ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบการทำงานแบบกิจการอันเป็นของตนเองเช่น บริษัท, ห้างร้าน, โรงเรียน, โรงงาน, และอุตสาหกรรทมต่างๆ, ตามปกติแล้วเจ้าชะตาเป็นคนรักบ้านรักเรือนดี"
-อัตตะ ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบทำงานเกี่ยวข้องกับเด็ก, งานจัดสรรค์งานสังสรรค์, และการผลิตสินค้าต่างๆ"
-อัตตะ ตรงกับ อริ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบในการต่อสู้กับอุปสรรคและการแก้ไขปัญหาต่างๆ, ศัตรูจ่องจะทำลายมีมาก"
-อัตตะ ตรงกับ ปัตตนิ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้คู่ครองที่มีทัศนคติความคิดเห็นแบบเดียวกัน"
-อัตตะ ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบการเดินทางไปในต่างถิ่นต่างประเทศ, ชอบงานเดินทางไปมาอยู่เรื่อยๆไม่ชอบงานนั่งอยู่กับที่, การขนส่ง และการผูกขาดสินค้าต่างๆ"
-อัตตะ ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบทำบุญสร้างกุศล, ชอบการค้าขายกับต่างประเทศ, ชอบการไปศึกษายังต่างถิ่นต่างประเทศ, ชอบสร้างโครงการณ์และโครงสร้างต่างๆ"
-อัตตะ ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบงานอันเป็นของตนเอง มีความขยันขันแข็งในหน้าที่การงานมาก"
-อัตตะ ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมีโชคดีมักมีโชคลาภดีๆเกิดขึ้นอยู่เสมอ ทำกิจการอะไรมักประสบผลสำเร็จ"
-อัตตะ ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "ชอบทำงานแบบผิดกฏหมาย, ชอบการเสี่ยงภัย, ชอบทำงานที่อยู่ในมุมมืด, ทำงานราชการมักล้มเหลว, ทำสิ่งใดไม่ตลอด"
-อัตตะ ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนชอบเสียสละ ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อผู้อื่น ชอบคนที่มีฐานะต่ำกว่าตนจึงจะดี"
-อัตตะ ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนรักครอบครัวดี มักนิยมเอาลูกน้องหรือคนใช้เป็นคู่ครอง"
ทำนายภพหินะ
-หินะ ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนขี้โรค ตอนเด็กเลี้ยงยาก รูปร่างไม่สวยมีตำหนิหรือพิการ มีนิสัยดื้อดึงสอนยาก จะเกิดภัยพิบัติเพราะการกระทำของตนเอง "
-หินะ ตรงกับ กฎุมพะ ทำนายว่า "เป็นขี้เกียจในการทำมาหากิน ถึงหาเงินมาได้ก็จะเก็บไว้ไม่อยู่ ถ้ามีทรัพยืสินเงินทองมากจะเป็นอันตราย"
-หินะ ตรงกับ สหัชชะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนอาภัพญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง ถึงมีก็พึ่งพาอาศัยไม่ได้มักจะกลับกลายเป็นศัตรู จะเกิดความเดือดร้อนเพราะคนใกล้ชิด เดินทางไปไหนมาไหนต้องระมัดระวังให้ดี"
-หินะ ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนไร้ญาติขาดมิตรถึงมีก็พึ่งพาอาศัยไม่ได้ จะเกิดความเดือดร้อน
เพราะญาติพี่น้อง จะพลัดจากถิ่นที่อยู่เดิมไปอาศัยอยู่ในถิ่นอื่น ภายในครอบครัวไม่ค่อยจะมีความสุขเกิดเรื่องผิดใจกันบ่อยๆ จะเกิดอันตรายเพราะยวดยานพาหนะและที่อยู่อาศัย"
-หินะ ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีลูกยากถึงมีก็เลี้ยงไม่โต บุตรจะเป็นคนขี้โรคเลี้ยงยาก สอนยาก จะเกิดภัยพิบัติเพราะลูก จะเกิดเป็นโทษเพราะผู้น้อย
-หินะ ตรงกับ อริ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะถูกศัตรูปองร้ายเพราะเกลียดชัง จะเกิดภัยพิบัตรเพราะศัตรู"
-หินะ ตรงกับ ปัตตนิ ทำนายว่า "เจ้าขะตาจะมีคู่ครองเป็นคนขี้โรค จะเป็นหม้ายเพราะคู่ตาย จะอกหักเพราะคู่ครอง จะเกิดเป็นอันตรายเพราะคู่ครองหรือคู่กรณีเป็นสาเหตุ
-หินะ ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "ไปอยู่ในต่างถิ่นต่างประเทศจะเป็นอันตราย การเดินทางไปไหนมาไหนต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุ"
-หินะ ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "ทำงานราชการไม่ดีจะมัวหมองจะเกิดเรื่องไม่ดีในวันข้างหน้า ให้ระมัดระวังในการเดินทางไกลจะเป็นอันตราย คนต่างชาติจะนำภัยพิบัติมาให้"
-หินะ ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "มักจะเกิดความผิดพลาดในการทำงานจนทำให้ต้องเสียทรัพย์ ความเสียหายในการงานจะเกิดขึ้นเสมอ ให้ระวังเพื่อนร่วมงานจะกลับกลายเป็นศัตรู"
-หินะ ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "โชคลาภจะอับเฉา ทำอะไรก็มักจะไม่ประสบความสำเร็จ ร่วมหุ้นลงทุนกับใครก็จะถูกเขาโกง มีทรัพย์สมบัติก็จะถูกเขาเบียดบังฉ้อโกงไป จะได้ของเหลือเลือกเหลือเดนเขา จะเป็นทุกขลาภ"
-หินะ ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "เป็นโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย จะเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ โรคที่หาสาเหตุได้ยาก จะเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต"
-หินะ ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า "คนรับใช้ใกล้ชิดไม่ซื่อสัตย์พึ่งพาอาศัยไม่ได้ บริวารไม่ดีมักกำเริบเสิบสาน ทรยศได้ง่ายๆ คนชั้นต่ำนอกบ้านโปรดระวังให้ดีอย่าไว้ใจมากนัก"
-หินะ ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "คนใช้หญิงนิสัยไม่ดีไว้ใจไม่ได้ มักจะก่อเหตุเดือดร้อนให้แก่เจ้าชะตาเสมอ
ภรรยาหรือสามีก็จะก่อความเดือดร้อนให้จนเจ้าชะตาแทบจะแทรกแผ่นดินหนี โปรดระวังคนที่มีอายุน้อยในครอบครัวจะก่อความเดือดร้อนให้"
ทำนายภพธนัง
-ธนัง ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตาขยันในการหาเงิน คิดหาวิธีในการแสวงหารายได้ให้แก่ตนเองอยู่เสมอ
เป็นผู้มีฐานะทางการเงินดี"
-ธนัง ตรงกับ กฎุมพะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมีทรัพย์สินเงินทองมาก ร่ำรวยในขั้นเศรษฐี เป็นคนหาเงินเก่ง มีฐานะมั่นคงมาก"
-ธนัง ตรงกับ สหัชชะ ทำนายว่า "มีมิตรสหายที่มีฐานะทางการเงินดีพึ่งพาอาศัยได้ เจ้าชะตาจะต้องเดินทาง
ติดต่อค้าขายกับมิตรสหายในทางไกลจึงจะได้เงินทองมาก"
-ธนัง ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีญาติพี่น้องที่มีฐานะทางการเงินดีพึ่งพาอาศัยได้ ญาติพี่น้องจะแนะนำการแสวงหารายได้แก่เจ้าชะตา เป็นคนมีชาติตระกูลดีมีหลักฐานเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาก"
-ธนัง ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้บุตรดีพึ่งพาอาศัยได้ในอนาคต เจ้าชะตาคิดผลิตอะไรออกมาก็จะกลายเป็นเงินเป็นทองไปหมด"
-ธนัง ตรงกับ อริ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะถูกเบียดเบียนในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง จะถูกฉ้อโกงในเรื่องทรัพย์สินเงินทองและมรดก ศัตรูเป็นคนมีฐานะทางการเงินที่ดีกว่า"
-ธนัง ตรงกับ ปัตตนิ ทำนายว่า "คู่ครองมีฐานะทางการเงินดี มีทรัพย์สมบัติมาก"
-ธนัง ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "ทรัพย์สินเงินทองจะหมดสิ้นไปเพราะถูกฉ้อโกงหรือถูกหลอก ให้คนยืมเงินจะไม่ได้คืน"
-ธนัง ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "ทรัพยืสมบัติที่หามาได้จะอยู่นานไม่จากไปง่ายๆ สะสมของเก่าและวัตถุโบราณดี ทำการค้าขายกับชาวต่างประเทศดีจะมีทรัพย์สมบัติมาก"
-ธนัง ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "การเงินดีหากินคล่อง ทำมาค้าขึ้นทำอะไรก็จะกลายเป็นเงินเป็นทอง ขายของเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์ในทางอุตสาหกรรมดี"
-ธนัง ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีโชคลาภในทางการเงินดี หาเงินได้ง่าย นั่งอยู่เฉยๆบางทีก็ได้เงิน ไม่ค่อยเดือดร้อนเรื่องการเงิน"
-ธนัง ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "ทำมาค้าขายสิ่งใดมักจะล้มเหลวขาดทุน มีหนี้สินมาก เงินทองที่ได้มาก็จะค่อยๆหมดสิ้นไปเพราะได้มาแบบไม่บริสุทธิ์"
-ธนัง ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า "เจ้าชะตามีข้าทาสบริวารดีมีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีเชื่อถือได้ ใช้ทำอะไรวางใจได้ไม่คิดคตทรยศ ทำอะไรก็เพื่อส่วนรวมเป็นสำคัญ"
-ธนัง ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะแสวงหาทรัพย์มาได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์จะต้องได้มาด้วยความ เหนื่อยยากลำบาก เมื่อได้มาแล้วก็เก็บรักษาไว้ดีไม่ยอมใช้จ่ายง่ายๆ การเหนื่อยเพื่อครอบครัวเป็นสิ่งที่เจ้าชะตาพอใจมาก"
ทำนายภพปิตา
-ปิตา ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีรูปร่างคล้ายบิดา มีนิสัยเป็นผู้ใหญ่ๆจะให้ความช่วยเหลือ"
-ปิตา ตรงกับ กฎุมพะ ทำนายว่า "บิดาเป็นผู้มีฐานะทางการเงินดี เจ้าชะตาจะมีฐานะทางการเงินเทียบเท่าบิดา บิดาจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เจ้าชะตา"
-ปิตา ตรงกับ สหัชชะ ทำนายว่า "บิดามีการคบค้าสมาคมดี มักเดินทางติดต่อกับเพื่อนที่สูงวัยกว่า"
-ปิตา ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "บิดามีวงศาคณาญาติมากมีญาติพี่น้องเยอะ บิดาเป็นคนรักครอบครัวดี"
-ปิตา ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "บุตรจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนบิดา บิดาจะช่วยดูแลเลี้ยงดูบุตรของเจ้าชะตา
บุตรคนแรกจะเป็นชาย"
-ปิตา ตรงกับ อริ ทำนายว่า "มักมีความคิดเห็นไม่ลงรอยกับบิดา มักจะขัดแย้งกันบ่อยๆ จะไม่พึ่งพาอาศัยบิดา"
-ปิตา ตรง ปัตตนิ ทำนายว่า "จะมีคู่ครองที่มีอายุมาก จะได้เจ้านายในวงงานเดียวกัน จะได้คู่ครองที่มีอายุมากที่ให้ความช่วยเหลือ จะได้คู่ครองที่ญาติทางฝ่ายบิดาจัดหาให้"
-ปิตา ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "บิดาจะตายก่อนมารดา จะไม่ค่อยได้พึ่งพาอาศัยบิดา บิดาไม่ได้เลี้ยงดู"
-ปิตา ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "บิดาเป็นคนดีมียศศักดิ์ มีชื่อเสียงดี มีชาติตระกูลดี บิดาเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต พึ่งพาอาศัยได้"
-ปิตา ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "บิดาเป็นคนหาเงินเก่ง สร้างฐานะอันมั่นคงไว้ให้แก่เจ้าชะตา"
-ปิตา ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "บิดาเป็นคนมีลาภผลดี มักมีโชคลาภเกิดขึ้นเสมอ"
-ปิตา ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "บิดามีเหมือนไม่มีพึ่งพาอาศัยไม่ได้ ถึงมีก็จะไม่ได้เลี้ยงดูกัน"
-ปิตา ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า "บืดาเป็นคนชั้นต่ำหรือเป็นรับใช้เขามาก่อน แต่เป็นที่พึ่งของคนโดยทั่วไป"
-ปิตา ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "บิดาเป็นคนต้อยต่ำ แต่ขยันในการหาเลี้ยงครอบครัวดีเป็นคนรักและซื่อสัตย์ต่อครอบครัวมาก"
ทำนายภพมาตา
-มาตา ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีรูปร่างหน้าตาเหมือนมารดา จะได้รับการอุปการช่วยเหลือจากมารดา จะได้รับการช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่ฝ่ายมารดา"
-มาตา ตรง กฎุมพะ ทำนายว่า "มารดาของเจ้าชะตามีฐานะทางการเงินดีพึ่งพาอาศัยได้"
-มาตา ตรงกับ สหัชชะ ทำนายว่า "มารดาเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงสังคม มีมิตรสหายมาก มักมีการติดต่อเดินทางไปมาค้าขายกับเพื่อนฝูงในถิ่นไกล"
-มาตา ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "มารดามีญาติพี่น้องมาก มีตระกูลดี มีความรักใคร่ในครอบครัวดีพึ่งพาอาศัยได้"
-มาตา ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "บุตรของเจ้าชะตามีรูปร่างหน้าตาและอุปนิสัยใจคอเหมือนมารดา มารดาช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูบุตรเป็นอย่างดี จะมีบุตรคนแรกเป็นผู้หญิง"
-มาตา ตรงกับ อริ ทำนายว่า "มักมีความคิดเห็นขัดแย้งกับมารดา ไม่ถูกอัธยาศัยกับมารดา พึ่งพาอาศัยมารดาไม่ได้"
-มาตา ตรงกับ ปัตตนิ ทำนายว่า "จะมีคู่ครองที่มีอายุมาก คนมีอายุมากจะให้ความอุปการะช่วยเหลือ จะมีคู่ครองที่เป็นญาติทางฝ่ายมารดา หรือมารดาเป็นผู้จัดแจงให้"
-มาตา ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "แม่ตายก่อนพ่อ ถึงไม่ตายก็พึ่งพาอาศัยไม่ได้ จะต้องพลัดพรากจากกันไป"
-มาตา ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "แม่ของเจ้าชะตาเป็นคนดีมีใจเป็นกุศลชอบทำบุญสุนทาน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
พึ่งพาอาศัยได้ เกิดในสกุลดีมีเกียรติยศชื่อเสียง"
-มาตา ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "มารดาเป็นคนขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพในการสร้างฐานะ มารดาหาเงินเก่ง"
-มาตา ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "มารดาเป็นคนโชคดีมักมีโชคลาภเกิดขึ้นเสมอ ทำอะไรมักประสบผลสำเร็จ
พึ่งพาอาศัยได้"
-มาตา ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "มารดามีสุขภาพไม่ค่อยดี มักเจ็บป่วยอยู่บ่อยๆ พึ่งพาอาศัยไม่ได้ อับโชค
รับราชการไม่ดีจะได้ออกกลางคัน "
-มาตา ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า "มารดาเป็นคนขยันหนักเอาเบาสู้ อดทนต่อสู้ในการสร้างฐานะ เป็นที่พึ่งของครอบครัวได้โดยทั่วๆไป"
-มาตา ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "มารดาเป็นคนขยันในการหาเลี้ยงครอบครัว และเป็นคนรักครอบครัวดี"
ทำนายภพโภคา
-โภคา ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีทรัพย์สมบัติเกี่ยวกับที่ดินมาก และรู้จักรักษาทรัพย์สมบัตินั้นได้ดี"
-โภคา ตรงกับ กฎุมพะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีทรัพย์สินเงินทองและทรัพย์สมบัติมาก ทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดินดี
จะร่ำรวยมาก"
-โภคา ตรงกับ สหัชชะ ทำนายว่า "ญาติพี่น้องและมิตรสหายเป็นสาเหตุทำให้เจ้าชะตามีทรัพย์สมบัติมาก เจ้าชะตาเดินทางติดต่อค้าขายเกี่ยวกับที่ดินดี"
-โภคา ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยและยวดยานพาหนะอันเป็นของตนเอง มีธุกิจ
เกี่ยวกับรถยนต์และยวดยานพาหนะดี"
-โภคา ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีบุตรเป็นทรัพย์สมบัติ บุตรธิดาจะเป็นบุคลากรที่ดีในการประกอบอาชีพของเจ้าชะตา และจะแบ่งเบาในการประกอบกิจการเป็นอย่างดี"
-โภคา ตรงกับ อริ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะเกิดเป็นคดีความเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน จะถูกรุกล้ำสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดิน
จะถูกฉ้อโกงเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน"
-โภคา ตรงกับ ปัตตนิ ทำนายว่า "คู่ครองเป็นคนร่ำรวยเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน และมีเรือกสวนไร่นามาก เป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องของที่ดิน"
-โภคา ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีทรัพย์สมบัติเกี่ยวกับที่ดินไม่ได้จะเดือดร้อนทันที มีเท่าไหร่ก็วิบัติฉิบหายไปหมด อยู่กับตนเองไม่นาน"
-โภคา ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "ทรัพย์สมบัติที่หามาได้จะอยู่กับเจ้าชะตานาน จะรักษาทรัพย์สมบัติไว้ได้ดี ไม่ใช้จ่ายไปง่ายๆถ้าไม่จำเป็น"
-โภคา ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องของที่ดินดี จะมีโภคสมบัติมาก ขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพโดยไม่หยุดนิ่ง"
-โภคา ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "มักมีโชคลาภเกี่ยวกับเรื่องของที่ดิน ทำการค้าเกี่ยวกับเรื่องของที่ดินดีเอามากๆ จะทำให้เจ้าชะตาเกิดความร่ำรวยอย่างมั่นคง"
-โภคา ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "จะเกิดความล้มเหลวเกี่ยวกับเรื่องของที่ดิน ทรัพย์สมบัติที่มีจะค่อยๆวิบัติ
ไปจนแทบไม่เหลือ ของที่ได้มามักมีตำหนิ จะถูกยึดครองเกี่ยวกับที่ดิน"
-โภคา ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า " ทรัพย์สมบัติเกี่ยวกับเรื่องของที่ดินมีน้อยมาก แต่ด้วยความขยันขันแข็งทรหดอดทนจนทำให้เจ้าชะตามีทรัพย์สมบัติเป็นปึกแผ่นมั่นคง"
-โภคา ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "เจ้าชะตารักษาทรัพย์สมบัติเอาไว้ได้ดี ไม่ยอมให้มันหมดไปง่ายๆ ที่หมดไปแล้วก็จะหามาเก็บรักษาไว้เหมือนเดิม"
ทำนายภพมัชฌิมา
-มัชฌิมา ตรงกับ ตนุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีชีวิตพอปานกลางไม่สูงไม่ต่ำ มีความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ไม่กระตือรือร้น"
-มัชฌิมา ตรงกับ กฎุมพะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีฐานะทางการเงินพอปานกลาง ไม่ร่ำรวยนัก"
-มัชฌิมา ตรงกับ สหัชชะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีเพื่อนฝูงพอปานกลางไม่มากมายนัก ไม่ชอบการคบหาเพื่อนฝูงมากมายนัก ชอบการคบหากับคนที่มีทัศนคติดี"
-มัชฌิมา ตรงกับ พันธุ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงไม่ค่อยมาก มีนิดหน่อยพอปานกลาง"
-มัชฌิมา ตรงกับ ปุตตะ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีบุตรธิดาไม่มาก ถึงมีมากก็จะเหลือน้อย"
-มัชฌิมา ตรงกับ อริ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีศัตรูน้อย ถึงมีก็ทำอันตรายไม่ได้"
-มัชฌิมา ตรงกับ ปัตตนิ ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีคู่ครองที่มีฐานะเท่าเทียมกัน"
-มัชฌิมา ตรงกับ มรณะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมีสุขภาพดี ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย มีอายุยืน"
-มัชฌิมา ตรงกับ สุภะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบทำความดีพอปานกลาง ไม่ชอบการทำตัวให้โดดเด่นนัก ชอบทำความดีแบบปิดทองหลังพระ"
-มัชฌิมา ตรงกับ กัมมะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมักน้อยสันโดษ ไม่ชอบการทำงานหามรุ่งหามค่ำ ชอบการประกอบอาชีพเพื่อเอาตัวลอดได้เท่านั้น"
-มัชฌิมา ตรงกับ ลาภะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมีโชคลาภพอปานกลาง ไม่ชอบการแสวงหาโชคลาภจนทำให้ตนเองเกิดความเดือดร้อน ได้ก็เอาไม่ได้ก็ไม่เอา ตามมีตามเกิด"
-มัชฌิมา ตรงกับ พยายะ ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนระมัดระวังตัวดีไม่ค่อยมีเรื่องเสียหายเกิดขึ้นง่ายๆ โรคภัยไข้เจ็บก็มีน้อย รู้จักวิธีรักษาตนให้มีสุขภาพดี"
-มัชฌิมา ตรงกับ ทาสา ทำนายว่า "มีข้าทาสบริวารน้อยแต่ขยันขันแข็งในการทำงานดี มีความจงรักภักดีต่อ
เจ้านายมาก"
-มัชฌิมา ตรงกับ ทาสี ทำนายว่า "มีคนรับใช้หญิงดี จงรักภักดีต่อเจ้านายของตนเอง รักเจ้านายของตนเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน"
ตัวอย่างการทำนายความสัมพันธ์ของภพ
-นายเดชรัตน์ เดชาพิทักษ์ เกิดวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๓ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๘-๘
ปีวอก ตั้งเป็นเลขของพื้นดวงชะตาดังนี้
-วันเสาร์ = 7
-เดือน 8 = 1
-ปีวอก = 2
เลขพื้นดวงชะตานาย เดชรัตน์ เดชาพิทักษ์
7 1 2 3 4 5 6
1 2 3 4 5 6 7
2 3 4 5 6 7 1
10 6 9 12 15 18 14
-วิธีการทำนาย
-เลข 7 ในภพอัตตะ มีความสัมพันธ์กับเลข 7 ในภพปัตตนิ และเลข 7 ในภพทาสา โดยมีเลข 18 เป็นฐานบวก ทำนายว่า
" เจ้าชะตาจะได้คู่ครองที่มีฐานะเท่าเทียมกัน มีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพหนักเอาเบาสู้เป็นคนสปอร์ตชอบเสียสละ ชอบทำบุญและการช่วยเหลือผู้อื่นจนเป็นที่นิยมยกย่องของคนทั่วไป"
-เลข 1 ในภพหินะ มีความสัมพันธ์กับเลข 1 ในภพตนุ และมีความสัมพันธ์กับเลข 1 ในภพทาสี โดยมีเลข 14 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนขี้โรค มักเจ็บป่วยบ่อยๆจนคนในบ้านรำคาญ แต่ก็สามารถรัษาให้หายได้ เป็นคนมีนิสัยดื้อดึงจนทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน ต่อมาในภายหลังก็สามารถปรับปรุงตนเองได้"
-เลข 2 ในภพธนัง มีความสัมพันธ์กับเลข 2 ในภพกฎุมพะ และมีความสัมพันธ์กับเลข 2 ในภพมรณะ โดยมีเลข 10 เลขกำลังของดาวเสาร์ เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมีฐานะร่ำรวย แต่ทรัพย์สินเงินทองจะหมดไปเพราะถูกเขาฉ้อโกงและหลอกลวงเอา ถ้าเราอยากรู้ว่าใครเป็นสาเหตุให้เงินนี้หมดสิ้นไปก็จงดูที่เลข 10 ที่เป็นเลขฐานบวกของข้อนี้ เลข 10 เป็นเลขกำลังของดาวเสาร์ดาวเสาร์ในพื้นดวงชะตาก็คือเลข 7 เลข 7 เป็นเลขของภพอัตตะ, ปัตตนิ, และทาสา ข้อนี้ก็ทำให้เรารู้ว่าทรัพย์สินเงินทองที่หมดสิ้นไปก็เพราะภรรยานำเอาไปช่วยเหลือลูกน้องและบริวารให้เขากู้ยืม ลูกน้องบริวารที่กู้ยืมเงินไปแล้วไม่สามารถนำมาส่งคืนได้จึงกลายเป็นการฉ้อโกงไป ข้อนี้ข้าพเจ้าดูย้อนขึ้นให้ท่านดู การดูย้อนขึ้นนี้สำคัญมากขอให้ผู้ศึกษาทั้งหลายพิจารณาดูให้ดีๆ ถ้าเราอยากรู้ว่าเงินที่เขายืมไปจะได้คืนหรือไม่ ให้ดูที่เลข 18 ที่เป็นเลขฐานบวกของข้อนี้ เลข 18 เป็นเลขของพระเจ้ามหาจักรพรรดิ หมายถึงอำนาจและความเป็นใหญ่ เป็นตัวบ่งบอกให้รู้ว่าจะไม่สูญหายทรัพย์สินเงินทองไปง่ายๆ จะต้องต่อสู้กันจนกว่าจะได้เงินกลับคืนมา ในที่สุดก็จะได้เงินคืนมาแต่ช้าหน่อยและจะหมดเงินในการต่อสู้กันมากพอสมควร นี้คือลีลาการดูย้อนขึ้นซึ่งเลขในพื้นดวงชะตา ถ้าผู้ศึกษาสามารถฝึกดูการย้อนขึ้นให้มากๆ ท่านก็จะเป็นนักพยากรณ์ที่เก่งและแม่นยำมากที่สุดหาผู้เสมอได้ยาก"
-เลข 3 ในภพปิตา มีความสัมพันธ์กับภพ สหัชชะ และภพ สุภะ โดยมีเลข 6 เลขกำลังของดาวอาทิตย์เป็นฐานบวก ทำนายว่า "บิดาเป็นคนดีและมีเพื่อนฝูงมากแต่ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ค่อยได้ เพื่อนฝูงทั้งหลายที่เข้ามาคบหาด้วยเข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์มากกว่าช่วยอะไรไม่ได้"
-เลข 4 ในภพมาตา มีความสัมพันธ์กับเลข 4 ในภพ พันธุ และเลข 4 ในภพกัมมะ โดยมีเลข 9 เลขของดาวเกตุเป็นเลขฐานบวก ทำนายว่า "มารดาของเจ้าชะตามีญาติพี่น้องมากเป็นตระกูลผู้ดีมีความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพมากสามารถสร้างทรัพย์สินเงินทองเอาไว้ให้ลูกหลานมาก เจ้าชะตาจะได้มรดกจากมารดาอย่างแน่นอน"
-เลข 5 ในภพ โภคา มีความสัมพัธ์กับเลข 5 ในภพปุตตะ และเลข 5 ในภพลาภะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของดาวพระราหูเป็นเลขฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้บุตรดีมีความกตัญญูต่อพ่อแม่พึ่งพาอาศัยได้ แต่บุตรของเจ้าชะตามีนิสัยเป็นนักเลงชอบกิเหล้าเมายาชอบการพนัน ถ้าเห็นคนถูกรังแกไม่ได้ต้องยื้อมือเข้าไปช่วยเหลือทันที พอแก่ตัวลงความเป็นนักเลงก็จะหมดหายไป"
-เลข 6 ในภพมัชฌิมา มีความสัมพันธ์กับเลข 6 ในภพ อริ และเลข 6 ในภพพยายะ โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวจันทร์ เป็นเลขฐานบวก ทำนายว่า " เจ้าชะตามีศัตรูน้อย ถึงมีก็ทำอันตรายไม่ได้เพราะเจ้าชะตาเป็นคนระมัดระวังตัวดี ชอบช่วยเหลือคนที่ถูกรังแก ต่อไปศัตรูก็จะกลับกลายเป็นมิตรไปหมด"
ความหมายของเลขในฐานบวก
-เลขของฐานบวกแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ:-
๑.เลขกำลังพิเศษมี ๖ ตัว คือ: เลข ๙ เลข ๑๑ เลข ๑๓ เลข ๑๔ เลข ๑๖ เลข ๑๘
๒.เลขกำลังวัน มี ๘ ตัว คือ: เลข ๖ เลข ๘ เลข ๑๐ เลข ๑๒ เลข ๑๕ เลข ๑๗ เลข ๑๙ เลข ๒๑
๓.เลขกำลังเล็ก มี ๕ ตัว คือ: เลข๓ เลข๔ เลข๕ เลข๗ เลข๒๐
-เลขในฐานบวกมีประโยชน์ดังนี้
๑.เลขในฐานบวกเป็นตัวชี้ขาดในการทำนาย ตัวเลขในพื้นดวงชะตาทั้ง ๓ แถวเหล่านั้จะดีหรือชั่วก็ตามให้ถือเอาเลขในฐานบวกเป็นตัวตัดสินชี้ขาดในการทำนาย เช่น:-
-ถ้าอยากรู้ความร่ำรวยของคนให้ดูตัวเลขในภพ ธนัง ในแถวของวันเกิดและดูความสัมพันธ์ของตัวเลขในแถวของเดือนเกิดและปีเกิดด้วย เช่น เลขในภพของวันเกิดเป็นเลข ๖ และดูความสัมพันธ์ของเลข ๖ ในแถวของเดือนเกิดว่าไปตกอยู่ภพอะไรและเลข ๖ในฐานของปีเกิดไปตกภพอะไร เช่น:-
-4 5 6 7 1 2 3
5 6 7 1 2 3 4
3 4 5 6 7 1 2
12 15 18 14 10 6 9
ตัวเลขในพื้นดวงชะตานี้ ในภพธนังเป็นเลข 6 ไปสัมพันธ์กับเลข 6 ในภพกฎุมภะในแถวของเดือนเกิดและไปสัมพันธ์
กับเลข 6 ในภพลาภะในแถวของปีเกิด และมีเลข 14 เป็นฐานหรือเป็นตัวหนุน แล้วเราก็เอาภพที่เลข 6 ไปอยู่ออกมาเป็นคำพยากรณ์ดังนี้
ธนัง + กฎุมภะ + ลาภะ โดยมีเลข 14 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "คนนี้จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีเป็นคนใจบุญมีเกียรติยศชื่อเสียงดีมีคนนิยมยกย่องนับถือมาก"
ถ้ามีเลข 12 เป็นตัวฐานบวก ทำนายว่า "ผู้นี้ถึงจะร่ำรวยอยู่ในขั้นเศรษฐีก็จริงแต่ภายหลังจะกลับจนลงกลายเป็นเศรษฐีตกยากไป" เราดูจากอะไรถึงกล้าทำนายแบบนี้ดูจากเลข 12 ไง เลข 12 เป็นเลขของนักเลงนักการพนัน เศรษฐีคนนี้เมื่อร่ำรวยแล้วประมาทไม่ทำบุญสุนทาน กลับไปกินเหล้าเมายาเล่นการพนันมั่วสุมยาเสพติดและผู้หญิงเล่นลูกเล่นเมียเขา ชะตาชีวิตจึงตักอับกลายเป็นคนยากจนไป นี้คือตัวอย่างที่ข้าพเจ้ายกมาให้ดูโปรดพิจารณาดูให้ดีๆถึงอำนาจของตัวเลขในฐานบวกว่ามันมีอำนาจเพียงไร
๒.เลขในฐานบวกมีประโยชน์ในการทำนายจรมาก เมื่อต้องการจะรู้ว่า "ชะตาชีวิตจะดีหรือร้าย" ให้ถือเอาเลขในฐาน
บวกนี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน
เลขกำลังพิเศษ
๙ หมายถึง เลขของดาวพระเกตุ
-เดิมหมายถึง ญาณ
-ให้คุณในทาง:- อิทธิฤทธิ์, อำนาจ, การแคล้วคลาด, การหยั่งรู้, การสะสม, ผู้มีหลักทรัพย์มรดก, ผู้มีเชื้อสายสกุลสูง
,การทรงเจ้าเข้าผี, นักบวช, นักวิปัสสนา, จิตศาสตร์, โหราศาสตร์, องค์กร, รัฐวิสาหกิจ, ต่างประเทศ (ยุโรป), สิ่งของพระราชทาน, เครื่องราชอิสริยาภรณ์, ตำแหน่งงานชั้นพิเศษ
-ประโยชน์ในการายจร:- จะได้ลาภ, จะได้รับตำแหน่งแบบไม่คาดฝัน, ได้แบบปาฏิหาริย์, ได้ของโบราณ. ได้จากทางไกล, ได้มรดก, ได้แบบสะสม, จะประสบชัยชนะในการทำงานแบบแหวกแนว, ได้เกียรตินิยม, เครื่องมือวิทยาศาสตร์ทางสมองกล
๑๑ หมายถึง เลขของราชาโชค
-เดิมหมายถึง บารมี
-ให้คุณในทาง:- ความสะดวกสบาย, ความนิยมยกย่อง, ได้ดีเพราะการช่วยเหลือของผู้อื่นเป็นส่วนมาก, พ่อแม่มักจะไม่ค่อยได้เลี้ยงดูเพราะถูกยกให้ผู้อื่นเพื่อแก้เดล็ด, ชอบการทำงานอิสระทุกประเภท, เป็นข้าราชการได้ทุกหน่วย, เป็นครูดี
-ประโยชน์ในการทายจร:- จะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุน, มีผลดีในการติดต่อขอร้อง, กรดำเนินธุรกิจที่ต้องการความร่วมมือทุกชนิด, จะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเพราะผู้ใหญ่ขอให้เองหรือยัดเยียดตำหน่งให้, จะได้งานโดยไม่ต้องมีการประมูลแข่งขัน การสอบจะมีเป็นพิธี
๑๓ หมายถึง เลขของมหาอุจ คือความสูงเด่น
-เดิมหมายถึง วาสนา
-ให้คุณในทาง:- ความสูงส่งในตำแหน่งหน้าที่การงาน , มีเชื้อสายสกุลดี, ข้าราชการทุกประเภทในระดับหน้าขึ้น
ไป, ผู้อำนวยการ, ผู้จัดการบริษัทห้างร้านต่างๆ, ชั้นเอก
๑๔ หมายถึง เลขของพระเจ้าจักรพรรดิ
-เดิมหมายถึง เกียรติยศชื่อเสียง
- ให้คุณในทาง:- เกียรติยศชื่อเสียง, ความนิยมยกย่อง, นักบวช, นักสอนศาสนา, นักปกครอง, ตำแน่งงานชั้นพิเศษ -การทายจร:- จะได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน, จะได้รับการแต่งตั้งแบบอุปโลกน์
๑๖ หมายถึง เลขของเศรษฐี
-เดิมหมายถึง ทรัพย์
-ให้คุณในาง:- ความร่ำรวย, ความมั่งคั่ง, การมีโชค, การมีเงินเป็นจำนวนมาก, มีความสามารถในการหาเงินแบบน้ำบ่อทราย, สติปัญญาก็วิเศษ
-การทายจร:- จะมีความสำเร็จในสิ่งต่างๆได้โดยง่าย, มีโชคลาภไม่ขาดสาย, คิดอะไรก็จะมีความสำเร็จสมปราถนา
๑๘ หมายถึง เลขของพระเจ้ามหาจักรพรรดิ
-เดิมหมายถึง อำนาจ
-ให้คุณในทาง:- อิทธิพล, อำนาจ, ความยิ่งใหญ่, การปกครอง, การยึดครอง, การช่วงชิงสิทธิและอำนาจ, การชำระสะสางผลประโยชน์, ผู้ก่อตั้งบริษัท ห้างร้าน โรงเรียน แะสมาคม, การหวังตำแหน่ง
-การทายจร:- จะประสบความสำเร็จในการจัดตั้ง, การกวาดล้าง, การปฏิวัติ, มีผลดีในการติดต่อแบบเผด็จการ
เลขกำลังวัน
๖ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระอาทิตย์
-เดิมหมาถึง ความดีเด่น
-ให้คุณในทาง:- พละกำลัง, การกระจายแสง, การกระจายความปราถนา, ความมักใหญ่ไฝ่สูง, ทิฏฐิมานะอันแรงกล้า
-การทายจร:- จะประสบความสำเร็จในการคิดอ่านเพื่อมวลโลก, ความตั้งใจ, ได้ชื่อเสียงเกียรติยศเกียรติคุณ, และ
การยกย่อง
๘ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระอังคาร
-เดิมหมายถึง ความกล้าหาญ
-ให้คุณในทาง:- ความแข็งแกร่ง, ความคล่องแคล่ว, ความมีพละเดช, และการข่งขัน
-การทายจร:- มีผลดีในการใช้พลัง, การจู่โจม, การแข่งขันชิงดีชิงเด่นแบบซึ้งๆหน้า
-มีผลร้ายในการขัดใจกันเพราะการยุยง, การแข่งดีลับหลัง, หงุดหงิดไม่มีสาเหตุ, มีดบาด, ถูกอาวุธทิ่มแทง, ถูกกระสุนปืน, แผลแตก, เจาะ, ผ่า, แหวะ
๑๐ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระเสาร์
-เดิมหมายถึง ความอดทน
-ให้คุณในทาง:- การคุ้มครองป้องกัน, ความอดทน, ความลำบาก, การเปลี่ยนแปลงจากดีเป็นร้าย, โดยทั่วๆไปให้ทายหลักฐานดี ในเมื่อดาวพระเสร์ตั้งอยู่บนฐานของเลขตัวนี้
-การทายจร:- มีผลดีในทางทหาร การทำเกษตรกรรม กสิกรรม และอุตสาหกรรม
-มีผลร้ายในทาง อุบัติเหตุ ไฟไหม้ ภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติ, ถูกจับ, บาดเจ็บถึงกระดูกแตกหัก
๑๒ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระราหู
-เดิมหมายถึง นักเลง
-ให้คุณในทาง:- การพนัน, การพัฒนา, คนต่างชาติ (ชาวเอเซีย), และสิ่งแปลกปลอม
-การทายจร:- มีผลดีในทางคุ้มครองป้องกัน, การปราบปราม, การจัดตั้งโรงงานที่เป็นเครื่องดื่มทุกชนนิด, การก่อสร้างฐานทับและสนามบิน, ใจสปอร์ต
-มีผลร้ายในทาง การเป็นนักเลง ชอบสิ่งเสพติดและของมึนเมา ใช้อิทธิพลในทางที่ไม่ถูก, ชอบเบียดเบียนรังแกผู้อื่น
๑๕ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระจันทร์
-เดิมหมายถึง การคบค้าสมาคม
-ให้คุณในทาง:- การเดินทาง, การคล่องตัว, การปรับปรุงรูปโฉม, และการบรืการประชาชนที่ดี
-การทายจร:- มีผลดีในทางการวิจัย, ทางโภชนาหาร, การประมง, การขนส่งในทุกๆทางทั้งบนพื้นดินและอากาศ,
และการบริการประชาชนที่ดีทุกชนิด
๑๗ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระพุธ
-เดิมหมายถึง ความคิดอ่าน
-ให้คุณในทาง:- มีจิตสำนึกดี, มีความรับผิดชอบสูง, รู้จักการผ่อนปรนในการติดต่อและการเจรจา, รู้จักจังหวะและโอกาสอันสมควร, สมองกล
-การทายจร:- จะประสบผลสำเร็จในการค้นคิดและการประดิษฐ์, จะมีผลสำเร็จในทางด้านเอกสาร, การทูต, การพาณิชย์, และการติดต่อสื่อสารทุกชนิด
๑๙ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระพฤหัสบดี
-เดิมหมายถึง การศึกษา
-ให้คุณในทาง:- การศึกษา, การศึกษาทุกแขนง เช่น โรงเรียนของทางราชการและเอกชนทุกชนิด และมหา
วิทยาลัย, ความรอบรู้ในวิชาการต่างๆ
-การทายจร:- ฉลาดในการใช้ไหวพริบแก้ปัญหาในทุกๆด้าน, มีผลดีในด้านการศึกษา, การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการศึกษา, ได้เป็นที่ปรึกษาในทางวิชาความรู้
๒๐ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระเสาร์กำลังสอง
-เดิมหมายถึง ความผันผวน
-ให้คุณในทาง:- การผัดเปลี่ยนทางการเมือง, มีเหตุร้ายเกิดขึ้นโดยไม่ทันคิด, โชคลาภไม่แน่นอน, การถูกเนรเทศ
การฆ่าตัวตาย
-การทายจร:- เกิดเรื่องร้ายขึ้นโดยไม่คาดฝัน, ต้องเดินทางไปในลักษณะลี้ภัย, การถูกยึดทรัพย์, การถูกเนรเทศ
๒๑ หมายถึง เลขกำลังของดาวพระศุกร์
-เดิมหมาย ถึงศิลป์
-ให้คุณในทาง:- การมีศิลป์, มีศิลปะในการใช้ความรู้แทบทุกสาขา ทั้งการเงิน, การคลัง, และของสำเร็จรูปทุกประเภท
-การทายจร:- ได้รับรางวัลจากการแสดง, มีผลดีในการติดต่อสือสารและการโชว์ตัว, มีความสามารถในการแก้ปัญหาทางการเงินได้สำเร็จ, ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงินและการคลัง
เลขกำลังเล็ก
๓ หมายถึง เลขของดาวอังคารเล็ก
-เดิมหมายถึง ความคล่องแคล่ว
-ให้คุณในทาง:- แตกทำลายเสียหายเพราะอุบัติเหตุ, เร่งรีบ, ผ่าตัด, ถูกจับกุมและการถูกลอบทำร้าย
-การทายจร:- มีเรื่องทะเลาะกันเพราะโทสะ, การปะทะขัดแย้ง, การเรียกร้องสิทธิ, เรื่องระหว่างนายทุนกับกรรมกร,
อุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล, ต้องผ่าตัด, เรื่องชู้สาว, โดนศาลเตี้ย
๔ หมายถึง เลขของดาวพุธเล็ก
-เดิมหมายถึง ความเขื่อถือ
-ให้คุณในทาง:- เชื่อง่าย, มีความเพ้อฝันในทาผิด, หย่อนเหตุผล
-การทายจร:- ถูกชักชวนให้กระทำการต่างๆซึ่งเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
๕ หมายถึง เลขของดาวพฤหัสบดีเล็ก
-เดิมหมายถึง ความศรัทธา
-ให้คุณในทาง:- ความเชื่อถือ, ควมยึดหมั่น, การมุ่งมั่นในทางความดี
-การทายจร:- มีผลดีในการสร้างบุญกุศลทางศาสนา, การศึกษาในระดับเล็ก
๗ หมายถึง เลขของดาวเสาร์เล็ก
-เดิมหมายถึง ความเข้มแข็ง
-ให้คุณทาง:- ความเสื่อมโทรม, การทำลายล้างและการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย, การทำแผลง
-การทายจร:-มีผลดีในการซ่อมแซม, การรื้อเพื่อสร้างใหม่
-มีผลร้ายในการหมดสัญญาการก่อสร้าง, ความเสียหายเพราะผิดสัญญา, เป็นคดีความ, เรื่องร้ายที่เรื้อรัง, ถูกต้องขัง
ตัวอย่างการพยากรณ์ตัวเลขในพื้นดวงชะตา
ดวงชะตาของ น.ส.ชนิสา แก้วบุดดา
-เกิดวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๖ ตรงกับวัน ศุกร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุล
-วันศุกร์ = 6
-เดือน ๙ = 2 (ข้อนี้ให้เอาเลข 7 มาลบ 9 เหลือเศษ 2)
-ปีกุล = 5 (ข้อนี้ ให้เอาเลข 7 มาลบ 12 เหลือเศษ 5)
-ต่อไปให้เอาเลขวันเดือนปีเกิดไปตั้งเป็นเลขในพื้ดวงชะตาดังนี้
6 7 1 2 3 4 5
2 3 4 5 6 7 1
5 6 7 1 2 3 4
13 16 12 8 11 14 10
๑.วิธีการทำนายให้ถือเอาเลขในแถวของวันเกิดทั้ง 7 ตัวเป็นเกณฑ์ในการทำนาย
๒.ให้ดูความสัมพันธ์ของตัวเลขที่เป็นเลขตัวเดียวกันในแถวของวันเกิด, เดือนเกิด, และปีเกิดด้วย
๓.ให้ดูเลขในฐานบวกเป็นตัวตัดสินว่าดีหรือร้ายคือเป็นตัวชี้ขาดนั่นเอง โปรดสังเกตดูวิธีการทำนายข้างล่างนี้
๔.ให้เอาชื่อของภพที่ตัวเลขไปอยู่มาเป็นตัวทำนาย เช่น:-
-ทำนายเลข 6 เลข 6 ตรงกับภพ อัตตะ + ปุตตะ + สุภะ และมีเลข 16 เลขของเศรษฐีเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีนิสัยดีมีความรู้ดีมีรูปร่างสวยจิตใจชอบทำบุญสุนทาน จะได้บุตรดีมีบุญวาสนา ต่อไปเจ้าชะตาจะร่ำรวยเป็เศรษฐีมีทรัพย์สินเงินทองมาก"
-ทำนายเลข 7 ตรงกับภพ หินะ + อริ + กัมมะ และมีเลข 12 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "การงานจะมีอุปสรรคและมีศัตรูป้องร้ายมากแต่เจ้าชะตาก็จะเอาชนะศัตรูและอุปสรรคได้ด้วยความสามารถของตนเองโดยไม่ต้องขอร้องให้ใครช่วย"
-ทำนายเลข 1 เลข 1 ตรงกับภพ ธนัง + ปัตตนิ + ลาภะ และมีเลข 8 เลขกำลังของดาวอังคารเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้สามีที่มีฐานะทางการเงินดี รูปร่างสันทัดผิวเนื้อดำแดง อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เจ้าชะตามักจะมีโชคลาภทางการเงินอยู่บ่อยๆ เมื่อเจ้าชะตามีเงินมากแล้วมักจะเก็บเงินนั้นไว้ไม่อยู่ จะมีพ่อแม่และพี่ชายมาขอความช่วยเหลือเรื่องการเงินอยู่เสมอ"
-ทำนายเลข 2 เลข 2 ตรงกับภพ ปิตา + ตนุ + พยายะ และมีเลข 11 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนพ่อ จะพึ่งพ่อและญาติผู้ใหญ่ฝ่ายพ่อไม่ได้เลยจะพึ่งตนเองมากกว่า"
-ทำนายเลข 3 เลข 3 ตรงกับภพ มาตา + กฎุมภะ + ทาสา และมีเลข 14 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "แม่ของเจ้าชะตาเป็นคนมีฐานะทางการเงินดีและมีลูกน้องที่เป็นชายมากและแม่เป็นคนขยันในการหาเงินและเป็นคนมีชื่อเสียงในวงสังคม พึ่งพาอาศัยได้"
-ทำนายเลข 4 เลข 4 ตรงกับภพ โภคา + สหัชชะ + ทาสี และมีเลข 10 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะต้องเดินทางติดต่อกับมิตรสหายเพื่อนฝูงและลูกน้องอยู่เสมอจึงจะทำให้ได้ทรัพย์สมบัติเกิดขึ้นเรื่อยๆ มีคนใช้หรือบรืวารที่เป็นหญิงดีเชื่อใจได้ "
-ทำนายเลข 5 เลข 5 ตรงกับภพ มัชฌิมา + พันธุ + มรณะ และมีเลข 13 เป็นฐานบวก ทำนายว่า " เจ้าชะตามีญาติพี่น้องมากแต่พึ่งพาอาศัยอะไรมิได้ พึ่งตัวเองมากกว่า ถึงพึ่งได้ก็เป็นเรื่องอื่นเรื่องการเงินไม่ได้"
ดวงชะตาของนาย นรชัย ดวงดี
-นายนรชัย ดวงดี เกิดวันที่ 19 พฤษภาคม ๒๕๑๔ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีชวด
-วันศุกร์ = 6
-เดือน = 7
-ปีชวด = 1
6 7 1 2 3 4 5
7 1 2 3 4 5 6
1 2 3 4 5 6 7
14 10 6 9 12 15 18
-วิธีพยากรณ์มีดังนี้
-เลข 6 ตรงกับภพ อัตตะ + ปัตตนิ + ทาสา และมีเลข เลข 15 ซึ่งเป็นเลขกำลังของดาวจันทร์เป็นฐานบวก พยากรณ์ว่า "เจ้าชะตาเป็นคนลำบากมาก่อน เป็นกรรมกรเป็นลูกน้องเขา หาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเขากิน ด้วยความขยันมั่นเพียเลยวัยกลางคนไปแล้วจึงจะดีมีความสุข เจ้าชะตาจะได้คู่ครองที่มีฐานะเท่าเทียมกันเป็นลูกน้องหรือลูกจ้างเขามาก่อน ทรัพย์สินเงินทองที่ได้มาๆด้วยความเหนื่อยยากลำบากอาบเหงื่อต่างน้ำไม่ใช่ได้มาโดยวิธีง่ายๆเหมือนผู้อื่น
-เลข 7 ตรงกับภพ หินะ + ตนุ + ทาสี และมีเลข 18 เลขของพระเจ้ามหาจักรพรรดิเป็นฐาน ทำนายว่า "เจ้าชะตามีนิสัยดื้อด้านถือดีจึงทำให้ตนเองตกต่ำไม่มีอำนาจ"
-เลข 1 ตรงกับภพ ธนัง + กฎุมภะ + มรณะ และมีเลข 14 เลขของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐาน ทำนายว่า "เจ้าชะตามีฐานะทางการเงินไม่ดีหาเงินได้เท่าไหร่ก็ไม่เหลือ มีเงินมากยิ่งจะทำให้ตนเองเกิดความเดือดร้อนมากกว่า"
-เลข 2 ตรงกับภพ ปิตา + สหัชชะ + สุภะ และมีเลข 10 เลขกำลังของดาวพระเสาร์เป็นฐาน ทำนายว่า
"เจ้าชะตามีเพื่อนฝูงดีแต่พึ่งพาอาศัยไม่ได้เรื่องการขอความช่วยเหลือคงยาก เมื่อถึงคราวอัตคัดขัดสนไปขอความช่วยเหลือก็จะบอกปัดเสีย"
-เลข 3 ตรงกับภพ มาตา + พันธุ + กัมมะ และมีเลข 6 ซึ่งเป็นเลขกำลังของดาวพระอาทิตย์เป็นฐาน ทำนาย
ว่า "ญาติพี่น้องทางฝ่ายมารดาก็พึ่งพาอาศัยไมค่อยได้ ช่วยเหลือได้บ้างนิดหน่อยเรื่องการงานแต่ก็เรียกเอาผลประโยชน์มากเกินไปจนน่าเกลียด"
-เลข 4 ตรงกับภพ โภคา + ปุตตะ + ลาภะ และมีเลข 9 เลขดาวเกตุเป็นฐาน ทำนายว่า "เจ้าชะตาได้บุตรธิดา
ดีมีความกตัญญูดีต่อพ่อแม่ เจ้าชะตาจะมีบ้านเรือนและทรัพย์สมบัติอันเกิดจากลูกหามาให้"
-เลข 5 ตรงกับภพ มัชฌิมา + อริ + พยายะ และมีเลข 12 เลขกำลังพระราหูเป็นฐาน ทำนายว่า "เจ้าชะตามี
ศัตรูมากแต่ก็ทำอันตรายเจ้าชะตาไม่ได้ เพราะเจ้าชะตาเป็นคนถึงลูกถึงคนรู้เล่ห์เหลี่ยมที่จะหักล้างศัตรูได้"
**หมายเหตุ:- การอ่านพื้นดวงชะตาต้องเอาภพอันเป็นที่อยู่ของตัวเลขมาอ่านรวมกันทั้ง 3 ภพ แล้วคิดเป็นคำทำนายที่สมบูรณ์แบบออกมาให้ได้และต้องเป็นคำทำนายที่สมบูรณ์แบบและถูกต้องด้วย ตัวอย่างเช่น:-
-อัตตะ + ตนุ + ทาสา โดยมีเลข 14 เป็นฐานบวก จงอ่านภพทั้ง 3 ภพ ให้ออกมาเป็นคำทำนายที่เหมาะสมและถูกต้องด้วย ข้าพเจ้าจะผลิตคำทำนายที่ถูกตัองออกมาให้ดู
-อัตตะ + ตนุ + ทาสา มีเลข 14 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นนักต่อสู้มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงนักเอาเบาสู้ไม่ยอมท้อถอย ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วไม่สำเร็จไม่ยอมแพ้ง่ายๆ งานอะไรที่เขาลงมือทำแล้วจะต้องสำเร็จจนทำให้ตัวเองเป็นที่นิยมยกย่องเชื่อถือของคนทั่วไป ถ้ใครเดือดร้อนไปขอความช่วยเหลือมักจะช่วยเหลือด้วยความเต็มใจไม่หวังผลตอบแทนอะไรทั้งสิ้น เป็นคนใจใหญ่ใจสปอร์ตเป็นนักเสียสละเป็นคนใจบุญอย่างที่คนอื่นๆคาดไม่ถึง"
นี้แหละคือตัวอย่างคำทำนายที่ข้าพผลิตออกมาให้ดู ขอให้ผู้ศึกษาทั้งหลายโปรดพิจารณาดูให้ดีๆ ขอท่านทั้งหลายที่
มีความสนใจในวิชาพยากรณ์ด้วยเลข 7 ตัว จงฝึกฝนคิดอ่านผลิตออกมาอยู่เรื่อยๆไม่นานท่านก็จะเก่งไปเอง
ดวงชะตาของ นายกิจ แตงม่วง
-นายกิจ แตงม่วง เกิดวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๒๒ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะแม
-วันอาทิตย์ = 1
-เดือน = 1
-ปีมะแม = 1
1 2 3 4 5 6 7
1 2 3 4 5 6 7
1 2 3 4 5 6 7
3 6 9 12 15 18 21
วิธีการพยากรณ์เลขในพื้นดวงชะตา
-เลข 1 ตรงกับภพ อัตตะ + ตนุ + มรณะ และมีเลข 3 เลขของดาวอังคารเล็กเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ทำอะไรมักจะล้มเหลวเป็นไปไม่ตลอด มีจิตใจไม่มั่นคงเป็นคนหวาดระแวง เจ้าชะตาจะได้มรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้แต่จะรักษาไว้ไม่ได้ จะขายกินหมดจนไม่มีอะไรเหลือ"
-เลข 2 ตรงกับภพ หินะ + กฎุมภะ + สุภะ และมีเลข 6 เลขกำลังของดาวพระอาทิตย์เป็นฐานบวก ทำนายว่า
"เจ้าชะตาเป็นคนฐานะไม่ดีขี้เกียจในการทำมาหากินคอยแต่อาศัยผู้อื่นใจบาปไม่ค่อยทำบุญสุนทาน"
-เลข 3 ตรงกับภพ ธนัง + สหัชชะ + กัมมะ และมีเลข 9 เลขของดาวเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามี
เพื่อนฝูงดีมักช่วยเหลือเรื่องการเงินและชอบหางานดีๆให้ทำจนเจ้าชะตาเอาตัวรอดไปได้"
-เลข 4 ตรงกับภพ ปิตา + พันธุ + ลาภะ และมีเลข 12 เลขกำลังของดาวพระราหูเป็นฐานบวก ทำนายว่า
"เจ้าชะตามีญาติพี่น้องผู้ใหญ่ทางฝ่ายพ่อคอยให้ควาช่วยเหลือ แต่เจ้าชะตาก็ติดเหล้าและการพนัน พลาญทรัพย์สินเงินทองที่เขาให้มาจนหมด จนเขาเบื่อไม่ให้ความช่วยเหลืออีกต่อไป"
-เลข 5 ตรงกับภพ มาตา + ปุตตะ + พยายะ และมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาถึงมีแม่ก็พึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้เพราะแม่ป่วยไม่สบาย บุตรก็พึ่งได้ไม่นานพอจะพึ่งได้บางก็มีอันเป็นไป"
-เลข 6 ตรงกับภพ โภคา + อริ + ทาสา และมีเลข เลข 18 เลขมหาจักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีทรัพย์สมบัติอะไรขึ้นมาไม่ได้จะต้องเดือดร้อนเกิดมีเรื่องราวทำให้ต้องเสียทรัพย์เงินทองไปจนหมด จนต้องเป็นคนใช้รับจ้างเขากินถึงจะอยู่สบาย"
-เลข 7 ตรงกับภพ มัชฌิมา + ปัตตนิ + ทาสี และมีเลข 21 เลขกำลังของดาวพระศุกร์เป็นฐานบวก ทำนายว่า " เจ้าชะตาจะได้ภรรยาเป็นคนชั้นเดียวกันกับเจ้าชะตารับจ้างเขากินหาเงินได้ด้วยความเหนื่อยยากลำบากหาได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเท่านั้นจะให้ร่ำรวยเหมือนคนอื่นเขานั้นยาก
ขอเตือนให้ผู้เรียนอ่านตัวเลขในพื้นดวงชะตาแล้วคิดผลิตคำทำนายที่เหมาะสมออกมาให้จงได้ฝึกฝนทำนายบ่อยๆก็จะชำนาญไปเอง
ความสัมพันธ์ของตัวเลขในพื้นดวงชะตา
-ประโยชน์ของตัวเลขในพื้นดวงชะตามี ๔ ข้อ คือ:-
๑.เป็นตัวเลขที่แสดงคุณและโทษของชะเดิมและชะตาจร เพื่อจะได้รู้ว่าระยะใดปลอดโปร่งจากอุปสรรคมีความราบรื่นดี ระยะใดจะมีอุปสรรคมาขัดขวางจนทำให้เกิดความทุกข์โศกเดือดเนื้อร้อนใจ
๒. ความสัมพันธ์ของเลขชะตาแต่ละตัวให้พิจารณาดูคุณหรือโทษจากเลขในฐานบวกเป็นสำคัญข้อนี้จะลืมเสียมิได้
๓.ใครจะโชคดีหรือโชคร้าย ทำอะไรจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ จงพิจารณาดูจากความสัมพันธ์ของตัวเลขนี้เป็นสำคัญ
๔.ความสัมพันธ์ของชะตาแบ่งออกเป็น ๑๒ คู่ คือ:-
๑.เลขคู่มิตร
๒.เลขคู่ธาตุ
๓.เลขคู่สมพล
๔.เลขคู่สมพงษ์
๕.เลขคู่อุปถัมภ์
๖.เลขคู่โชคอนันต์
๗.เลขคู่เกียรติยศชื่อเสียง
๘.เลขกำลังวัน
๙.เลขคู่ศัตรู
๑๐.เลขคู่อัตคัดขัดสน
๑๑.เลขคู่วิวาท
๑๒.เลขคู่ขัดแย้ง
เลขคู่มิตร
-เลขคู่มิตร แบ่งออกเป็น ๔ คู่ คือ:-
๑ กับ ๕ เป็นเลขคู่มิตรกัน คือเป็นเลขคู่มิตรในทาง ความรักใคร่นับถือกัน
๒ กับ ๔ เป็นเลขคู่มิตรกัน คือเป็นเลขคู่มิตรในทาง เจ้าเสน่ห์
๓ กับ ๖ เป็นเลขคู่มิตรกัน คือเป็นเลขคู่มิตรในทาง ความเจ้าชู้
๗ กับ ๘ เป็นเลขคู่มิตรกัน คือเป็นเลขคู่มิตรในทาง เจ้านักเลง
-เลขคู่มิตรให้คุณดังนี้
-อุปถัมภ์ค้ำชูกัน ช่วยเหลือกัน และพึ่งพาอาศัยกันได้ตั้งแต่เกิด
-ถ้าเลขอายุจรๆมาตกลงที่เลขคู่มิตร ชะตาชีวิตในปีนั้นจะสูงเด่นขึ้นมาก คิดจะทำสิ่งใดก็จะสำเร็จตามที่ปราถนาเอาไว้จะมีมิตรสหายมาให้ความช่วยเหลือและความร่วมมือเป็นอย่างดี
เลขคู่ธาตุ
-เลขคู่ธาตุ แบ่งออกเป็น ๔ คู่ คือ:-
-๑ กับ ๗ เป็นเลขคู่ธาตุไฟ ให้คุณทางอำนาจ
-๒ กับ ๕ เป็นเลขคู่ธาตุดิน ให้คุณในทางความมานะพยายาม
-๓ กับ ๘ เป็นเลขคู่ธาตุลม ให้คุณในทางเจ้านักเลง
-๔ กับ ๖ เป็นเลขคู่ธาตุน้ำ ให้คุณในทางความอ่อนหวานนุ่มนวล
-เลขคู่ธาตุให้คุณดังนี้
-จะมีความมั่นคงสมบูรณืดี
-ถ้าเลขอายุจรๆมาตกลงที่เลขคู่ธาตุ โครงการที่ตั้งใจเอาไว้จะประสบความสำเร็จและจะมีความสุขสมบูรณ์ดี
เลขคู่สมพล
-เลขคู่สมพล แบ่งออกเป็น ๔ คู่ คือ:-
-๑ กับ ๖ เป็นเลขคู่สมพลกันในทางยศศักดิ์
-๒ กับ ๘ เป็นเลขคู่สมพลกันในทางการต่อสู้
-๓ กับ ๕ เป็นเลขคู่สมพลกันในทางการพนันและการพัฒนา
-๔ กับ ๗ เป็นเลขคู่สมพลกันในทางความจริง
-เลขคู่สมพลให้คุณดังนี้
-ให้คุณในทาง การคุ้มครองรักษาและมีพละกำลังดี
-ถ้าเลขของอายุจรๆมาตกลงที่เลขคู่สมพล ผู้นั้นจะได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือจากคนเป็นจำนวนมาก เหมาะแก่การทำงานเพื่อสังคมหรืองานส่วนรวมโดยทั่วๆไป
เลขคู่สมพงษ์
-เลขคู่สมพงษ์ มี ๑ คู่ คือ:-
๒ กับ ๖ เป็นเลขคู่สมพงษ์ในทางความรัก
-เลขคู่สมพงษ์ให้คุณดังนี้
-ให้คุณในทาง ในทางความรัก, จะเกิดความรักขึ้นโดยไม่คาดฝัน, จะมีโชคลาภนานาประการ
-ถ้าอายุจรมาตกลงที่เลขคู่สมพงษ์ ปีนั้นจะได้พบคนรักหรือมิตรแท้
เลขคู่อุปถัมภ์
-เลขคู่อุปถัมภ์มี ๑ คู่ คือ:-
๕ กับ ๖ เป็นเลขคู่อุปถัมภ์กันในทางการช่วยเหลือกัน
-เลขคู่อุปถัมภ์ให้คุณดังนี้
-ให้คุณในทาง จะได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในเรื่องการเงินและคู่ครอง
-ถ้าเลขอายุจรมาตกเลขคู่อุปถัมภ์ ผู้นั้นจะได้พบผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือและอุปถัมภ์ค้ำชู
เลขคู่โชคอนันท์
-เลขคู่โชคอนันต์มี ๑ คู่ คือ:-
๔ กับ ๕ เป็นเลขคู่โชคอนันต์
-เลขคู่โชคอนันต์ให้คุณดังนี้
-ให้คุณในทาง มักจะมีโชคลาภอยู่เนืองๆ, จะมีโชคลาภอันไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่เสมอ, มักจะได้รับความร่วมมือจากทุกวงการเป็นอย่างดี
-ถ้าเลขอายุจรมาตกลงที่เลขคู่โชคอนันต์ จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและจะมีโชคลาภอยู่เสมอ มักจะได้รับความร่วมมือจากทุกวงการเป็นอย่างดี จะประสบความสำเร็จในชีวิตและมีสติปัญญาอันแจ่มใส
เลขคู่แห่งเกียรติยศชื่อเสียง
-เลขคู่แห่งเกียรติยศชื่อเสียงมี ๑ คู่ คือ:-
๑ กับ ๔ เป็นเลขคู่แห่งเกียรติยศชื่อเสียง
-เลขคู่แห่งเกียรติยศชื่อเสียงให้คุณดังนี้
-ให้คุณในทาง:- มีความรู้ความสามารถและเกียรติยศชื่อเสียงดี
-ถ้าเลขอายุจรมาตกเลขคู่แห่งเกียรติยศชื่อเสียง ผู้นั้นจะเป็นที่นิยมยกย่องนับถือของบุคคลโดยทั่วไป
เลขกำลังวัน
-เลขกำลัง มี ๘ ตัว คือ:- ๖ ๘ ๑๐ ๑๒ ๑๕ ๑๗ ๑๙ ๒๑
-เลขกำลังวันให้คุณดังนี้
-ให้คุณในทาง จะมีความดีเด่นเป็นพิเศษ, จะมีกำลังเข้มแข็งดี, จะดีเด่นด้วยคุณสมบัติของของตนเอง
-ถ้าเป็นอัตตะหรือตนุ จะไม่ปรากฏเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเลย มักจะได้รับการลดหย่อนผ่อนปรนหรือาสมารถแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยตนเองรอดเสมอ แม้ตัวเลขในภพต่างๆจะไม่ดีก็ตาม
-ถ้าอายุจรมาตกเลขกำลังวัน จะประกอบการสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จตามความปราถนาทุกประการ
เลขคู่ศัตรู
-เลขคู่ศัตรูแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ:-
๑.เลขคู่ศัตรูใหญ่
๒.เลขคู่ศัตรูเล็ก
เลขคู่ศัตรูใหญ่
-เลขคู่ศัตรูใหญ่แบ่งออกเป็น ๕ ชนิด คือ:-
-๑ กับ ๓ เป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่ ในทางแก่งแย่งหักล้างกันและกัน
-๒ กับ ๓ ,, ,, ในทางกล้าทำในทางที่ผิด
-๒ กับ ๕ ,, ,, ในทางมีความคิดเห็นขัดแย้งทะเลาะวิวาทกัน
-๔ กับ ๘ ,, ,, ในทางการขัดคอกัน
-๖ กับ ๗ ,, ,, ในทางความสับสนวุ่นวาย
-เลขคู่ศัตรูใหญ่ให้โทษดังนี้
-จะตัดทอนชะตาชีวิตลงในทางคุณงามความดี อับโชค ได้รับแต่ความทุกทรมาน
-ถ้าเลขอายุจรมาตกลงที่เลขคู่ศัตรูใหญ่ จะทำสิ่งใดก็มีแต่อุปสรรคมาขัดขวางคือมักจะมีแต่เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นเสมอ
เลขคู่ศัตรูเล็ก
-เลขคู่ศัตรูเล็กแบ่งออกเป็น ๕ ชนิด คือ:-
-๑ กับ ๘ เป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ในทางเบียดเบียนกันและกัน
-๒ กับ ๗ เป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ในทางพลัดพรากจากกันและความผิดหวัง
-๓ กับ ๗ เป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ในทางอิทธิพลมืด
-๕ กับ ๘ เป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ในทางการสูญเสีย
-๖ กับ ๘ เป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ในทางความเสื่อมสลาย
-เลขคู่ศัตรูเล็กให้โทษดังนี้
-ทำอะไรมักจะกลับกลายเป็นเรื่องเดือดร้อนวุ่นวายไปหมด
-ถ้าอายุจรมาตกเลขคู่ศัตรูเล็ก จะสับสนวุ่นวายใจจะพลัดพรากจากของรักของชอบใจ
เลขคู่อัตคัดขัดสน
-๕ กับ ๗ เป็นเลขคู่อัตคัดขัดสน ให้โทษดังนี้
-จะเกิดความอัตคัดขัดสนและความขาดแคลนขึ้น
-ถ้าอายุจรมาตกที่เลขคู่อัตคัดขัดสน จะเกิดความขัดสนขึ้น ทำอะไรมักจะติดขัดไปหมด ไม่ปลอดโปร่ง
เลขคู่วิวาท
-๓ กับ ๔ เป็นเลขคู่อัตคัดขัดสน มีโทษดังนี้
-จะเกิดทะเลาะวิวาททุ้มเทียงกัน จนทำให้ผลงานเกิดความตกต่ำ แต่ถ้าทำการเสดาะพระเคราะห์จะกลับมีโชคลาภจากศัตรู
-ถ้าอายุจรมาตกลงที่เลขคู่วิวาท ให้ระมัดระวังเรื่องปากเสียให้ดี จะเกิดทะเลาะเบาะแว้งกันได้ง่ายๆ จะเกิดความเดือดร้อนเพราะปาก
เลขคู่ขัดแย้ง
-๑ กับ ๒ เป็นเลขคู่ขัดแย้งกัน มีโทษดังนี้
-จะเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในครอบครัว ห้ามแต่งงานโดยเด็ดขาด จะเกิดทะเลาะวิวาทกันในภายหลัง
-ถ้าอายุจรมาตกลงที่คู่ขัดแย้ง จะเกิดการขัดแย้งกันอย่างใหญ่หลวง ผลงานจะเกิดความเสียหาย
ระดับตวามสูงต่ำของพื้นดวงชะตา
-ระดับความสูงต่ำของพื้นดวงชะตาแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ:-
๑.พื้นดวงชะตาระดับสูง มีกฏข้อบังคับดังนี้
๑.๑เลขของวันเดือนปีเกิดจะไม่ตรงกับภพเสีย
๑.๒เลขของวันเดือนปีเกิดจะตั้งอยู่บนเลขฐานบวกที่ดี เช่น:-
ดวงชะตาระดับสูงชาย
6 7 1 2 3 4 5
6 7 1 2 3 4 5
1 2 3 4 5 6 7
13 16 5 8 11 14 17
-เลขวันเกิดตรงกับภพที่ดีคือ ตนุ และ ทาสา
-เลขเดือนเกิดตรงกับภพที่ดีคือ ทาสา
-เลขปีเกิดตรงกับภพที่ดีคือ ทาสา
-เลขฐานบวกคือ เลข 14 เป็นเลขคู่แห่งเกียรติยศชื่อเสียง เป็นเลขฐานบวกที่ดี
ดวงชะตาระดับสูงหญิง
6 7 1 2 3 4 5
2 3 4 5 6 7 1
5 6 7 1 2 3 4
13 16 12 8 11 14 10
-เลขวันเกิดตรงกับภพที่ดีคือ ปุตตะ
-เลขเดือนเกิดตรงกับภพที่ดีคือ สุภะ
-เลขปีเกิดตรงกับภพที่ดีคือ สุภะ
-เลขฐานบวก คือเลข 16 เป็นเลขคู่เศรษฐี เป็นเลขคู่ที่ดี
-ดูเลขคู่ครอง
-เลขในภพปัตตนิของชายคือเลข 5
-เลขในภพปัตตนิของหญิงคือเลข 1
-ถ้าเอาเลขของชายนำหน้าจะเป็นเลข 51 เป็นเลขคู่แห่งความสำเร็จ
-ถ้าเอาเลขของหญิงนำหน้าจะเป็นเลข 15 เป็นเลขคู่มหามิตร
-ข้าพเจ้าผู้เขียนตำราเล่มนี้ อยากจะจับชายและหญิงคู่นี้ให้แต่งงานกันจริงๆ ดวงชะตาที่สมพงพ์กันอย่างนี้หาดูยากจริงๆจะบอกให้
-ถ้าชายและหญิงคู่นี้ได้แต่งกันจะเป็นยอดแห่งคู่ครองจะหาคู่ครองอื่นมาเปรียบเทียบมิได้เลย
-ผู้ชายเป็นคนสปอร์ตขยันฉลาดซื่อสัตย์อดทนและมีเกียรติยศชื่อเสียงดี
-ผู้หญิงรูปสวยรวยทรัพย์นับวิชาและปัญญาดี ถ้าได้แต่งงานกันจะร่ำรวยถึงขั้นมหาเศรฐีเลยทีเดียวครับ
๒.ดวงชะตาระดับกลาง มีกฎข้อบังคับดังนี้
๒.๑เลขของวันเดือนปีเกิดตรงกับภพที่เสียหรือมีความสัมพันธ์ถึงแต่ต้องตั้งอยู่บนฐานบวกที่ดี
๒.๒เลขของวันเดือนปีเกิดตรงกับภพที่ดีแต่ตั้งอยู่บนฐานบวกที่เสียหรือสัมพันธ์ถึง
๒.๓เลขของปีเกิดตั้งอยู่บนฐานบวกที่ดีหรือเสียก็ตาม เช่น:-
ดวงชะตาระดับกลางชาย
1 2 3 4 5 6 7
5 6 7 1 2 3 4
5 6 7 1 2 3 4
11 14 17 6 9 12 15
-เลขวันเกิดตรงกับภพที่ดีคือ พันธุ และ ลาภะ
-เลขเดือนเกิดตรงกับภพที่เสียคือ มรณะ
-เลขปีเกิดตรงกับภพที่เสียคือ มรณะ
-เลขฐานบวกของเลขวันเกิดคือเลข 6 เป็นเลขกำลังของดาวพระอาทิตย์ เป็นเลขที่ดี
-เลขฐานบวกของเดือนเกิดคือเลข 11 เป็นเลขราชาโชค เป็นเลขที่ดี
ดวงชะตาระดับกลางหญิง
2 3 4 5 6 7 1
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
16 5 8 11 14 17 13
-เลขวันเกิดตรงกับภพที่ดีคือ สหัชชะ และ กัมมะ
-เลขเดือนเกิดตรงกับภพที่เสียคือ มรณะ
-เลขปีเกิดตรงกับภพที่เสียคือ มรณะ
-เลขฐานบวกของวันเกิดคือเลข 8 เป็นเลขกำลังของดาวพระอังคาร เป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข 2
-เลขฐานบวกของเดือนเกิดคือเลข 16 เป็นเลขคู่เศรษฐี เป็นเลขคู่ที่ดี
๓.ดวงชะตาระดับต่ำ มีกฏข้อบังคับดังนี้
๓.๑เลขของวันเดือนปีเกิดตรงกับภพเสีย
๓.๒เลขของฐานบวกเป็นเลขที่ไม่ดี เช่น:-
ดวงชะตาระดับต่ำชาย
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
3 4 5 6 7 1 2
17 6 9 12 15 11 14
-เลขวันเกิดตรงกับภพเสียคือ พยายะ
-เลขเดือนเกิดตรงกับภพเสียคือ พยายะ
-เลขปีเกิดตรงกับภพเสียคือ พยายะ
-เลขฐานบวกคือเลข 15 เป็นเลขกำลังแห่งดาวพระจันทร์ เป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข 7
ดวงชะตาระดับต่ำหญิง
2 3 4 5 6 7 1
2 3 4 5 6 7 1
2 3 4 5 6 7 1
6 9 12 15 18 21 3
-เลขวันเกิดตรงกับภพเสียคือ มรณะ
-เลขเดือนเกิดตรงกับภพเสียคือ มรณะ
-เลขปีเกิดตรงกับภพเสียคือ มรณะ
-เลขฐานบวกคือเลข 6 เป็นเลขกำลังของดาวพระอาทิตย์ เป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข 2
การศึกษาภาคที่ ๒
การศึกษาภาคที่ ๒ ว่าด้วยองค์ประกอบที่สำคัญของพื้นชะตา
องค์ประกอบของพื้นชะตาที่สำคัญแบ่งออกเป็น ๘ ชนิด คือ:-
๑.ความหมายของเลขทั้ง ๙ ตัว
๒.ชะตาแฝด
๓.ชะตาที่มีเลขซ้ำกันทั้ง ๓ ฐาน
๔.การศึกษาและอาชีพ
๕.เรื่องของคู่ครอง
๖.เรื่องของบุตร
๗.เรื่องของบ้านเรือน
๘.เรื่องของยวดยานพาหนะ
๙.เรื่องของการตรวจสอบชะตา
ความหมายของเลขทั้ง ๙ ตัว
๑.เลขที่เป็นบุคคล
๒.เลขที่เป็นสถานที่
๓.เลขที่เป็นอวัยวะร่างกายและโรคภัยไข้เจ็บ
๔.เลขที่เป็นทิศ
๕.เลขที่เป็นสี
๖.เลขที่เป็นมณี
๗.เลขที่เป็นธาตุ
๘.เลขที่เป็นแร่
๙.เลขที่เป็นรสอาหาร
เลขที่เป็นบุคคล
เลข ๑
-ถ้าเลข ๑ เป็น อัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- เล็กกระทัดรัด ใบหน้าเรียวมน ผิวเนื้อดำแดงจึงจะต้องโฉลก ถ้ารูปร่างสูงใหญ่ผิวขาวจะอาภัพ (อาภัพ แปลว่า "ทำอะไรมักไม่ค่อยได้ดังใจนึก คนอื่นทำได้แต่เราทำไม่ได้ถ้าขืนทำต่อไปก็มีแต่จะเดือดร้อน"
-นิสัย:- ใจร้อน โกรธง่ายหายเร็ว เป็นคนไว้ตัว รักเกียรติยศชื่อเสียง เป็นคนทะเยอทะยาน เจ้าชู้ ถ้าเป็นชายจะเกรงใจเมีย ถ้าเป็นหญิงจะพูดเอาใจผัวดี
-รสนิยม:- ชอบความโอ่อ่าหรูหราภูมิฐาน และการแสดงอำนาจ
-ถ้าเลข ๑ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรืเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- พระราชา ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี เจ้าผู้ครองนคร เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ข้าหลวง
-ระดับกลาง:- ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชสำนัก ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ ผู้บังคับบัญชา นักการเมือง เศรษฐีคหบดี
-ระดับต่ำ:- ข้าราชการชั้นผู้น้อย ช่างแรงงานต่างๆ
**หมายเหตุ:- การดูระดับของบุคคลให้ดูระดับของพื้นชะตาประกอบกันจึงจะแม่นยำดี
เลข ๒
-ถ้าเลข ๒ เป็น อัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- รูปร่างขาวท้วมหรือขาวบาง รูปทรงสมส่วนงามกระทัดรัด แก้มมีเนื้อเล็กน้อยจึงจะต้องโฉลก
-นิสัย:- วางจริต รักคำพูด รื่นเริง มักอ่อนไหวง่ายแต่มีจินตนาการดี
-รสนิยม:- ชอบการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม ชอบการดูแล ชอบสังคม
-ถ้าเลข ๒ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- พระราชินี ประธานาธิบดีหญิง นายกรัฐมนตรีหญิง ผู้นำหญิง ผู้อำนวยการหรือผู้จัดการหญิง
-ระดับกลาง:- ข้าราชการฝ่ายใน ท่านผู้หญิง คุณหญิงหรือคุณนาย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายคมนาคม,การศึกษา
กิจการที่เกี่ยวข้องกับเด็กและสตรี องค์การระหว่างประเทศ มหาดไทย
-ระดับต่ำ:- เจ้าของกิจการและการบริการทุกชนิด ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับยวดยานพาหนะมีรถเรือและเครื่องบินเป็นต้น
เลข ๓
-ถ้าเลข ๓ เป็นอัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- รูปร่างสันทัด ผิวเนื้อดำแดง ผมหยักเล็กน้อย ใบหน้ากระดูก มักมีใฝ่ที่แก้ม จึงจะต้องโฉลก
-นิสัย:- มุทะลุดุดัน โมโหง่าย ขยันขันแข็ง มักจะเอาใจเพื่อนและผู้อื่น
-รสนิยม:- ไม่ค่อยแน่นอน ชอบความเย้ายวน ชอบบำเรออารมณ์ มักชอบผิดลูกผิดเมียหรือชอบผิดลูกผิดผัวเขา
-ถ้าเลข ๓ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- นายพลตำรวจ แพทย์ผ่าตัด นักเคมี นักวืทยาศาสตร์ อัยการตำรวจ
-ระดับกลาง:- ข้าราชการตำรวจ นายอำเภอ ป่าไม้ วิศวกร ผู้ค้าหรือผู้ผลิตเหล็กและโลหะต่างๆ ผู้ฝึกอาวุธ
-ระดับต่ำ:- เพชฆาต ผู้ฆ่าสัตว์ ผู้ผลิตเครื่องมือและเครื่องใข้ที่เป็นเหล็กและโลหะต่างๆ
เลข ๔
-ถ้าเลข ๔ เป็นอัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- รูปร่างท้วมผิวเนื้อค่อนข้างขาวหรือขาวอมแดง ริมฝีปากหยักบางจึงจะต้องโฉลก
-นิสัย:- ชอบคิดเป็นคนมีเหตุผล มีความเชื่อมั่นในตนเอง มักถ่อมตัว เป็นคนสุภาพ ฉลาดในการเจรจา
-รสนิยม:- ชอบเรียบๆ ชอบความสะดวกสบาย และชอบสังคม
-ถ้าเลข ๔ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- เป็นนักวิชาการ นักการทูต นักประพันธ์ พ่อค้าใหญ่ระดับชาติ
-ระดับกลาง:- ทนายความ นายทะเบียน นักข่าว นักการบัญชี ข้าราชฝ่ายสื่อสารและการพาณิชย์
-ระดับต่ำ:- บุรุษไปรษณีย์ ช่างเรียงพิมพ์ ช่างฝีมือ และพ่อค้าแม่ค้ายอย
เลข ๕
-ถ้าเลข ๕ เป็นอัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- รูปร่างสันทัดผิวขาวหรือขาวเหลืองมีเนื้อเล็กน้อย หน้าผากกว้าง ใบหน้ารูปไข่ นิ้วมือนิ้วเท้าอูมจึงจะต้องโฉลก
-นิสัย:- เชื่อในความคิดเห็นของตนเองเป็นใหญ่ หัวแข็ง ถืออุดมคติ
-รสนิยม:- ชอบเรียบๆ ชอบความมีระเบียบ มักสนใจในวิชาการต่างๆ
-ถ้าเลข ๕ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- สมณชีพราหมณ์ชั้นผู้ใหญ่ เป็นข้าราชการฝ่ายการศึกษา ฝ่ายศาสนา ตุลาการ โหราจารย์ นายแพทย์ผู้อำนวยการ ที่ปรึกษาประจำกระทรวงหรือระดับชาติ
-ระดับกลาง:- ข้าราชการฝ่ายการศึกษา การศาสนา ผู้ค้าของชำขนาดใหญ่ ผู้จัดการธนาคาร เจ้าของภัตราคารร้านอาหารขนาดใหญ่ เจ้าของห้างขายยาหรือคลีนิกใหญ่ๆ
-ระดับต่ำ:- ช่างทอผ้า ร้านขายของชำยอย ช่างทำเครื่องสังฆภัณฑ์ ช่างทำเครื่องประดับศาลพระภูมิ
เลข ๖
-ถ้าเลข ๖ เป็นอัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- สูงโปร่ง กระดูกใหญ่ ใบหน้ากลม จึงจะต้องโฉลก ถ้ารูปร่างเล็กจะอาภัพ
-นิสัย:- สำรวย เจ้าชู้ ฟุ่มเฟือย หยิบโหย่ง ประณึต พิถีพิถัน
-รสนิยม:- ชอบศิลปะ ชอบการตกแต่ง ชอบการเสริมสวย ชอบวรรณกรรม ชอบบทกวีและการแสดง
-ถ้าเลข ๖ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีลักษณะดังนี้
-ระดับสูง:- ขุนคลัง ผู้ว่าการธนาคาร นักธุรกิจระดับใหญ่ ข้าราชการระดับใหญ่ของกระทรวงการคลังและกรมศิลป์
-ระดับกลาง:- ข้าราชการฝ่ายศิลป์ บัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์ นักโบราณคดี ผู้จัดการโรงแรม นักออกแบบเหรียญตราและคื่องประดับต่างๆ ผู้ออกแบบเสื้อผ้าและทรงผม
-ระดับต่ำ:- ร้านขายของสำเร็จรูปประเภทสวยงาม ร้านขายเครื่องประดับตกแต่งและภาพศิลป์ ช่างตัดเสื้อผ้าและทรงผม นักแสดง และนักศิลปะ
เลข ๗
-ถ้าเลข ๗ เป็นอัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- ท้วมหรืออ้วนสูง ผิวเนื้อดำคล้ำหรือดำมาก น่องอ่อน ท่าทางบึกบึนทะมัดทะแมง ริมฝีปากเผยอหรือฟันเขยินจึงจะต้องโฉลก ถ้ารูปร่างสูงใหญ่ผิวขาวจะอาภัพ
-นิสัย:- เงียบขรึม ไม่ยอมเสียเปรียบใคร มักเป็น
-รสนิยม:- ชอบการปกครอง การคุ้มครอง จิตมีมานะสูง
-ถ้าเลข ๗ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- ขุนพลทหาร ข้าราชการฝ่ายป้องกันและกลาโหม นักการเมืองคนสำคัญ ผ.อ.หรือ ผ.จ.เหมืองแร่และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
-ระดับกลาง:- ขัาราชการฝ่ายทหาร นักอุตสาหกรรม เจ้าของเหมืองแร่บ่อเพชรบ่อพลอย กิจการอุตสาหกรรมขนาดย่อม เกษตรกรรม ทรัพยากรธรรมชาติ และปศุสัตว์
-ระดับต่ำ:- ชาวไร่ชาวนาชาวสวน นักค้าปุ๋ย ร้านขายเครื่งยนต์ ร้านขายเครื่องอุปกรณ์ทำเหมืองและทำเครื่องมือเครื่องใช้ทางเกษตร ร้านขายเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างเช่น อิฐดินหินปูนและกรวดทราย
เลข ๘
-ถ้าเลข ๘ เป็นอัตตะหรือตนุ ผู้นั้นจะมีลักษณะดังนี้
-รูปร่าง:- ถ้าเป็นชายรูปร่างท้วมใหญ่ ตาพอง อ้วนล้ำพุงยุ้ย ผิวเนื้อดำหรือดำคล้ำ ถ้าเป็นหญิงผิวดำสูงเพียวจึงจะต้องโฉลก
-นิสัย:- เสียงดังมีอำนาจ ชอบลุ่มหลงในอบายมุข ขาดสติ มีโทสะร้ายแรง หงุดหงิดหาเรื่องเอะอะโวยวาย
-รสนิยม:- ชอบของมึนเมา ชอบการพนัน ชอบการเป็นนักเลง เจ้าชู้ ชอบของแปลกๆ
-ถ้าเลข ๘ ตั้งอยู่บนเลขกำลังวันหรือเลขกำลังพิเศษ เจ้าชะตาจะมีระดับดังนี้
-ระดับสูง:- ผู้แทนราษฎร ผู้แทนสาคม นักพัฒนา นักปาฐกถา นักวิชาการ
-ระดับกลาง:- ฝูงชน หมอสมุนไพร นักไสยศาสตร์ ผู้นำฝูงชน
-ระดับต่ำ:- นักเลง นักพนัน นักดื่ม นักรบ
เลขที่เป็นสถานที่
-เลข ๑ หมายถึง:-
-พระราชวัง ที่ทำการของรัฐบาล
-รัฐวิสาหกิจทุกประเภท องค์กร โรงงานไฟฟ้า โรงงานแก้ว
-บริษัทห้างร้านที่หรูๆ สถานที่ใหญ่โตโอ่อ่า ร้านขายเพชรพลอย
-บ้านเรือนที่เด่นเป็นสง่า
-เลข ๒ หมายถึง:-
-วัง ที่ทำการของรัฐบาลที่เกี่ยวกับยวดยานพาหนะทุกชนิด
-กรมประมง กิจการประมง โรงงานผลิตสินค้าทางน้ำทุกชนิด ร้านขายสัตว์น้ำทุกชนิด
-ร้านขายพืชผลทางเกษตร
-บ้านเรือนที่ไม่ค่อยใหญ่มองดูกระจุ๋มกระจิ๋มสดชื่นดี
-เลข ๓ หมายถึง:-
-ที่ทำการของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและการปราบปราม
-โรงงานผลิตหรือเก็บอาวุธทุกชนิด โรงผลิตหรือเก็บอาวุธทางเคมี โรงงานเครื่องจักรกล
-สนามกีฬา สนามฝึกอาวุธ
-บ้านพักตำรวจ
-บ่อนการพนัน
-บ้านที่เป็นมุมหรือมีเนื้อที่ไม่เท่ากันคือเป็นเสี้ยวหรือเฉียง
-เลข ๔ หมายถึง:-
-ที่ทำการของรัฐบาลเกี่ยวกับการสื่อสาร กรมสื่อสาร โรงงานผลิตเครื่องมือสื่อสารต่างๆ
-กรมบัญชีกลาง การบัญชี การพาณิชย์
-การศึกษาในระดับต้น กรมสามัญศึกษา
-โรงงานผลิตสิ่งที่เป็นผืนหรือเป็นแผ่น
-บ้านเรือนที่ร่มรื่นเป็นแบบสวน
-เลข ๕ หมายถึง:-
-ที่ทำการของรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม ศาล
-โรงพยาบาล คลีนิค อนามัย กระทรวงสาธาสุข
-ราชภัฏ ทบวงมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย
-วัด โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ กรมศาสนา กระทรวงศึกษา สถานที่เผยแพร่ความรู้ทางด้านศาสนา
-หัตถศาสตร์ โหราศาสตร์ วิชาพยากรณ์ต่างๆ วิชาพยากรณ์ด้วยเลข ๗ ตัว
-ช่างทอ
-การพิมพ์
-บ้านเรือนที่มีทรวดทรงกระทัดรัดเรียบร้อยตามเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
-เลข ๖ หมายถึง:-
-ที่ทำกรของรัฐบาล กระทรวงการคลัง ธนาคาร สถาบัญทางการเงิน
-กรมศิลปากร มหาวิทยาลัยศิลปากร
-ร้านขายของชำ เซเว้น โลตัส บิ๊กซี ห้างร้านต่างๆ
-ร้านขายของสำเร็จรูป โรงงานผลิตของสำเร็จรูปประเภทเครื่องสำอางค์หรือเครื่องประดับต่างๆ
-ร้านขายทอง
-บ้านที่มองดูเป็นศิลป์ฉูดฉาดสดใสแลดูชื่นฉ่ำบรรยากาศชวนฝัน
-เลข ๗ หมายถึง:-
-ที่ทำการของรัฐบาลอันเกี่ยวกับการป้องกันและการรักษาความปลอดภัย กระทรวงกลาโหม โรงฝึกทหาร บ้านพักทหาร
-กระทรวงเกษตร กรมปศุสัตว์ ชาวไร่ชาวนาชาวสวน
-โรงสี โรงเลื่อย ร้านขายไม้
-กระทรวงอุตสาหกรรม ร้านขายเครื่องอุปกณ์การก่อสร้าง ร้านขายเครื่งมือเครื่องใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
-กระทรวงแรงงาน กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน
-บ้านที่แลดูเงียบสงัดทึบมีบรรยากาศเป็นแบบป่า
เลขที่เป็นอวัยวะร่างกายและโรคภัยไข้เจ็บ
-เลข ๑ หมายถึง:-
-อวัยวะร่างกาย คือ ผิวหนัง นัยน์ตาข้างขวา โลหิตแดง เส้นโลหิตใหญ่ในสมอง
-โรค คือ โรคที่เกี่ยวกับสายตา โรคผิวหนัง โรคที่เกี่ยวกับเส้นโลหิต โรคร้อนใน โรคเส้นโลหิตอุดตัน
-เลข ๒ หมายถึง:-
-อวัยวะร่างกาย คือ นัยน์ตาข้างซ้าย ระบบการดูดซึมอาหาร น้ำที่หล่อเลี้ยงร่างกาย เต้านม เนื้อเยื้อต่างๆ
-โรค คือ โรคเกี่ยวกับสายตา โคเบาหวาน โรคโลหิตระดูไม่ปกติ โรคบวมน้ำ โรคต่อมในเต้านม โรคเนื้อเยื้อักเสบ
-เลข ๓ หมายถึง:-
-อวัยวะร่างกาย คือจมูก อวัยวะเพศชาย เส้นโลหิตดำ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น พลังงาน ม้าม
-โรค คือโรคภูมิแพ้ โรคแพ้อากาศ โรคขาดความรู้สึกในการดมกลิ่น โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โคเส้นเอ็นพืการ
โรคโลหิตเป็นพิษ โรคอัมพฤก โรคม้ามพิการ โรคอวัยวะเพศพิการ
-เลข ๔ หมายถึง:-
-อวัยวะร่างกาย คือสมอง ทรงอก มือ เท้า แขน ขา ปาก ทวารหนัก กระเพาะอาหาร ลำไส้
-โรค คือโรคเกี่ยวกับประสาท โรคสมองพิการ โรคปัญญาอ่อน โรคในทรงอก โรคมือเท้าพิการ โคแขนขาพิการ โรคริดสีดวงทวาร โรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้พิการ
-เลข ๕ หมาย:-
-อวัยวะร่างกาย คือหู หัวใจ ประสาทความจำ
-โรค คือโรคหูพิการ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคความจำเสื่อม โรคเบาหวาน โรคผิดสำแดง โรคประสาทแปรปรวน
-เลข ๖ หมายถึง:-
-อวัยวะร่างกาย คือคอ ไต มดลูก อวัยวะเพศหญิง โลหิตขาว น้ำกาม ไขมัน ต่อมน้ำเหลืองในร่างกาย
-โรค คือโรคคออักเสบ โรคไตพิการ โรคมดลูกพิการ โรคอวัยวะเพศพิการ โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
โรคโลหิตขาวมากกว่าโลหิตแดง โรคกามตายด้าน โรคไขมันอุดตัน โรคผิวหนังเสียเป็นเม็ดผื่นคัน โรคน้ำเหลืองเสีย
-เลข ๗ หมายถึง:-
-อวัยวะร่างกาย คือฟัน กระดูกโครงสร้างต่างๆของร่างกาย ประสาทใหญ่ เซลล์ต่างๆ
-โรค คือโรคฟัน โรคกระดูก โรคปวดในข้อ โรคอัมพฤกอัมพาต โรคผมร่วงล้าน โรคเซลล์เสื่อมสภาพ
** ขัอสังเกต:-
-ถ้าเลขใดก็ตามตั้งอยู่บนเลขฐานบวก ๑๒ ผู้นั้นจะมีสมุฏฐานของโรคที่เกิดจากการดื่มสุรา ยาเสพติด โรคใหม่ๆที่เจริญขึ้นมาจากสภาพของสิ่งแวดล้อมเช่น โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ เป็นต้น
-ให้ใช้ทำนายคู่กับภพต่างๆ เช่น หินะ อริ มรณะ พยายะ
-ถ้าเลขใดตั้งอยู่บนฐานบวก ๙ ผู้นั้นมักจะป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ
เลขที่เป็นทิศ
-เลข ๑ คือ ทิศอิสาณ ได้แก่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
-เลข ๒ คือ ทิศบูรพา ได้แก่ ทิศตะวันออก
-เลข ๓ คือ ทิศอาคเณย์ ได้แก่ ทิศตะวันอกเฉียงใต้
-เลข ๔ คือ ทิศทักษิณ ได้แก่ ทิศใต้
-เลข ๕ คือ ทิศประจิม ได้แก่ ทิศตะวันตก
-เลข ๖ คือ ทิศอุดร ได้แก่ทิศเหนือ
-เลข ๗ คือ ทิศหรดี ได้แก่ทิศตะวันตกเฉียงใต้
-เลข ๘ คือ ทิศพายัพ ได้แก่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
-เลขที่เป็นทิศถ้าใช้ร่วมกับภพ สหัชชะ จะหมายถึงการเดินทาง, การท่องเที่ยว, ในระยะใกล้ๆ
,, ,, พันธุ จะหมายถึงสถานที่ๆจะตั้งบ้านเรือน, บรืษัท, ห้างร้าน, โรงเรียน, สมาคม
,, ,, มรณะ จะหมายถึงการเดินทางไปในต่างถิ่น, ชนบท, ตำบล,อำเภอ, จังหวัด
,, ,, สุภะ จะหมายถึงการเดินทางไปต่างประเทศ
เลขที่เป็นสี
เลข ๑ = สีแดง สีทอง สีทองบรอนซ์
เลข ๒ = สีขาว สีเงิน สีขาวปรอท สีไข่มุก สีขาวบรอนซ์
เลข ๓ = สีชมพู สีน้ำตาล สีเลือดหมู
เลข ๔ = สีเขียว สีเขียวหัวเป็ค สีเขียวยอดตองอ่อน สีเขียวไข่กา สีหยกเขียว
เลข ๕ = สีเหลือง สีส้ม สีแสด สีกากี
เลข ๖ = สีฟ้า สีน้ำเงิน สีไพลิน
เลข ๗ = สีดำ สีคราม สีเทา สีนิล
เลข ๘ = สีดำมืด สีม่วงแก่ สีสำริด สีดำแดง
เลข ๙ = สีปลีกแมลงทีบ สีรุ่ง ฉัพพรรณรังสี หลายๆสีรวมกัน
เลขที่เป็นมณี
เลข ๑ คือ ทับทิม พลอยแดง พลอยสีเลือดนก
เลข ๒ คือ เพชร ไข่มุก
เลข ๓ คือ โกเมน เพชรสีชมพู
เลข ๔ คือ มรกต สีเขียวหยก
เลข ๕ คือ บุศราคัม พลอยสีส้ม พลอยสีแสด
เลข ๖ คือ ไพลิน พลอสีน้ำเงิน
เลข ๗ คือ นิล
เลข ๘ คือ จันทรคราส
เลข ๙ คือ โอปอ
**หมายเหตุ:- เลขที่เป็นสีและเลขที่เป็นมณี
-ถ้าทำนายร่วมกับภพ ธนัง จะหมายถึงเคริ่องประดับ
-ถ้าทำนายร่วมกับภพ พันธุ จะหมายถึงบ้านเรือนและที่อยู่อาศัย
-ถ้าทำนายร่วมกับภพ สหัชชะ จะหมายถึงยวดยานพาหนะเช่น รถ เรือ เครื่องบิน
-จงเลือกสีและมณีที่อยู่ในภพที่ดีที่สุดเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง ตัวอย่าง เช่น:-
น.ส.ชนิสา แก้วบุดดา
6 7 1 2 3 4 5
2 3 4 5 6 7 1
5 6 7 1 2 3 4
13 16 12 8 11 14 10
-ดวงชะตาของ น.ส.ชนิสา แก้วบุดดา เลข 6 เป็นเลขที่เด่นที่สุดและเลข 6 ยังมีเลขของฐานบวกที่ดีอีกด้วย
-เครื่องประดับกายที่เหมาะสมกับชะตาชีวิตคือ ไพลิน หรือพลอยสีน้ำเงิน
-สีบ้านเรือนต้องเป็น สีฟ้า หรือ สีน้ำเงิน จึงจะต้องโฉลก
-สีของรถยนต์ต้องเป็นสีในโทนเขียวจึงจะต้องโฉลก
-สีที่ห้ามคือ สีดำ สีแดง สีเหลือง
-สีที่อนุญาตคือ สีฟ้า สีน้ำเงิน สีขาว สีชมพู สีเขียว
น.ส.นิรมล พลทวี
2 3 4 5 6 7 1
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
16 5 8 11 14 17 13
-ดวงชะตาของ น.ส.นิรมล พลทวี เลขที่เด่นที่สุดคือเลข 1 ซึ่งมีเลข 5 เป็นฐานบวก 1 กับ 5 เป็นเลขคู่มิตรกันจัดว่าเป็นเลขที่ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว ถึงแม้นว่าเลข 5 จะเป็นเลขกำลังเล็กก็ตาม
-เครื่องประดับทีเหมาะสมกับชะตาคือ ทับทิมสยาม พลอยแดง
-สีของบ้านเรือน คือสีในโทนแดง สีน้ำเงิน สีฟ้า
-สีของรถยนต์ คือสีในโทนแดง สีน้ำเงิน สีฟ้า
-สีที่ห้าม คือสีขาว สีชมพู สีเขียว สีเหลือง สีดำ
-สีที่อนุญาต คือสีน้ำเงิน สีฟ้า และสีในโทนแดง
-ถ้าสีที่ดีที่สุดเป็นสีที่ท่านไม่ชอบให้เลือกเอาสีที่อนุญาตก็ได้
อัญมณีประจำวันเกิด
-ทิบทิม เป็นอัญมณีของวันอาทิตย์
-เพชร เป็นอัญมณีของวันจันทร์
-โกเมน เป็นอัญมณีของวันอังคาร
-มรกต เป็นอัญมณีของวันพุธ
-บุษราคัม เป็นอัญมณีของวันพฤหัสบดี
-ไพลิน เป็นอัญมณีของวันศุกร์
-นิล เป็นอัญมณีของวันเสาร์
-โอปอ เป็นอัญมณีของวันราหู
ประโยชน์ของทับทิม
-ทับทิมมีประโยชน์ดังนี้
-ทับทิมช่วยคงความสมดุลระหว่างร่างกาย, ความรู้สึก, และวิญญาณเอาไว้อย่างดีเยี่ยม เชื่อกันว่า "ทิบทิมมีเปลวไฟแห่งความสว่างที่ไม่มีวันดับ"
ทับทิมเป็นสัญญาลักษณ์แห่งความรักชั่วนิรันดร, การแต่งงาน, และพลังแห่งจิตวิญญาณ มันจะช่วยกระตุ้นพลังงานต่างๆในร่างกายให้มีอำนาจมากขึ้นและยังสามารถเชื่อมต่อกับอณูเล็กๆที่มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ซึ่งเป็นตัวบรรจุความรู้ต่างๆและความทรงจำในตัวของคนเราทั้งที่เป็นอดีต, อนาคต, และปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม เชื่อกันมาแต่โบราณว่า "ผู้ใดมีทับทิมไว้ครอบครอง ผู้นั้นก็จะพ้นจากพลังอำนาจที่ชั่วร้ายทั้งหลาย"
ทับทิมมีความสัมพันธ์กับเลือดในตัวเราเป็นอย่างดีสามารถเปลี่ยนสีของเลือดในร่างกายของคนให้เปลี่ยนไปตามสุขภาพของผู้สวมใส่อย่างน่าพิศวง ถ้าใครมีทับทิมโตเท่าหัวแม่มือขึ้นไปให้ใช้ทับทิมถูไปมาที่ใบหน้าและหน้าผากในตอนเช้าทุกวันผู้นั้นก็จะมีใบหน้าผ่องใสใบหน้าไม่เหี่ยวย่นเป็นหนุมเป็นสาวเสมอไม่ค่อยแก่เฒ่า
ประโยชน์ของเพชร
-เพชรมีประโยชน์ดังนี้
-เพชรถ้ามีตำหนิเอามาบดเป็นผงละเอียดจะกลายเป็นยาพิษที่ร้ายแรง เพชรถ้าไม่มีตำหนิเอามาบดเป็นผงจะกลับกลายเป็นยาอายุวัฒน์ชั้นยอดเลยทีเดียว เพชรยังช่วยปกป้องความฝันให้เป็นจริงและยังช่วยสามารถทำให้เราคาดการณ์
ในภายภาคหน้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพชรมีการกระจายแสงมากที่สุดในบรรดาอัญมณีทั้งหลาย ดังนั้นมันจึงช่วยขจัดปัดเป่าความมืดมน
ประโยชน์ของโกเมน
-โกเมนมีปะโยชน์ดังนี้
-ช่วยรักษาอาการซึมเศร้า โรคต่อมไธรอยไม่ทำงาน
-ช่วยคงความสมดุลของจักระในช่องขับถ่ายและแก้ปัญหาทางเพศได้โดยการกระตุ้นอารมณ์ปราถนาในผู้ที่มีความต้องการทางเพศต่ำละช่วยควบคุมสำหรับผู้ที่มีความต้องการทางเพศสูงมากเกินไป
-ช่วยสร้างความมั่นใจและนำชีวิตให้ประสบความสำเร็จ
-ช่วยทำให้โลหิตในร่างกายเกิดการไหลเวียนเป็นปกติ
ประโยชน์ของมรกต
-มรกตมีประโยชน์ดังนี้
-เป็นอัญมณีแห่งความรัก
-เป็นอัญมณีอันศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์และความซื่อสัตย์
-ช่วยกระตุ้นความจำและสมองจึงทำให้เนาสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้สำเร็จ
-การใส่แหวนรกตขณะคลอดลูกจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
-ในแง่ของจิตใจ มรกตช่วยให้ความคิดเห็นเกิดความกระจ่างและส่งเสริมความสามารถในการทำนาย
-มรกตมีผลดีสำหนับกระดูกละฟัน ถ้าคุณมีความู้สึกว่าความสัมพันธ์ด้านความรักกำลังเริ่มมีปัญหาควรจะสวมใส่มรกตไว้กับตัว
-หินที่มีสีเขียวมรกตจะเป็นผลดีต่อจักระของหัวใจสามารถสร้างความรักอันไม่มีขอบเขต
ประโยชน์ของบุษราคัม
-บุษราคัมมีปโยชน์ดังนี้
-บุษราคัมเป็นอัญมณีที่นำแสงสว่างมาสู่ชีวิตและบรรเทาความเครียดและยังช่วยปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่ให้รอดพ้นจากอันตราย
-เชื่อกันว่าบุษราคัมสามารถรักษาไข้หวัดและวัณโรคเพราะมีส่วนช่วยการทำงานของปอด ถ้าวางบุษราคัมไว้ใต้หมอนในเวลกลางคืนจะนอนหลับสบายและยังช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยแม้ในขณะนอนหลับ และยังช่วยคุ้มครองทางการเงิน ช่วยสร้างมิตรภาพและช่วยทำให้จิตใจเกิดความกล้าหาญอีกด้วย
ประโยชน์ของไพลิน
-ไพลินมีประโยชน์ดังนี้
- เสริมดวงชะตา เสริมบารมีให้ผู้คนรักใคร่นับถือ สามารถใช้ได้ทั้งชาย และหญิง แต่หากเป็นหญิงที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ควรสวมใส่ไพลินไว้เป็นเครื่องประดับ จะช่วยลดปัญหาระหว่างลูกน้องกับหัวหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ไพลินยังเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้สมาธิ มีสติตลอดเวลา ช่วยให้เกิดความไม่ประมาท ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับผู้ป่วยที่พักฟื้นเกี่ยวกับระบบประสาท หรือผ่าตัดสมองได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของนิล
-นิลมีประโยชน์ดังนี้
-นิลเป็นหินที่พบมากในประเทศไทย ที่ จ.กาญจนบุรี จ.จันทบุรี จ.ตราด สามารถปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ และคุ้มครองให้รอดพ้น จากอุบัติเหตุ หรือจากคนที่ไม่หวังดี พกติดตัวไปงานศพ ก็สามารถแก้เคล็ดให้กับคนที่ไม่ค่อยถูกกับงานศพ และคนที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอป่วยบ่อยๆ จึงควรสวมใส่หรือพกติดตัวไว้ ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และนำพาโชคลาภมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ
ประโยชน์ของโอปอล
-โอปอมีประโยชน์ดังนี้
-โอปอล (Opal) เหมาะกับคนที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในวงการมายา หรือวงการบันเทิงทุกรูปแบบ และมีลักษณะพิเศษเฉพาะคือ สามารถปกป้องคุ้มครองเสริมสิริมงคล ให้กับบุคคลที่เกิดในราศีตุลย์ ซึ่งเป็นการเสริมดวงชะตาให้เฉพาะกับราศีนี้ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ นอกจากนี้ คนโบราณยังมีความเชื่อเรื่องการเสริมเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามให้มารักใคร่เสน่หาอีกด้วย
-โอปอลที่สวยที่สุดในโลกคือโอปอลจากประเทศเอธิโอเปีย
กรุณาเปิดดูความสวยงามของโอปอลจากปนะเทศเอธิโอเปียที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้
https://www.opalauctions.com/learn/opal-information
เลขที่เป็นธาตุ
-เลข ๑ คือธาคุไฟ เป็นธาตุไฟที่ให้พลังความร้อนและแสงสว่าง
-เลข ๒ คืดธาตุดิน เป็นดินที่ชุ่มชื่น ดินที่อยู่ริมน้ำ
-เลข ๓ คือธาตุลม เป็นลมกรด ลมแก๊ส ลมพิษ
-เลข ๔ คือธาตุน้ำ เป็นน้ำที่ขุ่นข้นมีตะกอน น้ำในลำครอง
-เลข ๕ คือธาตุดิน เป็นดินที่แห้งงวดแข็งตัว ดินในที่ดอน
-เลข ๖ คือธาตุน้ำ เป็นน้ำฝน น้ำที่กลั่นกรองแล้ว
-เลข ๗ คือธาตุไฟ เป็นไฟที่เผาไหม้ ไฟหุงต้ม
-เลข ๘ คือธาตุลม เป็นลมพายุ ลมบนผิวโลก ลมหายใจ
-เลข ๙ คืออากาศธาตุ
**หมายเหตุ:- ตัวเลขที่เป็นธาตุเหล่านี้ ใช้ทำนายร่วมกับตัวเลขที่เป็นอวัยวะร่างกายและโรคภัยไขเจ็บ เพื่อจะทำให้รู้ว่าในร่างกายมีธาตุอะไรเสียบ้าง เป็นโรคอะไร
-ถ้าต้องการจะรู้ว่าในร่างกายมีธาตุอะไรเสียบ้าง ให้ทำนายร่วมกับภพ หินะ อริ มรณะ พยายะ
-ถ้าใครมีธาตุลมเสียผู้นั้นจะมีอายุสั้น ตัวอย่าง เช่น:-
นายอนุสิทธิ์ พิมพาเลิศ
1 2 3 4 5 6 7
5 6 7 1 2 3 4
5 6 7 1 2 3 4
11 14 17 6 9 12 15
-เลข 3 ธาตุลมยู่ในภพอริ เขาจะป่วยเป็นโรคเหล่านี้คือ:-
-โรคภูมิแพ้ โรคแพ้อากาศ โรคขาดความรู้สึกในการดมกลิ่น โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โคเส้นเอ็นพืการ
โรคโลหิตเป็นพิษ โรคอัมพฤก โรคม้ามพิการ โรคอวัยวะเพศพิการ โรคเกี่ยวกับยาเสพติด โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคตับ
-เลข 3 ซึ่งเป็นเลขของธาตุลมในพื้นดวงชะตาเสียคือไปตกในภพ อริ และมีเลข 12 เลขกำลังของพระราหูเป็นฐานบวกเขาจะมีอายุสั้น เพราะเป็นโรคตับ
เลขที่เป็นแร่
-เลข ๑ เป็นแร่ทองคำ
-เลข ๒ เป็นแร่เงิน
-เลข ๓ เป็นแร่เหล็ก
-เลข ๔ เป็นแร่ปรอท
-เลข ๕ เป็นแร่สังกะสี
-เลข ๖ เป็นแร่ดีบุก
-เลข ๗ เป็นแร่ตะกั่ว
-เลข ๘ เป็นแร่ทองแดง
-เลข ๙ เป็นแร่ยูเรเนี้ยม แร่เหล็กไหล
**หมายเหตุ:- เลขที่เป็นแร่เหล่านี้ใช้ทำนายร่วมกับภพ โภคา และเลขฐานบวกของภพโภคาที่เป็นเลข ๙ และ เลข ๑๒
ได้อีกด้วย
-เลขที่เป็นแร่ทั้งหลายเหล่านี้มีประโยชน์ในการทำนายดังนี้
๑.เจ้าชะตาควรจะมีแร่อะไรจึงจะทำให้เกิดมีทรัพย์สินเงินทองมาก
๒.ในบ้านเรือนของเจ้าชะตาจะฝังแร่อะไรเอาไว้จึงจะเป็นศิริมงคลและโชคลาภ
๓.แร่อะไรจึงจะถูกโฉลกกับชะตา แต่ถ้าเลขของภพโภคาไปตรงกับภพที่เสียและมีเลขฐานบวกไม่ดีห้ามมีแร่นั้นเป็น
เด็ดขาด
เลขที่เป็นรสอาหาร
-เลข ๑ รสเผ็ด
-เลข ๒ รสหวาน
-เลข ๓ รสขม
-เลข ๔ รสเปรี้ยว
-เลข ๕ รสมัน
-เลข ๖ รสฝาด
-เลข ๗ รสเค็ม
-เลข ๘ รสเมา
-เลข ๙ รสซ่า หรือหลายๆรสรวมกัน
**หมายเหตุ:- เลขที่เป็นรสอาหาร ใช้ทำนายร่วมกับตัวเลขที่เป็นบุคคลเพื่อที่จะทำให้รู้ว่าคนๆนั้นเขาชอบรสอะไร และให้ดูตัวเลขในภพที่ดีที่สุดในพื้นดวงชะตาประกอบไปด้วย
การทำนายชะตาแฝด
-ชะตาแฝดแบ่งออกได้เป็น ๒ ชนิด คือ:-
๑.ชะตาแฝดร่วมครรภ์ คือเกิดในท้องแม่เดียวกัน เรียกง่ายๆว่า "ลูกฝาแฝด"
๒.ชะตาแฝดร่วมวันเดือนปีเกิดเดียวกัน
การทำนายแฝดร่วมครรภ์
-แฝดร่วมครรภ์มีหลักในการทำนายดังนี้
-ผู้ใดคลอดออกมาจากท้องแม่ก่อน ให้ใช้เลขในภพอัตตะ เป็นตัวทำนาย ผู้ใดคลอดจากท้องแม่ทีหลังให้ใช้เลขในภพ ตนุ เป็นตัวทำนาย
-ต่อไแนี้ข้าพเจ้าจะยก เขาทรายและเขาค้อ แกแลคซี่ อดีตนักมวยแชมโลกซึ่งเป็นฝาแฝดร่วมแม่เดียวกันมาพยาการณ์ดูเป็นตัวอย่าง
-เขาทราย กาแลคซี่ และ เขาค้อ กาแลคซี่ เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๒
เลขในพื้นดวงชะตา
ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ปึกุน
6 7 1 2 3 4 5
6 7 1 2 3 4 5
5 6 7 1 2 3 4
17 20 9 5 8 11 14
-เขาทรายและเขาค้อ กาแลคซี่
-ลข 6 เป็นเลขของภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพสุภะ และมีเลข 20 ซึ่งเป็นเลขกำลังของเสาร์กำลังสอง เป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เขาค้อและเขาทรายเป็นคนขยันนักเอาเบาสู้ ตั้งใจจะเอาอะไรต้องพยายามทำสิ่งนั้นจนประสบผลสำเร็จจนมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ผลสำเร็จนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะเลขของฐานบวกเป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่ยกกำลังสอง เมื่อมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วชะตาชีวิตจะเกิดความผันผวนสับสนวุ่นวายจนไม่สามารถจะรักษาชื่อเสียงนั้นเอาไว้ได้ฐานะทางการเงินที่มีอยู่ก็จะหดหายไปจะมีหนี้สินจนแทบจะหมดตัวจนทำให้คู่ครองต้องหลบหนีตีจาก
-เลข 7 เป็นเลขของภพหินะซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพกัมมะ โดยมีเลข 9 คือเลขกำลังของญาณ เป็นฐานบวก ทำนายว่า "ฐานะทางการเงินและการงานจะตกต่ำเงินที่ได้มาจะหมดไปงานที่ทำอยู่ก็จะดำเนินต่อไปไม่ได้ต้องล้มเหลว ถึงมีโชคลาภก็มีเล็กน้อยไม่สามารถเอาไปลงทุนทำอะไรได้"
-เลข 1 เป็นเลขของภพธนังซึ่งจะไปตรงกับภพสหัชชะและภพลาภะ โดยมีเลข 5 กำลังเล็กเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีโชคลาภทางการเงินเพราะมีเพื่อนให้ความช่วยเหลือแต่จะเก็บเงินนั้นไว้ไม่อยู่จะหมดเพราะภรรยาเป็นสาเหตุ"
-เลข 2 เป็นเลขของภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพพยายะ โดยมีเลข 8 กำลังของดาวอังคารเป็นฐานบวก ทำนายว่า "ญาติพี่น้องที่มีก็พึ่งพาอาศัยกันไม่ได้ต่างคนต่างไปต่างคนต่างทำไม่ค่อยจะลงลอยกัน แม้กระทั่งพ่อก็ยังพึ่งพาอาศัยไม่ได้จะต้องตายจากไปก่อนหรือถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็จะเป็นโรคร้ายแรงแบบพึ่งพาอาศัยไม่ได้"
-เลข 3 เป็นเลขของภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพทาสา โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีแม่ดีเป็นเสาหลักและที่พึ่งของลูกได้หนักเอาเบาสู้ขยันขันแข็งในการหาเลี้ยงครอบครัวและมีสุขภาพดี"
-เลข 4 เป็นเลขของภพโภคาซึ่ไปตรงกับภพของอริและภพทาสี โดยมีเลข 14 เป็นฐานบวก ทำนายว่า "โภคะสมบัติที่มีและได้มาจะถูกศัตรูฉ้อโกงและเบียดเบียนเอาไปหมดศัตรูคนนี้เป็นผู้หญิงที่อยู่ในครอบครัวก็คงหมายถึงภรรยานั่นเองในที่สุดก็จะกลายเป็นพ่อร้างคือเลิกลากันไป"
-เลข 5 เป็นเลขของภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพมรณะ โดยมีเลข 17 เป็นฐานบวก ทำนายว่า
"ภรรยาจะมาจากแดนไกลแต่จะอยู่ด้วยกันไม่นานจะต้องเลิกร้างกันไปหรือมิฉะนั้นก็จะตายจากกัน
-เขาค้อและเขาทรายมีชะตาชีวิตคล้ายๆกัน แต่จแตกต่างกันตรงนี้ คือ:-
๑.ศีล คือศีล ๕ ข้อจะมีคนละกี่ข้อ
๒.กรรม คือการกระทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว
๓.นิสัยใจคอ
๔.รสนิยม
๕.ความรู้
ศีลและกรรมจะทำให้คนเรามีความแตกต่างกันทั้งในด้านของโชคลาภความสำเร็จหน้าที่การงานฐานะทางการเงินและความร่ำรวยข้อนี้โปรดจำไว้ให้ดี
ฝาแฝดคู่ที่สองคือไก่-ไข่
-ฝาแฝดคู่ที่ ๒ คือ เฮเดนและโจซัว ชื่อเล่นว่า "ไก่ ไข่" เป็นแฝดลูกครึ่งไทย-ออสเตเรีย เกิดเมื่วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๑
เลขในพื้นดวงชะตา
2 3 4 5 6 7 1
6 7 1 2 3 4 5
1 2 3 4 5 6 7
9 12 8 11 14 17 13
-ทำนายเฮเดน ฟิชเชอร์
-เลข 2 เป็นเลขของภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพสุภะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของพระราหูเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตามีญาติพี่น้องดีมีส่วนผักดันให้เขาเป็นคนมีชื่อเสียงเด่นดังในสังคมจะเป็นนักแสดงที่มีชื่ิเสียงมาก"
-เลข 3 เป็นเลขของภพหินะซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพกัมมะ โดยมีเลข 8 เลขกำลังของดาวพระอังคารอันเป็นดาวซึ่งเป็นกำลังของตนเองเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีบุตรมี่มีนิสัยซุกซนขี้เล่นถือดีสอนยากแต่ก็เป็นคนขยันในกิจการงานช่วยเหลือในกิจการงานของพ่อแม่ได้ดี"
-เลข 4 เป็นเลขของภพธนังซึ่งไปตรงกับภพอริและภพลาภะ โดยมีเลช 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะถูกเขาหลอกและฉ้อโกงเกี่ยวกับเรื่องเงินจนเกิดเป็นคดีใหญ่โตแต่ก็สามารถเอาชนะได้ในที่สุด"
-เลข 5 เป็นเลขของภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพพยายะ โดยมีเลข 14 เลขกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้คู่ครองเป็นคนที่มีอายุมากเป็นแม่ร้างหรือแม่หม้ายที่มีเงินและมีชื่อเสียง"
-เลข 6 เป็นเลขของภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพทาสา โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพระพุธเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีนิสัยใจคอเหมือนแม่อ่อนหวานนุ่มนวลขยันขันแข็งเป็นคนรักครอบครัวดี"
-เลข 7 เป็นเลขของภพโภคาซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพทาสี โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะเป็นผู้มีฐานะทางการเงินดีมีฐานะร่ำรวยจะครอบครองทรัพย์สินที่ได้มาไว้ไได้ดีไม่ค่อยเสียหาย"
-เลข 1 เป็นเลขของภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพมรณะ โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า " เจ้าชะตาจะได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อการศึกษาและหน้าที่การงาน"
-ทำนายโจซัว ฟิชเชอร์
-เลข 6 เป็นเลขของภพตนุซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพทาสา โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพระพุธเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีนิสัยใจคอและหน้าตาเหมือนแม่ เป็นคนขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ มีจิตสำนึกดีมีความรับผิดชอบสูง รู้จักการผ่อนปรนในการติดต่อและการเจรจา เหมาะแก่การเป็นนักการทูต"
-เลข 7 เป็นเลขของภพกฎุมพะซึ่งไปตรงกับภพโภคาและภพทาสี โดยมีเลข 13 เลขของมหาอจ หมายถึงวาสนาเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีฐานะร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติมาก จะรักษาทรัพย์สมบัตินั้นไว้ได้ดีไม่ค่อยเสียหาย"
-เลข 1 เป็นเลขของภพสหัชชะซึ่งไปตรงกับภพม้ชฌิมาและภพมรณะ โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อการศึกษาและหน้าที่การงาน จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี"
-เลข 2 เป็นเลขของภพพันธุซึ่งไปตรงกับภพอัตตะและภพสุภะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของดาวพระราหูเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีญาติพี่น้องเป็นคนดีใจบุญสุนทานพึ่งพาอาศัยได้"
-เลข 3 เป็นเลขของภพปุตตะซึ่งไปตรงกับภพหินะและภพกัมมะ โดยมีเลข 8 เลขกำลังของดาวพระอังคารเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้บุตรซุกซนมีนิสัยดื้อดึงแต่ต่อมาในภายหลังก็จะมีจิตสำนึกดีขึ้นรู้จักทำมาหากินจนมีชื่อเสียงดี"
-เลข 4 เป็นเลขของภพอริซึ่งไปตรงกับภพธนังและภพลาภะ โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะถูกศัตรูเบียดเบียนเรื่องการเงินและขัดขวางในเรื่องของโชคลาภจนทำให้ต้องสูญเสียเงินไปเป็นจำวนมากสูญเสียโอกาสดีๆไปตั้งหลายครั้ง แต่ด้วยความฉลาดของเจ้าชะตาก็จะสามารทำศัตรูให้พ่ายแพ้ไปเองและทำให้โชคลาภนั้นบังเกิดขึ้นแก่ตนได้สำเร็จ"
-เลข 5 เป็นเลขของภพปัตตนิซึ่งไปตรงกับภพปิตาและภพพยายะ โดยมีเลข 14 เลขของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีคู่ครองที่ผู้ใหญ่เป็นคนจัดหาให้แต่คู่ครองเป็นคนขี้โรคมีสุขภาพไม่ดีอายุไม่ยืนจะทำให้เจ้าชะตาเป็นหม้าย"
การทำนายแฝดร่วมชะตา
-แฝดร่วมชะตา คือแฝดที่มีวัน เดือน ปีเกิดเหมือนกัน โดยมีหลักในการทำนายดังนี้
-คนทีหนึ่ง ให้ใช้ภพอัตตะเป็นการทำนายรูปร่างและรสนิยม
-คนที่สอง ให้ใช้ภพตนุทำนายรูปร่างและรสนิยม
-ตัวอย่างของคนที่มี วัน เดือน ปี เกิดเหมือน เช่น:-
-นายเป๋ง และ นายเพ็ง เกิดในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๕ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
เลขในพื้นดวงชะตา
5 6 7 1 2 3 4
4 5 6 7 1 2 3
5 6 7 1 2 3 4
14 17 20 9 5 8 11
-ทำนายนายเภา:-
-เลข 5 เป็นเลขของภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพมรณะ โดยมีเลข 14 เลขกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิ
เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาเกิดมาในตระกูลของครอบครัวที่มีฐานะทางการเงินดีจะได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อการศึกษาและหน้าที่การงาน"
-เลข 6 เป็นเลขของภพหินะซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพสุภะ โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพระพุธเป็นฐาน
บวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆเพราะธุรกิจการค้าให้ระวังเรื่องธุรกิจการค้าจะมีถูกฉ้อโกง
แต่ไม่สู้จะร้ายแรงนักพอจะแก้ไขได้"
-เลข 7 เป็นเลขของภพธนังซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพกัมมะ โดยมีเลข 20 เลขของเสาร์กำลังสองเป็นฐาน
บวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีญาติพี่น้องและพรรคพวกเพื่อนฝูงมารบกวนเรื่องการเงินยืมเงินไปแล้วไม่ส่งคืนจนทำให้การงานของเจ้าชะตาตกต่ำจนขาดความเชื่อถือเป็นกรรมเก่าที่เจ้าชะตาจะต้องได้รับ"
-เลข 1 เป็นเลขของภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพลาภะ โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้บุตรดีมีนิสัยเรียบร้อมีความสุขุมเป็นผู้ใหญ่จะนำโชคลาภมาให้เจ้าชะตาอยู่เสมอพึ่งพาอาศัยได้ดี ถ้าเจ้าชะตามีผลืตภัณฑ์เกี่ยวกับไฟฟ้าขึ้นมาจำหน่ายจะทำให้เจ้าชะตาร่ำรวยและมีเงินทองมาก"
-เลข 2 เป็นเลขของภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพอริและพยายะ โดยมีเลข 5 เลขกำลังเล็กเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามักจะไม่ค่อยลงลอยกับมารดา มารดามักจะทำให้เกิดอุปสรรคยู่เสมอ"
-เลข 3 เป็เลขของภพโภคาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิแลัภพทาสา โดยมีเลข 8 เลขกำลังของดาวพระอังคารเป็นเลขบัมากของฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้ภรรยาที่มีทรัพย์สินสมบั้ติมากมีฐานะทางการเงินดีและเป็นคนขยันในกิจการภายในครอบครัวดี ฉลาดและกล้าหาญ"
-เลข 4 เป็นเลขของภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพทาสี โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้ผู้รับใช้หญิงที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีไว้เนื้อเชื่อใจได้"
-ทำนายนายเภ็ก:-
-เลข 4 เป็นเลขของตนุซึ่งไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพทาสี โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้ภรรยาที่ขยันในการหาเลี้ยงครอบครัวการงานภายในบ้านก็เรียบร้อยดีและมีความซื่อสัตย์ต่อสามีมาก"
-เลข 5 เป็นเลขของภพกฎุมพะซึ่งไปตรงกับภพอัตตะและภพมรณะ โดยมีเลข 14 เลขกำลังพระเจ้าักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาเป็นคนมีานะทางการเงินดีและจะได้มรดกจากพ่อแม่"
-เลข 6 เป็นเลขของภพสหัชชะซึ่งไปตรงกับภพหินะและภพสุภะ โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพุธเป็นฐานบวก
ทำนนายว่า "เจ้าชะตาเมื่อเดินทางไปต่างประเทศจะมีคนให้ร้ายจนเสื่อมสียชื่อเสียงคอยขัดขวางในการกระทำของเจ้าชะตาจนเกิดความขัดข้องขึ้นในที่สุดด้วยการรู้จักการผ่อนปรนของเจ้าชะตาก็จะเอาตัวรอดไปได้ คนที่คอยขัดขวางคือผู้หญิงรูปร่างขาวท้วมคนนี้ก็คือภรรยาของเจ้าชะตานั้นเอง ข้อนี้ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าข้าพเจ้าไปเอาผู้หญิงรูปร่างขาวท้วมมาจากไหน ข้อนี้ข้าพเจ้าได้ย้อนขึ้นไปดูเลข 4 ซึ่งเป็นเลขของดาวพุธในพื้นดวง เลข 4 ในพื้นดวงเป็นเลขของภพมัชฌิมา, ภพตนุ, และภพทาสี ภพทาสีนี้แหละที่ข้าพเจ้านำเอามาร่วมในการทำนาย การทำนายย้อนขึ้นอย่างนี้ท่านผู้อ่านโปรดจดจำไว้ให้ดี เมื่อท่านทำได้อย่างนี้ท่านก็จะเข้าเข้าใจวิชาการพยากรณ์แบบเลข 7 ตัวตามแบบข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่งเลยที่เดียว เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านก็จะกลายเป็นนักนักพยากรณ์หรือนักทำนายที่แม่นยำจนหาผู้ทัดเทียมได้ยาก"
-ลข 7 เป็นเลขของภพพันธุซึ่งไปตรงกับภพธนังและภพกัมมะ โดยมีเลข 20 เลขของเสาร์กำลังสองเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะเกิดความเดือดร้อนเกี่ยวกับเรื่องเงินในกิจการงานที่กระทำอยู่คืองานขาดสภาพคล่องเพราะมีเงินหมุนเวียนในระบบน้อยเพราะญาติพี่น้องและพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นสาเหตุ แต่ไม่นานเจ้าชะตาก็สามรถทำให้งานกลับมามีสภาพคล่องเหมือนเดิมได้ไม่ล้มละลาย"
-เลข 1 เป็นเลขของภพปุตตะซึ่งไปตรงกับภพปิตาและภพลาภะ โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้บุตรที่มีนิสัยเป็นผู้ใหญ่รูปร่างหน้าตาเหมือนพ่อและจะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อเป็นอย่างดี
จะได้ลาภจากพ่อ ถ้าเจ้าชะตาขายเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับไฟฟ้าหรือขายเครื่องผลิตไฟฟ้าจะทำให้ร่ำรวยมาก"
-เลข 2 เป็นเลขของภพอริซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพพยายะ โดยมีเลข 5 เลขพฤหัสบดีเล็กเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตามักจะมีความคิดเห็นเรื่องความเชื่อถือเกี่ยวกับศาสนาที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับมารดาจนทำให้มารดเกิดความไม่สบายใจถึงกับล้มป่วยเสมอ"
-เลข 3 เป็นเลขของภพปัตตนิซึ่งไปตรงกับภพโภคาและภพทาสา โดยมีเลข 8 เลขกำลังของดาวพระอังคารเป็นฐานบวก ทำนายว่า "ภรรยาของเจ้าชะตาจะเป็นคนมีทรัพย์สมบัติมาก ทั้งฉลาดและขยันขันแข็งเข้มแข็งสปอร์ตพึ่งพาอาศัยได้ดีจนเจ้าชะตาต้องตกอยู่ใต้อำนาจของนางอย่างสิ้นเชิง"
ตัวอย่างการตอบปัญหาเรื่องคำถามของคนที่มีเลขในพื้นดวงชะตาเหมือนกัน
-นายอนุศักดิ์ บุญแพง และนายเทพไทย บุญกู้ มีวันเดือนและปีเกิดตรงกันคือเกิดเมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๙
ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง เลขในพื้นดวงชะตมีดังนี้
เลขในพื้นดวงชะตา
1 2 3 4 5 6 7
5 6 7 1 2 3 4
5 6 7 1 2 3 4
11 14 17 6 9 12 15
คำถามของคนที่หนึ่ง
-นายอนุศักดิ์ บุญแพง ถามเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ว่า "ผมเกิดที่จังหวัดอุทัยธานี รับราชการในกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง วิถีชีวิตในการรับราชการมีความราบรื่นดีในปี พ.ศ.๒๕๑๖ผมมีเงินซื้อรถยนต์และปลูกบ้านและยังได้เลื่อนตำแหน่งอีกด้วย ขณะนี้ผู้ใหญ่ได้ขออัตราเงินเดือนให้ใหม่ แต่ผู้ใหญ่กว่าอีกท่านหนึ่งขอให้ผมย้ายไปเป็นสมุบัญชีผมจะไปดีหรือไม่ครับ?"
**คำเตือน:- การตอบคำามที่เขาถามมาให้ใช้หลักของอายุจร, วันจร, เดือนจร, และปีจร ตอบจะแม่นยำที่สุด
-ตอบคำถามของนายอนุศักดิ์ บุญแพง:-
-เลขของอายุจรไปตกลงที่เลข 7 ในภพกัมมะซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพมัชฌิมา โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพธเป็นฐานบวก ทำนายว่า "ดีตอนแรกแต่ผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือดีแต่ตอนหลังลูกน้องหรือคนใกล้ชิดจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นจนถึงกับมีโทษได้"
-เลขวันจรไปตกที่เลข 4 ภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพทาสี โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวจันทร์เป็นเลขคู่มิตรและเป็นฐานบวก ทำนายว่า "การเดินทางไปรับตำแหน่งของเจ้าชะตาจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่และผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดีแต่ต่อมาในภายหลังลูกน้องที่อยู่ใต้บังคับบัญชาที่นิสัยไม่ดีจะทำให้เจ้าชะตาเกิดความเดือดร้อนมีโทษขึ้นแต่พอจะแก้ไขได้"
-เลขของเดือนจรไปตกลงที่ภพปัตตนิซึ่งไปตรงกับภพปิตาและภพทาสี โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวจันทร์เป็นเลขคู่มิตรเป็นฐานบวก ทำนายว่า "การเดินทางไปรับตำแหน่งจะได้รับความเห็นชอบจากภรรยาและจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่และลูกน้องที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดีแต่ต่อมาในภายหลังลูกที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาที่นิสัยไม่ดีจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นจนต้องเกิดเป็นคดีความ"
-เลขของปีจรไปตกลงที่ภพมรณะซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมาตา โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นเลขของฐานบวก ทำนายว่า "มารดาของเจ้าชะตาจะทุกข์ใจเกี่ยวกับคดีนี้มากจนล้มป่วยและเสียชีวิตได้"
-สรูปคำพยากรณ์ออกมาสั้นๆว่า "ไปไม่ดีจะเกิดเป็นคดีความและความเดือดร้อนขึ้นในภายหลัง"
คำถามของคนที่สอง
-ตอบคำถามของนายเทพไทย บุญกู้:-
-นายเทพไทย บุญกู้ ถามเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519 "ผมเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด รับราชการในกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย วิถีชีวิตในการรับราชการไม่ค่อยจะราบรื่น ในปีพ.ศ.2516 ได้หย่าขาดจากภรรยา ถูกถอดออกจากราชการ ขณะนี้ผู้ใหญ่ให้ทำหนังสือยืนขอกลับเข้ารับราชการใหม่ อยากทราบว่าจะยืนได้สำเร็จหรือไม่?"
-ตอบคำถามของนายเทพไทย บุญกู้:-
-เลข 7 ภพกัมมะเป็นเลขของอายุจร ซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพมัชฌิมา โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพุธเป็นฐานบวก ทำนายว่า "สำเร็จแต่ช้าหน่อย"
-เลข 5 ภพมาตาเป็นเลขของวันจร ซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมรณะ โดยมีเลข 11 เลขราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงจะช่วยทำให้เบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญกลับคืนมา"
-เลข 4 ภพปัตตนิเป็นเลขของเดือนจร ซึ่งไปตรงกับภพปิตาและภพทาสี โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวจันทร์เป็นเขของฐานบวก ทำนายว่า "ผู้ใหญ่ฝ่ายชายและภรรยามีส่วนให้ยืนได้สำเร็จ"
-เลข 5 ภพมรณะเป็นเลขของปีจร ซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมาตา โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงจะช่วยให้กลับคืนมารับราชการได้สำเร็จ"
การทำนายชะตาที่มีเลขซ้ำกันทั้ง 3 ฐาน
-หลักในการทำนายชะตาที่มีเลขซ้ำกันทั้ง ๓ ฐาน มีหลักในการทำนายดังนี้
๑.ให้ทำนายเลขในพื้นดวงชะตาไปตามลำดับ
๒.ให้ทำนายเลขของอายุจร, วันจร, เดือนจร, และเลขของปีจร ประกอบในการทำนาย
๓.ถ้าเลขในภพอัตตะก็ดี เลขในภพตนุก็ดี และเลขในภพพันธุก็ดี ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะไม่ได้อยู่ในถื่นกำเนิดหรือบ้านเกิด จะไปใช้ชีวิตในถิ่นอื่น"
๔.ให้ใช้เลขของทิศประกอบในการทำนาย
ตัวอย่างของผู้มีเลขพื้นชะตาซ้ำกันทั้ง ๓ ฐาน
-อาจารย์แสวง สารสิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๗ ซึ่งตรงกับวันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๒ ปีวอก
เวลา ๑๗.๐๐ น.
เลขในพื้นดวงชะตา
2 3 4 5 6 7 1
2 3 4 5 6 7 1
2 3 4 5 6 7 1
6 9 12 15 18 21 3
-การทำนายเลขในพื้นดวงชะตามีดังนี้
-เลข 2 เป็นเลขของภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมรณะ โดยมีเลข 6 เลขกำลังของดาวพระอาทิตย์เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีความเชื่อมั่นในนเองและมีความพยายามสูง จะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ จะได้เดินทางไปต่างประเทศ และไปประกอบอาชีพในถิ่นอื่น๙ึ่งไม่ใช่บ้านเกิดของตนเองอย่างแน่นอน ให้ระวังจะเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในครอบครัวเพราะภรรยาเป็นสาเหตุ
**หมายเหตุ:-
-การทำนายในข้อนี้บางคนอาจจะสงสัยว่าข้าพเจ้าไปเอาภรรยามาจากไหน?" จงดูข้าพเจ้าจะแจกแจงให้เห็นอย่างจะแจ้งไปเลย เลข 2 ที่เป็นภพอัตตะของเจ้าชะตามันเป็นเลขของดาวพระจันทร์ เลข 6 ที่เป็นเลขของฐานบวกมันเป็นเลขของดาวพระอาทิตย์ 1 กับ 2 คือเลขของพระอาทิตย์และเลขของดาวพระจันทร์มาคู่กัน จะเป็นเลขคู่แห่งความขัดแย้ง ทีนี้ถ้าเราอยากรู้ว่าเจ้าชะตาจะเกิดความขัดแย้งกับใครก็ให้ดูจาก 6 ที่เป็นเลขกำลังของดาวพระอาทิตย์ ทีนี้ให้ไปดูที่เลข
1 ซึ่งเป็นเลขของพระอาทิตย์ในพื้นดวงชะตา ในพื้นดวงชะตาเลข 1 เป็นเลขของภพปัตตนิและภพทาสี คำว่า "ภรรยา"
ข้าพเจ้าได้มาจากภพนี้
-เลข 3 เป็นเลขของภพหินะซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพสุภะ โดยมีเลข 9 เลขของกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีฐานะทางการเงินค่อนข้างดีและจะดีเด่นในเรื่องของเกียรติยศชื่อเสียง"
-เลข 4 เป็นเลขของภพธนังซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพกัมมะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของพระราหูเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้เงินจากหน้าที่การงานและการเดินทางติดต่อค้าขายผลิตภัณฑ์ทางด้านอุตสาหกรรมบางประเภท"
-เลข 5 เป็นเลขของภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพลาภะ โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์เป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้ลาภจากพ่อและญาติพี่น้องเกี่ยวกับเรื่องของมรดก"
-เลข 6 เป็นเลขของภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพพยายะ โดยมีเลข 18 เลขของพระเจ้ามหาจักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้บุตรหญิงที่มีนิสัยรูปร่างหน้าตาเหมือนแม่มักจะเป็นคนมีโรคมากได้พึ่งพาอาศัยน้อย"
-เลข 7 เป็นเลขของภพโภคาซึ่งไปตรงกับภพอริและภพทาสา โดยมีเลข 21 เลขกำลังของดาวพระศุกร์เป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะเป็นคดีความเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งปลูกสร้างที่ดินและคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา"
-เลข 1 เป็นเลขของภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพทาสี โดยมีเลข 3 เลขของดาวอังคารเล็กเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้ภรรยาที่รักครอบครัวดีแต่จะอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน"
วิธีการดูการศึกษาและอาชีพ
-วิธีการดูการศึกษาและอาชีพมีหลักในการดูดังนี้
พื้นดวงชะตาของ น.ส.นฤมล ศรีบุญเรือง
เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๔ ตรงกับ วันพุธ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปึระกา
4 5 6 7 1 2 3
5 6 7 1 2 3 4
3 4 5 6 7 1 2
12 15 18 14 10 6 9
-วิธีดูว่าเจ้าชะตาจะศึกษาและทำอาชีพไรดี?
๑.ให้ดูว่าเลขในพื้นดวงตัวไหนดีที่สุดและต้องมีฐานบวกที่ดีด้วย
๒.ให้ดูเลขในภพอัตตะประกอบด้วย เพื่อจะดูแนวความคิดของเจ้าชะตา
-ในพื้นดวงนี้เลขที่ดีที่สุดคือ เลข 4 เลข 6 เลข 1 เลข 2
-น.ส.นฤมล ศรีบุญเรือง ควรศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของการสื่อสาร, การพาณิชย์, และการบัญชี
-อาชีพที่เหมาะสมกับน.ส.นฤมล ศรีบุญเรือง คืออาชีพสารสนเทศและการสื่อสาร, นักข่าว, ถ้าเป็นข้าราชการให้ทำงานที่ กระทรวงพาณิชย์และกรมบัญชีกลาง
ทำนายเลขในพื้นดวงชะตา
-เลข 4 เป็นเลขของภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพสุภะ โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์ซึ่งเป็นเลขคู่มิตรกับเลข 4 ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้คู่ครองดีและมีฐานะเท่าเทียมกัน"
-เลข 5 เป็นเลขของภพหินะซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพกัมมะ โดยมีเลข 18 เลขของพระเจ้ามหาจักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีนิสัยดื้อดึงไม่ยอมคนง่ายๆ ต่อไปจะทำให้งานเกิดความเสียหายจนทำให้ชีวิตตกต่ำ"
-เลข 6 เป็นเลขของภพธนังซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพลาภะ โดยมีเลข 14 เลขพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะเป็นคนร่ำรวยอยู่ในขั้นเศรษฐีและมีเกียรติยศชื่อเสียงมาก"
-เลข 7 เป็นเลขของภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพพยายะ โดยมีเลข 10 เลขกำลังของดาวพระเสาร์เป็นฐานบวก ทำนายว่า "พ่อของเจ้าชะตาเป็นคนกว้างขวางในวงสังคมมีพรรคพวกบริวารมาก จะเป็นป่วยเป็นโรคตายก่อนแม่"
-เลข 1 เป็นเลขของภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพทาสา โดยมีเลข 6 เลขกำลังของดาวพระอาทิตย์เป็นฐานบวก ทำนายว่า "แม่ของเจ้าชะตามีญาติพี่น้องมากและเป็นคนขยันในการประกอบอาชีพจนมีฐานะดี"
-เลข 2 เป็นเลขของภพโภคาซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพทาสี โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีลูกดีว่านอนสอนง่ายพ่อแม่พึ่งพาอาศัยได้ ถ้าเจ้าชะตาทำการผลิตเกี่ยวกับสิงที่เป็นผืนหรือแผ่นที่เป็นรูปภาพเกี่ยวแก่การบันเทิงจะดีมีชื่อเสียงมาก"
-เลข 3 เป็นเลขของภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพอริและภพพยายะ โดยมีเลข 12 เลขของกำลังของพระราหูเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีศัตรูน้อยถึงมีก็ทำอะไรเจ้าชะตาไม่ได้ย่อมพินาศไปเองมีสุขภาพดีมีโรคน้อยและมีอายุยืน"
การดูคู่ครอง
-การดูคู่ครองมีหลักในการดูดังนี้
๑.ถ้าจะดูรูปร่าง, อุปนิสัยใจคอ, รสนิยม, แนวความคิด, และการกระทำของคู่ครอง ให้ดูเลขในภพปัตตนิ
๒.ถ้าจะดูอาชีพของคู่ครอง ให้ดูเลขในภพปัตตนิและเลขในภพสุภะประกอบกัน
๓.ให้ดูความหมายของตัวเลขประกอบกันไปด้วย เช่น:-
-น.ส.วรรณิภา แก้วไชยะ เกิดเมื่ิอวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๑ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗
ปีมะเมีย เวลา ๑๘.๐๐ น.
-ถาม:-จะไดคู่ครองรูปร่างอย่างไร? มีอุปนิสัยใจคอเป็นอย่างไร? มีรสนิยมอย่างไร? มีแนวความคิดอย่างไร? การกระทำของคู่ครองจะเป็นอย่างไร? และคู่ครองจะมีอาชีพอะไร?
เลขในพื้นดวงชะตา
2 3 4 5 6 7 1
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
16 5 8 11 14 17 13
-ตอบ:-เลข 6 เป็นในภพปัตตนิ
๑.เจ้าชะจะได้คู่ครองที่มีอายุมากรูปร่างขาวท้วมหน้าตาดีมีวาสนาสูง
๒.คู่ครองจะมีอุปนิสัยใจคอเป็นผู้ใหญ่ใจบุญสปอร์ตชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นนิสัย
๓.คู่ครองมีรสนิยมในทางศิลปะ, การแสดงและการประพันธ์
๔.คู่ครองมีแนวความคิดในทางสร้างสรรค์มีแนวความคิดใหม่ๆอยู่เสมอ
๕.คู่ครองชอบในการทำบุญชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นคนขยันในการประกอบอาชีพจนมีฐานะทางการเงินดี
๖.คู่ครองมีอาชีพเป็นนักธุรกิจระดับใหญ่มีเกียรติยศชื่อเสียงดี ดวงชะตานี้ถ้าได้คู่ครองไม่ถูกกับโฉลกของตนเองจะทำให้มีคู่หลายคน
-เลข 2 เป็นเลขของภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพกัมมะ โดยมีเลข 8 เลขของกำลังของดาวพระอังคารซึ่งเป็นเลขของคู่ศัตรูใหญ่ที่กล้าในการกระทำในสิ่งที่ผิด ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบคบหาเพื่อนที่กล้ากระทำในสิ่งที่ผิด ทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันทำงานจับจดไม่พอใจก็เลิกค่อนข้างจะเอาใจยาก"
-เลข 3 เป็นเลขของภพหินะซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพลาภะ โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตามีญาติพี่น้องเยอะแต่พึ่งพาอาศัยไม่ค่อยได้ โชคลาภมักอับเฉา หวังอะไรมักจะไม่ประสบความสำเร็จ"
-เลข 4 เป็นเลขของภพธนังซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพพยายะ โดยมีเลข 14 เลขของพระเจ้าจักรพรรดิเป็น
ฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีลูกที่มีฐานะทางการเงินดีแต่พึ่งพาอาศัยไม่ได้ ไม่ตายก่อนก็จะเป็นโรคที่รักษายากต้องหมดเงินไปเยอะ"
-เลข 5 เป็นเลขของภพปิตาซึ่งไปตรงกับภพอริและภพทาสา โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพระพุธเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามักจะมีความไม่ลงรอยกับพ่อ พ่อจะมีความประพฤติไม่ดีทำตนเองให้ตกต่ำจนเจ้าชะตาขาดความเชื่อถือ"
-เลข 6 เป็นเลขของภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพทาสี โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะได้สามีที่มีอายุมากเพราะแม่เป็นคนจัดแจงให้ สามีเป็นคนดีรักเจ้าชะตามาก"
-เลข 7 เป็นเลขของภพโภคาซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมรณะ โดยมีเลข 16 เลขกำลังเศษฐีเป็นฐานบวก
ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีทรัพย์สมบัติมากและได้จะรับมรดกที่สามีทิ้งไว้ให้เป็นจำนวนมาก"
-เลข 1 เป็นเลขของภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพสุภะ โดยมีเลข 5 เลขของดาวพระพฤหัสบดีเล็กที่เป็นเลขคู่มิตรเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะมีฐานทางการเงินดีมีความเป็นอยู่ค่อนข้างสบายเพราะผู้ใหญ่เป็นคนมอบให้"
คำถามเกี่ยวกับเรื่องของคู่ครอง
๑.ถาม:เมื่อแต่งงานไปแล้วจะดีหรือไม่?
-ตอบ:ถ้าเลขของภพปัตตนิเป็นเลขดีไปตรงกับภพที่ดีในอีกสองฐานและมีเลขฐานบวกเป็นเลขที่ดีด้วยขอรับประกันได้เลยว่าแต่งงานไปแล้วจะดีเอามากๆ แต่ถ้าเลขในฐานบวกของภพปัตตนิเป็นเลขไม่ดีแม้เลขในพื้นดวงจะดีก็ตาม แต่งงานไปแล้วะลำบากไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน.
๒.ถาม:คู่ครองจะเป็นคนดีหรือไม่?
-ตอบ:ถ้าเลขในภพปัตตนิดีไปตรงกับภพที่ดีอีกในสองฐาน และมีเลขในฐานบวกเป็นเลขที่ดีด้วยจะได้สามีที่เป็นคนดีอย่างแน่นอน แต่ถ้าเลขในภพปัตตนิไม่ดีและเลขในฐานบวกก็ไม่ดี ก็จะได้สามีที่ไม่ดี จะไม่ดีในเรื่องอะไรก็ให้ดูความสัมพันธ์ของเลขประกอบกันไปด้วยถึงจะทำนายได้แม่นยำดี.
๓.ถาม:คู่ครองจะเป็นคนหนุ่มหรือแก่?
-ตอบ:ถ้าเลขในภพปัตตนิไปตรงกับภพปิตาและภพมาตา หรือมีความสัมพันธ์ถึงภพทั้งสองนี้จะได้คู่ครองแก่ ถ้าไปตรงกับภพอื่นจะได้คู่ครองหนุ่ม.
๔.ถาม:แต่งงานเมื่อไหร่จึงจะดี?
-ตอบ:ให้ใช้หลักของการทายจรเป็นตัวทำนาย ถ้าเลขตัวใดไปตรงกับภพพันธุหรือมีความสัมพันธ์ถึงให้เลขของภพพันธุเป็นตัวตัดสินชี้ขาด.
**ข้อสังเกตุ:-
๑.ถ้าเลขของภพปัตตนิไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพทาสี เจ้าชะตาะมีคู่ครองหลายคน เว้นไว้แต่เลขในภพปัตตนินั้นจะมีความสัมพันธ์ถึงภพหินะซึ่งให้ผลว่าเป็นคนขี้โรคและถ้าไปตรงกับภพพยายะซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีโรคประจำตัวที่รักษายากและต้องบาดเจ็บพิกลพิการอย่างหนึ่งอย่างใดมาก่อนก็จะมีคู่ครองคนเดียวหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้
๒.ถ้าเลขของภพมัชฌิมาไปตรงกับภพปุตตะและทาสี เจ้าชะตาจะได้กับคนที่สนิทสนมกันมาก่อน ซึ่งเหินห่างกันไปนานแล้วแต่จะกลับมาสนิทสนมกันใหม่
๓.การแต่งงานจะเร็วหรือช้าให้พิจารณาดูจากอายุจรเป็นสำคัญ เลขของอายุจรไปตกที่ภพดีหรือไม่ดีเป็นจุดสังเกตุที่สำคัญในขั้นแรก ต่อมาก็ให้ดูที่เลขของเดือนจรและปีจรเป็นจุดการดูตัวที่สอง
ความหมายของตัวเลขที่เป็นคู่ครอง
-ถ้าเลข 1 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่ครองที่พึ่งพาอาศัยได้ รูปร่างงามกระทัดรัดผิวเนื้อดำแดงไม่ค่อยแก่ แต่ใจร้อนโกรธง่ายหายเร็วเป็นกำพร้ามีใจโอบอ้อมอารีดี เจ้าชู้ความรู้ดี แต่มักดุมีคนยำเกรง"
-ถ้าเลข 2 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่ครองที่มีเชื้อสายสกุลดี รูปร่างน่ารัก ผิวขาวแต่ใจน้อยแสนงอนอ่อนไหวง่ายและเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว เห็นแก่ได้ มีความรู้ดีมักได้เป็นหัวหน้าคน รู้จักการประจบในที ผู้คนมักเอ็นดู"
-ถ้าเลข 3 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่ครองที่มีความคิดอ่านดี รูปร่างสันทัด ผิวเนื้อดำแดง เป็นกำพร้า ปากร้ายใจนักเลง ใจร้อนมุทะลุ
เก็บทรัพย์ไม่อยู่ มักตามใจคนฃักนำ เพื่อนฝูงรักใคร่ดี"
-ถ้าเลข 4 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่ครองที่มีหัวคิดดี ฉลาดอ่อนโยน รูปร่างท้วมเล็กน้อย ผิวขาวอมปดงหรือขาวเหลือง ทำมาหากินเก่ง รู้จักเก็บรู้จักำ รู้จักการถ่อมตน ผู้คนมักชอบใจในการเจรจา แต่มักเชื่อคนง่าย"
-ถ้าเลข 5 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่ครองที่มีหลักฐานดี ชอบทำบุญสร้างกุศล รูปร่างขาวท้วมใจคอหนักแน่นเยือกเย็นสุขุมดี รู้จักจังหวะและโอกาศอันสมควร เป็นหม้าย วางท่าสมถะผู้คนมักยกย่องนับถือ"
-ถ้าเลข 6 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่คองที่มีหลักทรัพย์ดี ใจบุญชอบในการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่น รูปร่างท้วมหรือสูงโปร่ง ผิวขาวมักมีเสน่ห์อยู่ในตัว เป็นคนประณีตและพิถีพิถัน รู้จักเก็บกำรักษา ชอบความสวยงาม มักยินดีในโลภะเจตนาเป็นคนอยากได้อยากดี มีศิลปะในการพูดและการแสดง ผู้คนทั้งหลายมักนิยมชมชอบ"
-ถ้าเลช 7 เป็นเลขของภพปัตตนิ
-ทำนายว่า "จะได้คู่ครองที่มีหลักฐานมั่นคงดี เป็นหม้าย หย่าร้างหรือมีพันธะผูกพันธ์มาก่อน รูปร่างท้วมแก่ ผิวดำคล้ำ ผมบางมีความรู้ เป็นคนมีความอดทนดีใจคอมั่นคงหนักแน่น แต่พูดจาไม่ค่อยแน่นอนและมักเป็นคนเจ้าชู้"
**หมายเหตุ:-
๑.ถ้าจะให้แม่นยำและถูกต้องควรดูเลขในภพที่เกี่ยวข้องกันและเลขของฐานบวกประกอบด้วยข้อนี้จะลืมเสียมิได้โดยเด็ดขาด
๒.คนที่มีชะตาแต่งงานช้ากว่าปกติให้ดูเลขของฐานบวกประกอบจะได้รู้ว่าช้าเพราะเหตุอะไร มีอุปสรรคมาตัดรอนหรือไม่ เจ้าชะตาอาจจะเลือกมากหรืออาจจะตั้งความวังไว้สูงเกินไปเลือกเท่าไร่ก็ไม่ถูกใจสักที
๓.การแต่งงานที่เร็วกว่ากำหนดก็เหมือนกัน ให้พิจารณาดูเลขฐานบวกของภพปัตตนิจะช่วยให้เรารู้ว่าเร็วเพราะเหตุอันใด ตลอดไปถึงการแต่งงานที่ถูกต้องตามประเพณีนิยมเป็นการสมัครใจกันเองไม่มีผู้ขัดขวาง หรือขัดขวางแต่ก็ไม่สำเร็จ
การทำนายบุตร
-การทำนายบุตรมีหลักเกณฑ์ในการทำนายดังนี้
-บุตรคนที่ ๑ ให้ดูจากภพปุตตะ
-บุตรคนที่ ๒ ให้ดูจากภพปัตตนิ
-บุตรคนที่ ๓ ให้ดูจากภพสุภะ
-บุตรคนที่ ๔ ให้ดูจากภพลาภะ
-บุตรคนที่ ๕ ให้ดูจากภพตนุ
-บุตรคนที่ ๖ ให้ดูจากภพสหัชชะ
-ถ้ามีบุตรมากกว่า ๖ คน ให้นับเริ่มต้นที่ภพปุตตะซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่าทำนายซ้ำกันในเรื่องของรูปร่าง ลักษณะท่าทาง รสนิยม อุปนิสัยใจคอ แนวความคิดและการกระทำ และให้ดูเลขของฐานบวกประกอบด้วยเสมอ
-การทำนายเพศของบุตร
๑.ถ้าเป็นเลขของดาวสุภะเคราะห์คือ ๒ ๔ ๕ ๖ ให้ทำนายเป็นเพศหญิง
๒.ถ้าเป็นเลขของดาวบาปเคราะห์คือ ๑ ๓ ๗ ๘ ให้ทำนายเป็นเพศชาย และให้ดูเลขของฐานบวกประกอบด้วย
๓.ถ้าเลขในภพปุตตะ ตรงกับเลขในภพปิตาหรือมีความสัมพันธ์ถึง แม้เลขในภพปุตตะจะเป็นเลขของดาวสุภะเคราะห์ก็ตาม ให้ทำนายเป็นเพศชายทั้งหมด
-ตัวอย่างเช่น:- น.ส.วรรณิภา แก้วไชยะ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๑ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย
เลขในพื้นดวงชะตาของน.ส.วรรณิภา แก้วไชยะ
2 3 4 5 6 7 1
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
16 5 8 11 14 17 13
-ในพื้นดวงชะตานี้ เลขในภพปุตตะเป็นเลข 4 บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเพศหญิง มีเลข 14 เป็นเลขของฐานบวก เลข 14
เป็นเลขของพระเจ้าจักรพรรดิซึ่งเป็นเลขของผู้ชาย ดูให้ลึกลงไปอีกให้เอาเลขฐานบวกของภพปัตตนิบวกกันคือให้เอาเลข 14 บวกกันก็จะได้เลข 5 และให้ดูเลข 5 ในพื้นดวงชะตาเป็เลขของภพปิตาซึ่ไปตรงกับภพอริและภพทาสา โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพุธเป็นเลขของฐานบวก บ่งบอกให้รู้ว่าจะได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชายอย่างแน่นอน
-ถ้าเลขในภพปุตตะ ไปตรงกับเลขของภพมาดา หรือมีความสัมพัธ์ถึง แม้เลขในภพปุตตะจะเป็นเลขของดาวบาปเคราะห์ก็ตามให้ทำนายเป็นเพศหญิง
-ตัวอย่างเช่น:- นายอัครนันท์ มิ่งสรวงเกื้อชัย เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๙ ตรงกับวันพุธกลางคืน
แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย
เลขในพื้นดวงชะตาของนายอัครนันท์ มิ่งสรวงเกื้อชัย
1 2 3 4 5 6 7
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
15 4 7 10 13 16 19
-ในพื้นดวงชะตานี้ เลขในภพปุตตะเป็นเลข 4 บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นผู้หญิงแต่เลขในภพปัตตนิมีความสัมพันธ์ถึงภพปิตาซึ่งเป็นผู้ชาย และเมื่อเอาเลขของฐารบวกในภพปัตตนิบวกกันคือเอาเลข 13 บวกกันก็จะได้เท่ากับ 4 ให้ดูเลข 4 ในพื้ดวงก็จะเป็นเลขของภพปิตา ให้ทำนายได้เต็มปากว่าลูกคนแรกของเจ้าชะตาเป็นผู้ชายอย่างแน่นอน
-การทำนายลักษณะของบุตร
-การทำนายลักษณะของบุตรว่าจะดีหรือไม่ดีให้ดูเลขในภพปุตตะเป็นสำคัญ ถ้ามันไปตรงกับภพดีก็จะได้บุตรดี แต่ถ้ามันไปตรงกับภพไม่ดีก็จะได้บุตรไม่ดี บุตรจะดีหรือไม่ดีให้ดูเลขในฐานบวกประกอบด้วยจึงจะทำนายได้ถูกต้องแม่นยำ
-การคลอดลูกจะยากหรือง่าย
-การคลอดลูกจะยากหรือง่ายให้ดูเลขในภพ อัตตะ ตนุ มรณะ ถ้าตั้งอยู่ในฐานบวกคู่ศัตรู และเลขในภพปุตตะ
ตั้งอยู่บนเลขฐานบวกคู่ศัตรู หรือมีความสัมพันธ์ถึงภพที่ร้ายก็จะให้ผลร้ายคือจะต้องมีการผ่าตัดออกอย่างแน่นอน
การทำนายเรื่องของบ้านเรือน,ยวดยานพาหนะ,และสถานที่ต่างๆ
-การทำนายเรื่องของบ้านเรือน, ยวดยานพาหนะ, และสถานที่ต่างๆที่มีความเก่ยวข้องกับเจ้ชะตาว่า
-เมื่อไหร่จะมีบ้านเรือนเป็นของตนเอง?
-เมื่อไหร่จะมีรถยนต์เป็นของตนเอง?
-เมื่อไหร่จึงจะตั้งโรงงานได้สำเร็จ?
-วิธีการพิจารณาให้ดูเลขในภพพันธุ ถ้าตั้งอยู่บนเลขของฐานบวกที่ดี และไม่ไปตรงกับภพที่ร้ายหรือมีความสัมพันธ์ถึง มีแล้วจะเจริญุ่งเรืองและถาวรดี แต่ถ้าเลขในภพพันธุตั่งอยู่บนฐานบวกที่ร้าย ตรงกับภพที่ร้ายหรือสัมพันธ์ถึง ถึงมีก็ไม่สามารถปกครองรักษาเอาไว้ได้คือไม่เจริญรุ่งเรืองในทรัพย์สมบัติ
อนึ่งการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของบ้านเรือนหรือยวดยานพานะก็เหมือนกัน เมื่อเลขจรบ่งบอกว่าดีหรือไม่ดีก็ให้
พิจรณาทำนายไปตามเกณฑ์ของเลขจรดีหรือร้ายตามที่เห็นนั้นเถิด
-ถาม:-อายุเท่าไหร่จึงจะมีรถยนต์?
-ตอบ:- วิธีการทำนายให้ปฏิบัติดังนี้
๑.ให้ดูเลขของอายุจร ถ้าเลขอายุจรไปตกเลขในภพที่ดี เลขของฐานบวกดี และสัมพันธ์ถึงภพที่ดีก็จะได้ในปีนั้น
๒.เลขอายุจรไปสิ้นสุดลงที่ภพใดก็ให้คิดเป็น พ.ศ.ปัจจุบัน และวันเดือนปีเกิดด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าจะได้รถยนต์ใน วัน
เดือน ปีอะไร
-ตัวอย่างเช่น:-
-น.ส.ชนิสา แก้วบุดดา เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๖ ตรงกับวัน ศุกร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุล ปัจจุบันอายุได้ ๓๒ ปี
เลขในพื้นดวงชะตา
6 7 1 2 3 4 5
2 3 4 5 6 7 1
5 6 7 1 2 3 4
13 16 12 8 11 14 10
-ถาม:-เจ้าชะตาจะมีบ้านเรือนเป็นของตนเองเมื่ออายุเท่าไร่?
-ตอบ:- เลขในภพพันธุคือเลข 5 ตรงกับภพที่ร้ายคือ ภพมรณะ แต่ตั้งอยู่บนเลขฐานบวกที่ดี เจ้าชะตาจะมีบ้านเรือนเป็นของตนเองอยู่ระหว่างอายุได้ 31 - 34 ปีอย่างแน่นอน
-ถาม:- เจ้าชะตาจะมีรถยนต์ขี่เมื่ออายุเท่าใด?
-ตอบ:- เจ้าชะตาจะมียนต์ขี่เมื่ออายุอยู่ระหว่าง 24 - 29 ปี
-ถาม:- เจ้าชะตาจะมีบริษัทเป็นของตนเองเมื่ออายุเท่าไหร่?
-ตอบ:- เจ้าชะตาจะมีบริษัทเป็นของตนเองเมื่ออายุอยู่ระหว่าง 32-34 ปี
การตรวจสอบชะตา
-การตรวจสอบชะตามีหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบดังนี้
-ถาม:- ถ้ามีคนมาให้พยากรณ์ แต่เขาไมรู้วัน เดือน ปีเกิด จะทำอย่างไร?
-ตอบ:- ถ้าคนมาให้พยากรณ์แต่ไม่รู้วันเดือนปีเกิดให้ทำดังนี้
๑.ให้เอาวันที่ เดือน และพ.ศ.ในวันที่เขามานั้น เช่น น.ส.ฤทัย ใจดี มาให้พยากรณ์ในวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๕๑ น. ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะแม ไม่รู้วันเดือนปีเกิด
เลขในพื้นดวงชะตาของน.ส.ฤทัย ใจดี
3 4 5 6 7 1 2
1 2 3 4 5 6 7
1 2 3 4 5 6 7
5 8 11 14 17 13 16
-เจ้าชะตามีคำถาม ๔ ข้อ คือ:-
๑.เจ้าชะตาถามว่า "จะได้แต่งงานหรือไม่?"
๒.เมื่อแต่งงานไปแล้วฐานะทางการเงินจะเป็นอย่างไร?
๓.ลูกจะพึ่งพาอาศัยได้หรือไม่?
๔.ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้จะไปรอดหรือไม่?
-เริ่มทำนาย:-
๑.จะได้แต่งงานอย่างแน่นอนกับผู้ชายที่มีอายุมากมีทรัพย์สมบัติมากเป็นคนเข้มแข็งในการประกอบอาชีพและเป็นคนรัก และซื่อสัตย์ต่อครอบครัวดีมาก
๒.ฐานะทางการเงินพอปานกลางทรัพย์สมบัติที่มีอยู่จะหมดสิ้นไปมากพราะลูกและญาติพี่น้อง
๓.ลูกจะพึ่งพาอาศัยได้น้อยมาก
๔.จะดำเนินไปได้ดีเพราะสามีเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการค้าขายดีมาก
๒.ให้พยากรณ์โดยวิธีของเลขศาสตร์ การพยากรณ์โดยวิธีของเลขศาสตร์นี้จะแสดงวิธีการพยากรณ์ให้ศึกษาในบทเรียนข้างหน้า
**ข้อควรสังเกต:-
-ผู้ที่จะเป็นแพทย์หรือพยาบาลหรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับแพทย์และพยาบาล เลขของวันเดือนปีเกิดมักจะตรงกับภพหินะ อริ มรณะ พยายะ หรือมีความสัมพันธ์ถึง
-ถ้าเลขในภพอัตตะไปตรงกับเลขในภพพันธุและมรณะ โดยมีเลข ๑๒ เป็นเลขฐานบวก จงทำนายไปได้เลยว่า "เจ้าชะตาเป็นคนต่างประเทศ"
การศึกษาภาคที่ ๓
-การศึกษาภาคที่ ๓ ว่าด้วยกลวิธีในการทำนายจรของวิชาเลข ๗ ตัว ซึ่งมีหลักการและวิธีการดังนี้
๑.วิธีการหาชะตาจร
๒.เกณฑ์ดีและเกณฑ์ร้ายของของชะตา
๓.เลขประจำจังหวัดและภูมิประเทศ
๔.การทำนายชั้นและตำแหน่ง
๕.การทำนายวิธีการโยกย้ายตำแหน่ง, หน้าที่การงาน, และบ้านเรือน
๖.การทำนายเรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยและอายุขัย
วิธีการหาชะตาจร
-การหาชะตาจรมีหลักเกณฑ์ในการทำนายดังนี้
๑.ต้องอ่านตัวเลขในพื้นชะตาให้ถูกต้อง
๒.ต้องหาอายุจร
-วิธีการหาอายุจร ให้ตั้งเลข พ.ศ.ในปัจจุบันลงไปแล้วเอาเลขของ พ.ศ. เกิดของเจ้าชะตามาลบออกเหลือเท่าไหร่
ให้นับเป็นอายุในปัจจุบัน แต่ต้องหักเดือนเกิดและวันเกิดออกไปด้วย ข้อนี้ควรระวังให้มากๆอาจจะผิดได้ง่ายๆ ถ้าปีเกิดของใครยังไม่ถึง วันที่ ๑๓ เมษายน จะป็นอายุเต็มไม่ได้ เช่น:-
-นายทองทิว ไผ่งาม เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๕ ตรงกับวัน อาทิตย์ ขึ้น ๓ เดือน ๒ ปีวอก
-เขามาขอให้ทำการพยากรณ์ให้เขา ในวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ตรงกับวัน พฤหัสบดี ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑
-เมื่อเอา พ.ศ.ปัจจุบันคือ พ.ศ.๒๕๕๘ ตั้งแล้วลบด้วย พ.ศ.เกิด คือ ๒๕๓๕ จะได้เท่ากับ ๒๓ เพราะฉะนั้นอายุของเขายังไม่ถึง ๒๓ ปี เหลืออีก ๒๘ วัน เขาจึงจะมีอายุเต็ม ๒๓ ปี เวลาจะหาอายุจร ถ้าเราเอาเลข ๒๓ ไปหาจะผิดทันที เมื่อหาอายุจรผิดเราก็จะทำนายไม่แม่นข้อนี้ควรจะจำเอาไว้ให้ดี แต่ถ้าเอาเลข ๒๒ ไปหาอายุจรมันจะถูกและแม่นยำทันที
-การหาอายุจรตามวัยทีละหลักดังนี้
-ตัวอย่างเช่น:-
-น.ส.วรรณิภา แก้วไชยะ เกิดวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๑ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย
-ให้เอา พ.ศ.๒๕๕๘ ตั้งแล้วเอา พ.ศ.๒๕๓๑ มาลบ 2558 - 2531 = 27 อายุปัจจุบัน 27 ปี มาให้พยากรณ์เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ อายุเริ่ม 27 ปี มาได้ 5 เดือน กับ 23 วันแล้ว
เลขในพื้นดวงชะตา
2 3 4 5 6 7 1
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
16 5 8 11 14 17 13
-เริ่มหาอายุจร:-
-วัยที่หนึ่ง เริ่มที่เลข 2 ในภพอัตตะ
-อายุ 1 - 2 ปี อยู่ในวัยจันทร์
-อายุ 3 - 9 ปี อยู่ในวัยเสาร์
-อายุ 10 - 16 ปี อยู่ในวัยเสาร์
-วัยที่สอง เริ่มที่เลข 3 ในภพหินะ
-อายุ 17 - 19 ปี อยู่ในวัยอังคาร
-อายุ 20 ปี อยู่ในวัยอาทิตย์
-อายุ 21 ปี อยู่ในวัยอาทิตย์
-วัยที่สาม เริ่มที่เลข 4 ในภพธนัง
-อายุ 22 - 25 ปี อยู่ในวัยพุธ
-อายุ 26 - 27 ปี อยู่ในวัยจันทร์
-อายุ 28 - 29 ปี อยู่ในวัยจันทร์
-วัยที่สี่ เริ่มที่เลข 5 ในภพปิตา
-อายุ 30 - 35 ปี อยู่ในวัยพฤหัสบดี
-อายุ 36 - 38 ปี อยู่ในวัยอังคาร
-อายุ 39 - 42 ปี อยู่ในวัยอังคาร
-วัยที่ห้า เริ่มที่เลข 6 ในภพมาตา
-อายุ 43 - 48 ปี อยู่ในศุกร์
-อายุ 49 - 52 ปี อยู่ในวัยพุธ
-อายุ 53 - 56 ปี อยู่ในวัยพุธ
-วัยที่หก เริ่มที่เลข 7 ในภพโภคา
-อายุ 57 - 63 ปี อยู่ในวัยเสาร์
-อายุ 64 - 68 ปี อยู่ในวัยพฤหัสบดี
-อายุ 69 - 73 ปี อยู่ในวัยพฤหัสบดี
-วัยที่เจ็ด เริ่มที่เลข 1 ในภพมัชฌิมา
-อายุ 74 ปี อยู่ในวัยอาทิตย์
-อายุ 75 - 80 ปี อยู่ในวัยศุกร์
-อายุ 81 - 86 ปี อยู่ในวัยศุกร์ ถ้าจะนับอายุให้ถึง 100 ปี ให้เริ่มต้นที่เลข 2 วัยจันทร์ใหม่อีก
-วัยที่แปด เริ่มที่เลข 2 ในภพอัตตะ
-อายุ 87 - 88 ปี อยู่ในวัยจันทร์
-อายุ 89 - 95 ปี อยู่ในวัยเสาร์
-อายุ 96 - 102 ปี อยู่ในวัยเสาร์
-เจ้าชะตามาขอให้ทำนาย วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2558 เวลา 15.44 น. ตรงกับวันพุธ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 1
ปีมะแม
-เจ้าชะตามีคำถามอยู่ 3 ข้อ คือ:-
๑.สามีเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเขาจะมีเงินกลับมาหรือไม่?
๒.ได้เอาเงินไปลงทุนกับเพื่อนจะถูกเขาโกงหรือไม่?
๓.ไปสอบเข้าทำงานจะสอบเข้าได้หรือไม่?
-ตอบคำถามของเจ้าชะตา
-วิธีหาอายุจร เจ้าชะตามีอายุได้ 27 ปี อายุจรไปตกลงที่เลข 2 ในภพสหัชชะซึ่งไปตรงกับอัตตะและภพกัมมะ โดยมีเลข 8 เลขกำลังของดาวพระอังคาร เป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข 2 ที่เป็นเลขอายุจร
-วิธีหาวันจร ให้ดูว่าวันที่เขามาให้ทำนายนั้นเป็นวันพุธคือเลข 4 ไปตกอยู่ที่ภพไหนในแถวของวันเกิด ในข้อนี้เลข 4 ไปตกอยู่ในภพธนัง ซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพพยายะ โดยมีเลข 14 เลขกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก
-วิธีหาเดิอนจร ให้ดูว่าเดือนที่เขามาให้พยากรณ์เป็นเดือนอะไรก็ให้ดูในแถวของเดือนว่า หมายเลขของเดือนไปตกอยู่ภพไหน ในข้อนี้เขามาให้พยากรณ์ในเดือน 1 เลขของเดือนไปอยู่ที่ภพกฎุมพะ ซึ่งไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพสุภะ โดยมีเลข 5 เลขของดาวพฤหัสบดีเล็กเป็นฐานบวก
-วิธีหาปีจร ให้ดูหมายเลขของเดือนที่เขามาให้ดูนั้นในแถวของปีเกิดว่ามันไปอยู่ที่ภพไหน ข้อนี้หมายเลขของปีเกิดคือ เลข 7 ไปอยู่ที่ภพมรณะ ซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพโภคา โดยมีเลข 16 เลขกำลังเศรษฐีเป็นฐานบวก
-ตอบคำถามข้อที่ 1:- ได้เงินมาน้อยเพราะไปเสียในการเล่นการพนันมาก
-ตอบคำถามข้อที่ 2:- จะถูกเขาโกงอย่างแน่นอน
-ตอบคำถามข้อที่ 3:- จะสอบเข้าไม่ได้
**หมายเหตุ:-
-เมื่อมีใครมาให้เราทำการพยากรณ์ จงทำนายไปโดยไม่ต้องถามเขาว่าเขามีความประสงค์จะให้ทำนายเรื่องอะไร
ตอนแรกถ้าเราพิจารณาไม่รอบคอบอาจจะทำนายผิดพลาดไปบ้าง แต่ถ้าเข้าใจและรอบคอบดีแล้วจะทำนายไม่ผิดเลย
ให้ถือเอาจุดทำนายจรนี้เป็นเกณฑ์ในการทำนายจรอื่นๆ ถ้าเขาบอกว่าไม่แม่นก็จะเกิดจากสาเหตุ ๒ ประการนี้คือ:-
๑.เขาบอกวันเดือนปีเกิดผิด
๒.เขาจะลองภูมิเรา
-การทำนายดีหรือร้าย ให้คุณหรือให้โทษ ให้ยึดเอาเลขของฐานบวกของตัวเลขนั้นๆเป็นจุดในการทำนาย และให้ตามทำนายไปถึงความสัมพันธ์ของภพที่สัมพันธ์ถึงกันด้วยจึงจะเต็มเปรียมไม่มีจุดบกพร่อง
ข้อเตือนใจจากชะตาจร
-ชตาทุกชะตาจะต้องมีทั้งชะตาดีและชะตาร้าย
-ชะตาดีมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
๑.เลขของภพอัตตะหรือตนุ จะต้องตรงกับภพที่ดี คือ ธนัง โภคา กฎุมพะ สุภะ ลาภะ หรือมีความสัมพันธ์ถึง
๒.เลขตัวใดมาตรงกับภพ ธนัง โภคา กฎุมพะ สุภะ ลาภะ ย่อมให้ผลดีเช่นเดียวกัน เว้นไว้แต่เลขในฐานบวกของภพเหล่านี้เป็นเลขในเกณฑ์ร้าย หรือเลขในภพอีก 2 ภพ ไปตรงกับภพที่ร้ายก็จะต้องตัดทอนความดีลงไปบ้าง
๓.เมื่อเลขของอายุจร เลขของวันจร เลขของเดือนจร เลขของปีจร ไปตรงกับภพทีดีทั้งหลายเหล่านี้ และเป็นเลขคู่มิตร เลขคู่ธาตุ เลขคู่สมพล เลขคู่สมพงษ์ เลขคู่อุปถัมภ์ เลขคู่โชคอนันต์ เลขคู่เกียรติยศชื่อเสียง เลขกำลังวัน และเลขกำลังพืเศษ ย่อมจะทำให้เกิดผลดีทั้งนั้น
-ส่วนชะตาร้ายมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
๑.เลขในภพอัตตะหรือตนุ ไปตรงกับเลขในภพที่ร้าย คือ หินะ อริ มรณะ พยายะ และตั้งอยู่ในเลขฐานบวกที่ร้าย
๒.เลขใดมาตรงกับภพหินะ ภพอริ ภพมรณะ ภพพยายะ หรือมีความสัมพันธ์ถึง ย่อมให้ผลร้ายดุจเดียวกัน เว้นไว้แต่เลขในฐานบวกของภพเหล่านี้เป็นเลขที่อยู่ในเกณฑ์ดีหรือเลขในอีก ๒ ภพไปตรงกับภพที่ดีก็จะทำให้ความเลวร้ายน้อยลงไปอีก เวลาทำนายก็ให้ตัดทอนความเลวร้ายลงไปอีกหน่อย
๓.เมื่ออายุจร วันจร เดือนจร ปีจร ไปตรงกับภพที่ร้ายเหล่านี้ และเป็นเลขคู่ศัตรู เลขคู่อัตคัดขัดสน เลขคู่วิวาท เลขคู่ขัดแย้ง ย่อมจะทำให้เกิดผลร้ายทั้งนั้น
เลขประจำจังหวัดและภูมิประเทศ
-จังหวัดที่ใช้เลข ๑ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๓ จังหวัด คือ:-
๑.อยุธยา
๒.อ่างทอง
๓.อุทัยธานี
-ภาคเหนือมี ๑ จังหวัด คือ:- จังหวัดอุตรดิตถ์
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี ๓ จังวัด คือ:-
๑.อุดรธานี
๒.อุบลราชธานี
๓.อำนาจเจริญ
-ภาคใต้ ไม่มี
-จังหวัดที่ใช้เลข ๒ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.กรุงเทพมหานคร
๒.กาญจนบุรี
-ภาคเหนือมี ๑ จังหวัด คือ:- จังหวัดกำแพงเพขร
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.กาฬสินธุ์
๒.ขอนแก่น
-ภาคใต้มี ๑ จังหวัด คือ:- จังหวัดกระบี่
-จังหวัดที่ใช้เลข ๓ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๔ จังหวัด คือ:-
๑.จันทบุรื
๒.ฉะเชิงเทรา
๓.ชลบุรี
๔.ชัยนาท
-ภาคเหนือมี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.เชียงใหม่
๒.เชียงราย
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี ๑ จังหวัด คือ:- จังหวัดชัยภูมิ
-ภาคใต้มี ๑ จังหวัด คือ:- จังหวัดชุมพร
-จังหวัดที่ใช้เลข ๔ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางไม่มี
-ภาคเหนือไม่มี
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มี
-ภาคใต้ไม่มี
-ถ้าจะดูเลขของ หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ให้เอาอักษรตัวหน้าของหมู่ บ้าน ตำบล อำภอ ไปเทียบอักษรเป็นตัวเลข
การเทียบอักษรเป็นตัวเลข
-ก ถ ภ = เลข ๑
-ข ช ซ = เลข ๒
-ค ศ = เลข ๓
-ฆ ม = เลข ๔
-ง = เลข ๕
-จ ฉ ล ส = เลข ๖
-ฌ ฒ = เลข ๗
-ญ = เลข ๘
-ฎ ฏ = ๙
-ฐ ธ ร = ๑
-ฑ ท = ๒
-ณ น = ๓
-ด ต = ๔
-บ ป ษ = ๕
-ผ ฝ ย = ๖
-พ ฟ ฬ = ๗
-ห = ๘
-ว อ ฮ = ๙
ตัวอย่างเช่น:- บ้านหนองบอน ต.นาโป่ง อ.เมือง
-หนองบอน ห = เลข ๘
-นาโป่ง น = เลข ๓
-เมือง ม = เลข ๔
-จังหวัดที่ใช้เลข ๕ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๓ จังหวัด คือ:-
๑.ประทุมธานี
๒.ปราจีนบุรี
๓.เพชรบุรี
-ภาคเหนือมี ๖ จังหวัด คือ:-
๑.พิษณุโลก
๒.พิจิตร
๓.เพชรบูรณ์
๔.แพร่
๕.พะเยา
๖.แม่ฮองสอน
-ภาคอิสานมี ๓ จังหวัด คือ:-
๑.บุรีรัมย์
๒.มหาสารคาม
๓.มุกดาหาร
-ภาคใต้มี ๕ จังหวัด คือ:-
๑.พังงา
๒.พัทลุง
๓.ประจวบคีรีขันธ์
๔.ปัตตานี
๕.ภูเก็ต
-จังหวัดที่ใช้เลข ๖ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๗ จังหวัด คือ:-
๑.สิงห์บุรี
๒.สระบุรี
๓.สมุทรปราการ
๔.สมุทรสงคราม
๕.สมุทรสาคร
๖.สระแก้ว
๗.สุพรรณบุรี
-ภาคเหนือมี ๑ จังหวัด คือ:- สุโขทัย
-ภาคอีสานมี ๕ จังหวัด คือ:-
๑.สกลนคร
๒.ศรีสะเกษ
๓.สุรินทร์
๔.หนองคาย
๕.หนองบัวลำพู
-ภาคใต้มี ๓ จังหวัด คือ:-
๑.สุราษฎร์ธานี
๒.สงขลา
๓.สตูล
-จังหวัดที่ใช้เลข ๗ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๕ จังหวัด คือ:-
๑.นนทบุรี
๒.นครปฐม
๓.นครนายก
๔.ตลาด
๕.นครสวรรค์
-ภาคเหนือมี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.ตาก
๒.น่าน
-ภาคอีสานมี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.นครพนม
๒.นครราชสีมา
-ภาคใต้มี ๓ จังหวัด คือ:-
๑.นครศรีธรรมราช
๒.ตรัง
๓,นราธิวาส
-จังหวัดที่ใช้เลข ๘ เป็นสัญญาลักษณ์
-ภาคกลางมี ๓ จังหวัด คือ:-
๑.ลพบุรี
๒.ราชบุรี
๓.ระยอง
-ภาคเหนือมี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.ลำปาง
๒.ลำพูน
-ภาคอีสาน ๓ จังหวัด คือ:-
๑.เลย
๒.ร้อยเอ็ด
๓.ยะโสธร
-ภาคใต้มี ๒ จังหวัด คือ:-
๑.ยะลา
๒.ระนอง
**หมายเหตุ:-
-เลข ๘ ใช้เลขฐานบวก ๑๒ แทน
-เลข ๙ ใช้เลขฐานบวก ๙ แทน
-เลข ๑๐ ใช้เลขฐานบวก ๑๐ แทน
การทำนายชั้นและยศตำแหน่ง
-การทำนายยศตำแหน่งมีหลักการในการทำนายดังนี้
๑.จงพิจารณาพื้นดวงชะตาว่าเป็นพื้นดวงชะตาระดับไหน
๒.อาชีพที่เจ้าชะตากระทำอยู่ในปัจจุบันถูกต้องกับแนวความคิดของเจ้าชะตาหรือไม่
๓.ยศตำแหน่งของเจ้าชะตาบ่งบอกไว้สูงแค่ไหน
๔.มีเกณฑ์ที่จะออกจากราชการก่อนการเกษียณอายุหรือไม่
**หมายเหตุ:-
-ในเวลาทำการทำนายนั้นให้ดูว่า อายุจร และปีจร อยู่ในเกณฑ์ดีหรือร้าย มีอะไรที่ตรงกันหรือสัมพันธ์ถึงกันหรือไม่ ถ้าหากพื้นชะตาดี จรดี ย่อมให้ผลในทางดี ถ้าหากพื้นชะตาร้าย จรร้าย ย่อมให้ผลในทางร้าย ส่วนดีบ้างร้ายบ้างนั้นโปรดพิจารณาดูให้รอบคอบจงพยยามให้อยู่ในหลักเกณฑ์มากที่สุด
-ตัวอย่างเช่น:-
-นายนรเศรษฐ์ อรรถวิภาควาที เกิดเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๑ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีชวด เจ้าชะตามีอาชีพราชการ เจ้าชะตาถามว่า "ในชีวิตราชการจะได้ยศตำแหน่งสูงขนาดไหน?"
เลขในพื้นดวงชะตา
3 4 5 6 7 1 2
7 1 2 3 4 5 6
1 2 3 4 5 6 7
11 7 10 13 16 12 15
-วิธีการทำนาย:-
๑.ให้ดูตัวเลขในภพอัตตะและตัวเลขในภพตนุ เพื่อจได้รู้ว่าเจ้าชะตามีพื้นชะตาระดับไหน
-ในพื้นชะตานี้เลขในภพอัตตะคือเลข 3 ซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพสุภะ โดยมีเลข 7 เลขของเสาร์เล็กเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กที่มีความหมาย "ในทางพลัดพรากจากกันและความผิดหวัง"
-ในพื้นดวงชะตาเลขในภพตนุคือเลข 7 ซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพทาสี โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์เป็นฐานบวก เลข 2 คือเลขของดาวพระจันทร์เป็นเลขคู่ศัตรูเล็กกับเลข 7 คือเลขของดาวพระเสาร์ ด้วยวิธีการดูระดับของพื้นดวงชะตาเราก็รู้ได้ว่า "เจ้าชะตามีพื้นดวงชะตาอยู่ในระดับต่ำ"
๒.เจ้าชะตามีอาชีพราชการ เมื่อดูระดับของพื้นดวงชะตาแล้วแสดงให้เห็นว่าเจ้าชะตามีอาชีพที่ไม่เหมาะสมกับดวงชะตาชีวิตของตนเอง เจ้าชะตาถ้ามีอาชีพเป็นกรรมกรจึงจะถูกโฉลกกับชะตาชีวิตของตนเอง เมื่อเจ้าชะตามามีอาชีพราชการ ชะตาชีวิตจะเดือดร้อนจะทุกข์ยากลำบากมาก จะเจอกับอุปสรรคที่ใหญ่ๆจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด จะมีตำแหน่งในขั้นสูงรู้สึกจะยากเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา จะเจอศัตรูและอุปสรรคทุกรูปแบบจนแทบจะฆ่าตัวตาย
๓.ยศตำแหน่งของเจ้าชะตาบ่งบอกไว้ต่ำ
๔.เจ้าชะตามีเกณฑ์บ่งบอกเอาไว้ว่าจะต้องได้ออกจากราชการก่อนการเกษียณอายุอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นอาชีพราชการของเจ้าชะตาจะไม่ยังยืนตำแหน่งจะไม่สูง
**หมายเหตุ:-
-เลขของวันเกิด และเลขของปีเกิด จะบ่งบอกให้รู้ถึงชั้นพิเศษ
-เลขฐานของปีเกิด จะบ่งบอกให้รู้ถึงชั้นเอก
-เจ้าชะตาจะมียศตำแหน่งสูงสุดในตำแหน่งหน้าที่การงาน มีเกียรติยศชื่อเสียงดี ถ้าเป็นฆารวาสจะได้เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถ้าเป็นสมณะจะได้เป็นเจ้าอาวาสและพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ จะมีความรู้ในพุทธธรรมได้อย่างลึกซึ่ง
การทำนายเรื่องการเดินทาง
-การทำนายเรื่องของการเดินทางไม่ว่าจะเดินทางไปทำธุรกิจอะไรก็ตามเช่น การเดินทางไปท่องเทียว การเดินทางเพื่อติดตาม การเดินทางไปเพื่อการแข่งขัน ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาดูว่า "ในขณะนั้น เลขของอายุจร เลขของวันจร
เลขของเดือนจร และเลขของปีจร ไปตกในภพสหัชชะ ภพมรณะ และภพสุภะ หรือสัมพันธ์ถึงภพเหล่านี้หรือไม่ หากในวันนั้นไม่มีจงพิจารณาดูว่า "ในวันข้างหน้า เดือนข้างหน้า ปีข้างหน้าจะมีหรือไม่ ถ้าไม่มีจงอย่าคล้อยตามจงตรวจดูให้แน่ใจว่า "เลขพื้นชะตาถูกต้องหรือไม่ เลขวันเดือนปีเกิดถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีเกณฑ์ได้เดินทางให้พิจารณาดูว่า "ขณะนั้นเจ้าชะตาอยู่ในเกณฑ์ดีหรือเกณฑ์ร้าย" ถ้าอยู่ในเกณฑ์ดีการเดินทางก็จะราบรื่นดีสะดวกและปลอดภัย ถ้าอญุ่ในเกณฑ์ร้าย การเดินทางก็จะไม่ราบรื่น จะเกิดอันตรายต้องพิจารณาดูเลขในพื้นชะตาให้รอบคอบ แม้พื้นชะตาเดิมดี จรดีก็ยิ่งดีเด่นชัดยิ่งขึ้น พื้นชะตาดีแต่จรเสียกับพื้นชะตาเสียแต่จรดี ก็ดีพอปานกลางเดินทางได้แต่ต้องระมัดระวังให้ดีอย่าประมาท แต่ถ้าพื้นชะตาเสียและจรเสียไม่ดีเลยห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด
-เจ้าชะตามีคำถาม ๔ ข้อ คือ:-
๑.จะมีเกณฑ์ได้เดินทางไปนอกหรือไม่?
๒.จะได้ไปเมื่อไหร่?
๓.จะได้ไปประเทศไหน?
๔.จะได้ไปนานเท่าใด?
-ตัวอย่างเช่น:-
-นายโจม ครองสิน เกิดเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๐ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีกุน
-มาขอให้พยากรณ์ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๙.๒๔ น. ตรงกับวันจันทร์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะแม
เลขในพื้นดวงชะตา
4 5 6 7 1 2 3
3 4 5 6 7 1 2
5 6 7 1 2 3 4
12 15 18 14 10 6 11
-วิธีการพยากรณ์ ให้หาเลขของอายุจร วันจร เดือนจร ปีจร ก่อนเป็นอันดับแรก
-ในปี พ.ศ.2558 เจ้าชะตามีอายุได้ 2558 - 2500 เหลือเท่ากับ 58 ปี
-ให้เอาอายุจริงคืออายุที่คิดได้ในวันที่มาขอให้พยากรณ์ได้แก่เลข 58 ไปไล่หาอายุจร วันจร เดือนจร ปีจร
-เลขของอายุจรคือเลข 1 ที่อยู่ในภพลาภะ ซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพและภพอริ โดยมีเลข 14 เลขกำลังพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก
-เลขของวันจรคือเลข 2 ไปอยู่ในภพโภคา ซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพพยายะ โดยมีเลข 10 เลขกำลังของดาวพระเสาร์เป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ให้โทษในทางพลัดพรากจากกันและความผิดหวัง
-เลขของเดือนจรคือเลข 3 ที่ไปอยู่ในภพตนุ ซึ่งไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพทาสา โดยมีเลข 6 เลขกำลังดาวพระอาทิตย์เป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข 3 ให้โทษในทางแก่งแย่งหักล้างกันและกัน
-เลขของปีจรคือเลข 5 ที่อยู่ในภพมรณะซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพหินะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังพระราหูเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็ก ให้โทษในทางการสูญเสีย
-ตอบคำถาม:-
๑.เลขของอายุจรบอกว่า "มีเกณฑ์จะได้ไป" แต่ไม่สามารถไปได้เพราะผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงได้ขัดขวางเอาไว้
๒.เลขของวันจรบอกว่าผิดหวังจะไม่ได้ไป
๓.เลขของเดือนจรบ่งบอกว่าจะเกิดทะเลาะวิวาทแก่งแย้งกันกับคนที่ทำงานร่วมกันจนเป็นเหตุให้ถูกยกเลิก
๔.เลขของปีจรบ่งบอกว่าจะสูญเสียโอกาสที่จะได้ไป
การทำนายเรื่องการโยกย้าย
-การทำนายเรื่องการโยกย้ายใช้หลักการทำนายแบบเดียวกันกับการเดินทางแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ:-
๑.การโยกย้ายบ้านเรือน
๒.การโยกย้ายสถานที่
๓.การโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงาน
การโยกย้ายบ้านเรือน
-ตัวอย่างการโยกย้ายบ้านเรือน นายวาที ใจแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๐ ตรงกับวันอังคาร แรม ๕
ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลู
-มาให้พยากรณ์ในวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๔ น. ตรงกับวันจันทร์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะแม
-มีคำถามว่า
๑.ในเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ จะย้ายบ้านไปอยู่จังหวัดนนทบุรีจะได้ย้ายหรือไม่?
๒.ย้ายไปแล้วจะดีหรือไม่?
เลขในพื้นดวงชะตา
3 4 5 6 7 1 2
5 6 7 1 2 3 4
2 3 4 5 6 7 1
10 13 16 12 15 11 7
-วิธีพยากรณ์:-
1.ให้หาเลขของอายุจร โดยการเอาพ.ศ.ปัจจุบันคือ 2558 ตั้งแล้วเอาพ.ศ.เกิดคือ 2530 มาลบ 2558 - 2530
จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 28 ในขณะมาให้พยากรณ์เจ้าชะตามีอายุได้ 28 ปี เต็ม แล้วให้เอาเลข 28 ไปไล่หาอายุจรโดยเริ่มต้นที่ภพอัตตะ เมื่อไล่ตามลำดับไปแล้วเลขของอายุจรคือเลข 5 ไปตกลงที่ภพธนัง ซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพลาภะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของพระราหูเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กในการสูญเสีย
2.เลขของวันจรคือเลข 2 ไปตกที่ภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพมรณะ โดยมีเลข 10 เลขกำลังของดาวพระเสาร์
เป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กกับเลข 2 ที่ให้โทษในทางพลัดพรากจากกันและความผิดหวัง
3.เลขของเดือนจรคือเลข 1 ไปตกที่ภพพันธุซึ่งไปตรงกับภพโภคาและภพทาสี โดยมีเลข 7 เลขของเสาร์เล็กเป็นฐานบวก
ซึ่งเป็นเลขคู่ธาตุกับเลข 1 ให้คุณในทางอำนาจ
4.เลขของปีจรคือเลข 7 ไปตกที่ภพทาสาซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพสหัชชะ โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก
-ตอบคำถาม:-
1.จะได้ย้ายอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะได้ย้ายจะต้องมีการสูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานไป
2.ย้ายไปแล้วจะทำมาหากินคล่องกว่าเดิม
ทำนายการโยกย้ายสถานที่
-การโยกย้ายสถานที่ใช้หลักในการพยากรณ์เหมือนการโยกย้ายบ้านเรือน เช่น:-
-นางอรุณรัตน์ ดวงแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๓ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๘
ปีจอ ทำงานอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด แผนกประชาสัมพันธ์ มีความประสงค์อยากจะย้ายไปอยู่แผนกที่ดินในปี ๒๕๕๙ -เจ้าชะตามีคำถามอยู่ ๒ ข้อ คือ:-
๑.ในปี พ.ศ.๒๕๕๙ จะได้ย้ายงานไปอยู่แผนกที่ดินหรือไม่?
๒.ถ้าได้ย้ายจะได้ย้ายในเดือนอะไร วันที่เท่าไหร่?
-เจ้าชะตามาขอให้พยากรณ์ ในวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ในเวลา ๑๒.๒๕ น. ตรงกับวันอังคาร แรม ๔
เดือน ๑ ปีมะแม
เลขในพื้นดวงชะตา
4 5 6 7 1 2 3
1 2 3 4 5 6 7
4 5 6 7 1 2 3
9 12 15 18 7 10 13
-วิธีการทำนาย:-
1.หาเลขอายุจร
-ให้เอาพ.ศ.ปัจจุบันคือ 2558 ตั้งแล้วลบด้วยพ.ศ.เกิดคือ 2513 2558 - 2513 ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 45 เป็นอันทราบได้ว่าในขณะที่มาขอคำทำนายเจ้าชะตามีอายุได้ 45 ปีเต็ม ให้เอาเลข 45 ไปไล่ในเลขพื้นดวงชะตา เริ่มตั้งแต่ ภพอัตตะเป็นต้นไปตามลำดับ อายุ 45 ปี เลขของอายุจรไปตกลงที่เลข 4 ในภพพันธุ ซึ่งไปตรงกับภพอัตตะและภพมรณะ โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก
2.หาเลขของวันจร เลขของวันจรคือเลข 3 ไปตกลงที่ภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพทาสี โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจเป็นฐานบวก
**คำเตือน:- อธิบายการหาเลขวันจรคือให้เอาวันที่เขามาขอให้พยากรณ์เป็นตัวหา ให้หาดูว่าเลขของวันที่เขามาขอคำพยากรณ์นั้นมันไปตกอยู่ที่ภพไหน เช่นตัวอย่างข้างบนนี้เขามาขอให้พยากรณ์ในวันอังคาร เพราะฉะนั้นจึงได้เอาวันอังคารไปหาเลขของวันจร เลขของเดีอนจรและเลขของปีจรก็หาแบบเดียวกันโปรดจำเอาไว้ให้ดี
3.หาเลขของเดือนจร เลขของเดือนจรคือเลข 1 ไปตกอยู่ในภพตนุซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพพยายะ โดยมีเลข 7 เลขของเสาร์เล็กเป็นฐานบวก เลข 7 เป็นเลขคู่ธาตุกับเลข 1 ให้คุณในทางอำนาจ
4.หาเลขของปีจร เลขของปีจรคือเลข 7 ไปตกอยู่ในภพลาภะซึ่งไปตรงกับภพปิตาและภพปัตตนิ โดยมีเลข 18
เลขของพระเจ้ามหาจักรพรรดิเป็นฐานบวก
-ตอบคำถามข้อที่ 1 :- ได้ย้ายไปอย่างแน่นอน 100 %
-ตอบคำถามข้อที่ 2:- จะได้ย้ายไปใน เดือน 4 วันที่ 3
ทำนายการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงาน
การทำนายเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงานใช้หลักการเดียวกันกับการโยกย้ายสถานที่ เช่น:-
-นายอัมพร บุรเชฏฐ์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๒๗ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๘ เดือน ๑๐ ปีชวด
ทำงานอยู่ที่กรมการข้าวกระทรวงเกษตร
-เจ้าชะตามีคำถามดังนี้
๑.ในปี ๒๕๕๙ จะได้ย้ายงานหรือไม่?
๒.ถ้าย้ายจะย้ายไปอยู่ที่ไหนจึงจะดี?
๓.จะได้ย้ายเมื่อไหร่?
-เจ้าชะตามาขอให้พยากรณ์เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๘.๒๗ น. ตรงกับวันพุธ แรม ๕ ค่ำ
เดือน ๑ ปีมะแม
เลขในพื้นดวงชะตา
2 3 4 5 6 7 1
3 4 5 6 7 1 2
1 2 3 4 5 6 7
6 9 12 15 18 14 10
-วิธีการพยากรณ์:-
1.หาเลขของอายุจร ให้เอาพ.ศ.2558 ตั้งแล้วลบด้วยพ.ศ.ปัจจุบันคือ 2527 2558 - 2527 = 31 เจ้าชะตาในปัจจุบันมีอายุ 31 ปี เลขของอายุจรคือเลข 3 ไปอยู่ในภพกัมมะซึ่งไปตรงกับภพหินะและภพตนุ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของพระราหูเป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่ธาตุกับเลข 3 ให้คุณในทางเจ้านักเลง
2.เลขของวันจรคือเลข 4 อยู่ในภพธนังซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพลาภะ โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์เป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่มิตรกับเลข 5 ให้คุณในทางความมานะพยายาม
3.เลขของเดือนจรคือเลข 1 อยู่ในภพอริซึ่งไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพมรณะ โดยมีเลข 6 เลขกำลังดาวพระอาทิตย์เป็นฐานบวก
4.เลขของปีจรคือเลข 7 อยู่ในภพทาสีซึ่งไปตรงกับภพปุตตะและภพโภคา โดยมีเลข 10 เลขกำลังของดาวพระเสาร์เป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขกำลังของตนเอง
-ตอบคำถามของเจ้าชะตา
1.เจ้าชะตามีเกณฑ์จะได้ย้าย
2.ย้ายไปอยู่ที่กรมชลประทานจึงจะดีจะมีทรัพย์สินเงินทองมาก
3.จะได้ย้ายในวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2559
การทำนายความเจ็บไข้ได้ป่วย
-การทำนายเรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยมีหลักในการพยากรณ์ดังนี้
๑.ให้ดูจากเลขของอายุจร ถ้าเลขของอายุจรไม่ตรงกับภพเหล่านี้คือ หินะ อริ มรณะ พยายะ หรือไปตกลงที่ภพที่เป็นเลขเดียวกับภพเหล่านี้ หรือสัมพันธ์ถึงกับภพเหล่านี้ และไม่เป็นเลขคู่ศัตรู เลขคู่อัตคัดขัดสน เลขคู่วิวาท
เลขคู่ขัดแย้ง จะมีผลดี ๒๕ %
๒.เลขของวันเกิดไม่ตรงกับภพหินะ อริ มรณะ พยายะ หรือสัมพันธ์ถึง และจะต้องไม่เป็นเลขคู่ศัตรู เลขคู่อัตคัดขัดสน เลขคู่วิวาท เลขคู่ขัดแย้ง และไม่สัมพันธ์ถึงภพถึงภพเหล่านี้ จะมีผลดี ๒๕ %
๓.เลขของเดือนเกิด ไม่ตรงกับภพหินะ อริ มรณะ พยายะ และไม่สัมพันธ์ถึงภพเหล่านี้ และไม่เป็นเลขคู่ศัตรู
เลขคู่อัตคัดขัดสน เลขคู่วิวาท เลขคู่วิวาท เลขคู่ขัดแย้ง และไม่สัมพันธ์ถึงเลขคู่เหล่านี้ จะมีผลดี ๒๕ %
๔.เลขของปีเกิดไม่ตรงกับภพเหล่านี้คือ หินะ อริ มรณะ พยายะ และไม่สัมพันธ์ถึงกับภพเหล่านี้ จะต้องไม่เป็นเลขคู่ศัตรู เลขคู่อัตคัดขัดสน เลขคู่วิวาท เลขคู่ขัดแย้ง และไม่สัมพันธ์ถึงภพเหล่านี้ จะมีผลดี ๒๕ %
-ตัวอย่างเช่น:- คนป่วยคือ นายอรุณเวช เก่งดี เกิดเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๐ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีกุน
-มีญาติมาให้พยากรณ์เกี่ยวกับเขาในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๓๒ น. ตรงกับวันพุธ แรม ๕ ค่ำ
เดือน ๑ ปีมะแม
-ถาม:-
๑.เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เขาจะหายจากโรคร้ายนี้หรือไม่?
๒.จะรักษาโดยวิธีไหนเขาจึงจะหายจากโรคนี้?
๓.เขาจะมีอายุได้ประมาณกี่ปี?
เลขในพื้นดวงชะตา
7 1 2 3 4 5 6
1 2 3 4 5 6 7
7 1 2 3 4 5 6
15 4 7 10 13 16 19
-วิธีการทำนาย:-
๑.หาเลขอายุจร ให้เอา พ.ศ. ปัจจุบันตั้งแล้วเอา พ.ศ. เกิดมาลบออกคือ 2558 - 2490 = 68 เลขอายุปัจจุบันคือเลข 68 แล้วนำเอาไปไล่หาเลขของอายุจรในพื้นดวงชะตา เลขของอายุจรคือเลข 5 อยู่ในภพทาสา ซึ่งไปตรงกับภพโภคาและภพปุตตะ โดยมีเลข 16 เลขกำลังเศรษฐีเป็นฐานบวก
๒.เลขของวันจรคือเลข 4 อยู่ในภพมาตาซึ่งไปตรงกับพันธุและภพพยายะ โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจเป็นฐานบวก
3.เลขของเดือนจรคือเลข 1 อยู่ในภพตนุซึ่งไปตรงกับภพหินะและภพสุภะ โดยมีเลข 4 เลขของพุธเล็กเป็นฐานบวก
4.เลขของปีจรคือเลข 7 อยู่ในภพมรณะซึ่งไปตรงกับภพปัตตนิและภพอัตตะ โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์เป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กกับเลข 7 ให้โทษในทางพลัดพรากจากกันและความผิดหวัง
-ตอบคำถาม:-
1.ใน 125 % เขามีโอกาสหายจากโรคนี้เพียง 25 % โอกาสจะหายจากโรคนี้ยากมาก ตอบง่ายๆคือไม่หาย
2.เลขที่ดีที่สุดในพื้นดวงชะตาคือเลข 5 เป็นเลขที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ต้องสวดมนต์ไหว้พระ สวดคาถารักษาโรค
สวดคาถาต่ออายุและคาถาอายุวัฒนะ กินยาอายุวัฒนะ ทำบุญให้มากนั่งสมาธิให้มาก ปล่อยวางอย่าไปยึดติดกับเรื่อง
ของโรคที่กำลังเป็นอยู่และเรื่องราวที่จะทำใจไม่ให้สบาย ไม่ต้องกลัวตาย ถ้าท่านทำใจได้เช่นนี้โรคจะหายไปแล้วครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว อย่ายอมแพ้โดยเด็ดขาด โรคที่เป็นอยู่อาจจะเกิดปาฏิหาริย์ก็ได้ขอให้ลองดู
3.ถ้าเขาไม่ถูกโรครุมเร้ามากเกินไป เขาจะมีอายุยืนได้ 75 ปี
การศึกษาภาคพิเศษ
-การศึกษาภาคพิเศษแบ่งออกเป็น ๖ ชนิด คือ:-
๑.การทำนายกาลชะตา
๒.ทำนายกลบทงูกินหาง
๓.ทำนายกลบทฤาษีแปลงสาร
๔.ทำนายกลบทหนุมานประสานกาย
๕.เคล็ดลับเบ็ดเตล็ด
๖.การทำนายเรื่อหายของหาย
การทำนายด้วยกาลชะตา
-การทำนายด้วยกาลชะตา ใช้เลขของยามอัฏฐกาลเป็นจุดในการทำนาย ถ้ามีคนมาขอคำพยากรณ์ต้องรู้ว่า เขามาใน วัน เดือน ปีอะไร เวลาเท่าไหร่ และในขณะที่เขามาขอให้พยากรณ์นั้นมันเป็นเลขของยามอะไร ให้ถือเอาเวลาของยามนั้นเป็นจุดในการทำนายเช่น วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๖ เวลา ๙.๐๗ น. ตรงกับวันศุกร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ มีผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อดำแดง มาขอคำพยากรณ์ว่า "ลูกคนโตของเขาไปเล่นน้ำกับเพื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวานนี้ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑ เดือน ๖ ปีเถาะ ยังไม่กลับมาบ้านจนกระทั่งปานนี้ ไมรู้หายไปไหนจะเป็นหรือตายก็ไม่รู้ ขอให้ดูให้หน่อยว่า "เด็กจะเป็นอะไรหรือไม่? จะกลับมาบ้านหรือเปล่า?"
-วิธีการทำนายมีดังนี้คือ:-
๑.ให้ตั้งเลขของพื้ดวงชะตาขึ้นมา เช่น:-
6 7 1 2 3 4 5
6 7 1 2 3 4 5
4 5 6 7 1 2 3
16 19 8 11 7 10 13
-วิธีการพยาการณ์
๑.ให้ถือเอาเวลา 9.07 น. เป็นจุดในการททำนาย
๒.ต้องรู้ว่าเวลา 9.07 น. เป็นเวลาของยามอะไร
๓.เวลา 9.07 น. เป็นเลขของยามพุธะ
๔.จุดเวลาของยามพุธะุไปตกลงที่เลข 1 ในภพธนังซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพพยายะ โดยมีเลข 7 เลขของเสาร์เล็กเป็นฐาน ซึ่งเป็นเลขคู่สมพลกับเลข 1 ทำนายว่า "เด็กคนนี้ไปเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยากับเพื่อนได้เกิดอุบัติเหตุรถชนมีคนช่วยเหลือเอาไว้แล้วนำส่งโรงพยาบาล เมือมีอาการดีขึ้นแล้วก็จะออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้าน
-ตอบ:- เด็กคนนี้ไม่เป็นอะไร อีกประมาณ 6-7 ก็จะได้กลับมาบ้าน
ยามอัฏฐกาล
ยามอัฏฐกาลภาคกลางวัน ๘ ยาม
-วันอาทิตย์: สุริชะ สุกระ พุธะ จันเทา เสารี คะรู ภุมมะ สุริชะ
-วันจัทร์: จันเทา เสารี คะรู ภุมมะ สุริชะ สุกระ พุธะ จันเทา
-วันอังคาร: ภุมมะ สุริชะ สุกระ พุธะ จันเทา เสารี คะรู ภุมมะ
-วันพุธ: พุธะ จันเทา เสารี คะรู ภุมมะ สุริชะ สุกระ พุธะ
-วันพฤหัสบดี: คะรู ภุมมะ สุริชะ สุกระ พุธะ จันเทา เสารี คะรู
-วันศุกร์: สุกระ พุธะ จันเทา เสารี คะรู ภุมมะ สุริชะ สุกระ
-วันเสาร์: เสารี คะรู ภุมมะ สุริชะ สุกระ พุธะ จันเทา เสารี
เวลายามวันอาทิตย์ภาคกลางวัน
-ยามสุริชะ เวลาตั้งแต่ 6.00 น. - 7.30 น.
-สุกระ เวลาตั้งแต่ 7.30 น. - 9.00 น.
-พุธะ เวลาตั้งแต่ 9.00 น. - 10.30 น.
-จันเทา เวลาตั้งแต่ 10.30 น. - 12.00 น.
-เสารี เวลาตั้งแต่ 12.00 น. - 13.30 น.
-คะรู เวลาตั้งแต่ 13.30 น. - 15.00 น.
-ภุมมะ เวลาตั้งแต่ 15.00 น. - 16.30 น.
-สุริชะ เวลาตั้งแต่ 16.30 น. - 18.00 น.
-หลักในการจำมีดังนี้
1.ให้ท่องชื่อยามในแต่ละวันให้ได้ให้หมดเสียก่อน พยายามว่าเรื่อยๆจนคล่องปาก
2.ชื่อของยามของแต่ละวันเหมือนกันต่างแต่ว่าเวลาทำนายถ้าเขามาขอให้ทำนายในวันไหนก็จงเอาชื่อของยามของวันนั้นขึ้นก่อนโปรดพิจารณาดูข้างบน
3.เวลาของแต่ละวันก็เหมือนกันคือเริ่มตั้งแต่ 6.00 น. - 7.30 น. แต่ละยามก็มีเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที เหมือนกันหมด ไล่ไปเรื่อยๆจนถึง 18.00 น.
ยามอัฏฐกาลภาคกลางคืน ๘ ยาม
-วันอาทิตย์: ระวิ ชีโว ศะศิ สุกะโร ภุมโม โสโร พุโธ ระวิ
-วันจันทร์: ศะศิ สุกะโร ภุมโม โสโร พุโธ ระวิ ชีโว ศะศิ
-วันอังคาร: ภุมโม โสโร พุโธ ระวิ ชีโว ศะศิ สุกะโร ภุมโม
-วันพุธ: พุโธ ระวิ ชีโว ศะศิ สุกะโร ภุมโม โสโร พุโธ
-วันพฤหัสบดี: ชีโว ศะศิ สุกะโร ภุมโม โสโร พุโธ ระวิ ชีโว
-วันศุกร์: สุกะโร ภุมโม โสโร พุโธ ระวิ ชีโว ศะศิ สุกะโร
-วันเสาร์: โสโร พุโธ ระวิ ชีโว ศะศิ สุกะโร ภุมโม โสโร
เวลายามวันอาทิตย์ภาคกลางคืน
-ยามระวิ เวลาตั้งแต่ 18.00 น. - 19.30 น.
-ยามชีโว เวลาตั้งแต่ 19.30 น. - 21.00 น.
-ยามศะศิ เวลาตั้งแต่ 21.00 น. - 22.30 น.
-ยามสุกะโร เวลาตั้งแต่ 22.30 น. - 24.00 น.
-ยามภุมโม เวลาตั้งแต่ 24.00 น. - 2.30 น.
-ยามโสโร เวลาตั้งแต่ 1.30 น. - 3.00 น.
-ยามพุโธ เวลาตั้งแต่ 3.00 น. - 4.30 น.
-ยามระวิ เวลาตั้งแต่ 4.30 น. - 6.00 น.
ประโยชน์ของการทำนายแบบกาลชะตา
๑.ใช้ประโยชน์ในการทำนาย โทรเลข โทรศัพท์ โทรสาร และข่าวสารที่ได้รับการบอกเล่ามา หรือการสอบถามถึงเรื่องราวอื่นๆในทำนองเดียวกันนี้ก็ได้
๒.ใช้ในการทำนายคนที่ไม่รู้วัน เดือน ปีเกิดก็ได้
๓.ใช้ในการทำนายจดหมาย ข่าวสารที่เร่งด่วน
๔.ใช้ในการทำนาย ของหาย คนหาย สิ่งของหาย รถหาย เงินหาย สร้อยหาย สัตว์เลี้ยงหายเป็นต้น
๕.ถ้าเราคบใครถ้าเราอยากรู้ว่าคนนั้นดีหรือไม่ ให้ใช้การทำนายด้วยกาลชะตาดูก็จะรู้ในทันที
๖.คนที่เราใช้ไปทำงานสำคัญแทนตัวเราคนนั้นจะทำงานดีหรือไม่ จะทำงานสำเร็จหรือไม่ให้ใช้กาลชะตาทำนายดูก็จะรู้ในทันที
ตัวอย่างคนไม่รู้วันเดือนปีเกิด
-นางอุไรรัตน์ แปลงเมือง มาขอให้พยากรณ์แต่นางไม่รู้วันเดือนปีเกิด เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ให้ใช้กาลชะตาทำการพยากรณ์ หล่อนมาให้พยากรณ์ในวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๒๐ น. ตรงกับวันอังคาร แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑ ปีวอก
พื้นดวงชะตา
3 4 5 6 7 1 2
1 2 3 4 5 6 7
7 1 2 3 4 5 6
11 7 10 13 16 12 15
-หล่อนมีคำถามอยู่ ๓ ข้อ คือ:-
๑.สามีไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ๑๐ ปีแล้วไม่ได้ส่งข่าวให้ทราบเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่?
๒.รถยนต์ได้หายไป เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ จะได้รถกลับคืนมาหรือไม่?
๓.ลูกสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งเธอจะหายจากโรคนี้หรือไม่?
-วิธีการทำนาย:-
๑.ให้ตั้งเลขในพื้นดวงชะตาก่อนโดยใช้ วันเดือนปีและเวลาที่เขามาขอคำพยากรณ์นั้นเป็นตัวตั้ง
๒.ให้ดูวาสนาชะตาชีวิตของหล่อนก่อนว่าอยู่ในเกณฑ์ดีหรือเกณฑ์ร้ายให้ดูจากตัวเลขในภพอัตตะ
๓.ให้ดูตัวเลขในภพปัตตนิเป็นจุดในการทำนายเรื่องของสามี
๔.รถยนต์หายให้ดูตัวเลขในภพสหัชชะเป็นจุดในการทำนาย และให้ใช้ยามอัฏฐกาลยามที่ ๓ คือยามสุกระเป็นตัวชี้ขาดในการทำนาย
๕.ลูกสาวป่วยให้ดูตัวเลขในภพปุตตะเป็นจุดในการทำนาย
-ตอบคำถาม:-
-คำตอบที่ 1:- เลข 3 อยู่ในภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพลาภะ โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจหมายถึงวาสนาเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตามีวาสนาชะตาชีวิตอยู่ในเกณฑ์ดี"
-คำตอบที่ 2:- เลข 7 อยู่ในภพปัตตนิซึ่งไปตรงกับภพซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพมรณะ โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "สามีไปทำงานที่ต่างประเทศได้ไปติดพันธ์กับผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งจึงสามารถจะเดินทางมาบ้านได้ในตอนนี้อีก 7 ปี จึงจะเดินทางกลับบ้าน"
-คำตอบที่ 3:- เลข 3 อยู่ในภพสหัชชะซึ่งไปตรงกับภพอัตตะและภพลาภะ โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจเป็นฐานบวก ทำนายว่า "รถถูกลักไปไม่ไกลประมาณ ๕-๖ วัน จะได้ข่าวไม่นานก็จะได้รถกลับคืนมา"
-คำตอบที่ 4:- เลข 5 อยู่ในภพปุตตะซึ่งไปตรงกับภพธนังและภพทาสา โดยมีเลข 12 เลขกำลังของดาวพระราหูเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กกับเลข 5 ซึ่งให้โทษในทางการสูญเสีย ทำนายว่า "หายช้า ถ้าได้หมอที่ไม่ชำนาญและยาที่ไม่ถูกกับโรคอาจจะถึงแก่ความตายก็ได้"
กลบทฤาษีแปลงสาร
-กลบทฤาษีแปลงสารมีประโยชน์ในการพยากรณ์ดังนี้
๑.ใช้ในการทำนายบุคคลที่ไม่รู้จักวันเดือนปีเกิด
๒.ใช้ในการทำนายบุคคลผู้ที่รู้วันเดือนปีเกิด แต่ตรวจดูในปฏิทิน ๑๕๐ ปีแล้ว ปรากฏว่าไม่ถูกต้อง
-หลักในการทำนายมีดังนี้:-
๑.ให้เอาชื่อจริงไปตรสจดูตามแบบเทียบอักษรที่เป็นตัวเลข โดยใช้อักษรตัวหน้าของชื่อไปเทียบดูได้เลขอะไรให้ถือเป็นเลขของปีเกิด
๒.ให้เอาตัวอักษรตัวหน้าของนามสกุลไปเทียบเป็นตัวเลขได้เลขอะไร ให้ถือเป็นเลขของเดือนเกิด
๓.ให้เอาเลขของวันเกิดและเลขของปีเกิดบวกกันได้ผลลัพธ์เท่าไหร่ให้ถือเป็นเลขของปีเกิด แต่ถ้าบวกกันแล้วได้ผลลัพธ์มากกว่า ๗ ให้เอา ๗ หาร ได้ผลลัพธ์เท่าไหร่ให้ถือเป็นเลขของปีเกิด
๔.ให้เอาเลขวันเดือนปีเกิดที่หาได้แล้วไปตั้งเป็นเลขของพื้นดวงชะตา เป็นจุดสำคัญในการทำนาย
๕.การเทียบอักษรเป็นตัวเลขมีหลักในการเทียบดังนี้
การเทียบอักษรเป็นตัวเลข
-อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ = ๑
-ก ข ค ฆ ง = ๒
-จ ฉ ช ซ ญ = ๓
-ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ = ๔
-บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม = ๕
-ศ ษ ส ห ฬ อ ฮ = ๖
-ด ต ถ ท ธ น = ๗
-ย ร ล ว = ๘
ตัวอย่างคนที่ไม่รู้จักวันเดือนปีเกิด
-นายอุทิศ เลิศรส มาขอคำพยากรณ์ในวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ เวลา ๑๒.๔๓ น. ตรงกับวันพุธ แรม ๑๑ เดือน ๑
-หลักในการพยากรณ์:-
1.อุ เป็นสระตัวหน้าของชื่อ อุทิศ เทียบอักษรได้เท่ากับเลข 1 เป็นเลขของวันเกิด
2.เอ เป็นสระตัวหน้าของนามสกุล เลิศรส เทียบอัษรได้เท่ากับเลข 1 เป็นเลขของเดือนเกิด
3.ให้เอาเลขของชื่อและนามสกุลที่หาได้แล้วมาบวกกัน 1 + 1 = 2 เลข 2 จึงเป็นเลขของปีเกิด
-เจ้าชะตามีคฎถามอยู่ 3 ข้อ คือ:-
๑.เมียได้หนีไปจากบ้านประมาณ ๒ เดือนกว่าแล้วหล่อนจะกลับมาหรือไม่?
๒.ลูกสาวเอาเงินสองแสนไปให้ร้านขายทองยืมจะได้คืนหรือไม่?
๓.ลูกชายจะไปสอบเข้าทำงานในเดือนหน้าจะสอบเข้าได้หรือไม่?
เลขในพื้นดวงชะตา
1 2 3 4 5 6 7
1 2 3 4 5 6 7
2 3 4 5 6 7 1
4 7 10 13 16 19 15
-วิธีการพยากรณ์:-
1.ให้ดูตัวเลขในภพอัตตะเพื่อที่จะได้รู้ว่าเจ้าชะตามีชะตาอยู่ในเกณฑ์ดีหรือร้าย
2.เมียได้หนีไปจากบ้านให้ดูตัวเลขในภพปัตตนิเป็นจุดในการทำนาย
3.ลูกสาวเอาเงินให้ร้านขายทองยืม ให้ดูเลขในภพปุตตะและภพธนังเป็นจุดในกาทำนาย
4.ลูกชายไปสอบเข้าทำงาน ให้ดูเลขในภพปุตตะและเลขในภพกัมมะประกอบกัน
-ตอบคำถามของเจ้าชะตา:-
-เลข 1 อยู่ในภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพทาสี โดยมีเลข 15 เลขกำลังของดาวพระจันทร์เป็นฐานบวก
ซึ่งเป็นเลขคู่ขัดแย้งกับเลข 1 เขามีเกณฑ์ชะตาอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ทำนายว่า "เจ้าชะตามีชะตาชีวิตอยู่ในเกณฑ์ตต่ำ"
-ตอบปัญหาข้อที่ 1:- เลข 7 อยู่ในภพปัตตนิซึ่งไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพทาสา โดยมีเลข 19 เลขกำลังของดาวพฤหัสบดีเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่อัตคัดขัดสนกับเลข 7 ข้อนี้เป็นข้อที่คนหายต้องเอาเวลาที่เขามาขอให้พยากรณ์ประกอบด้วย เวลาที่เขามาขอคำพยากรณ์ในเวลา 12.43 น. จะอยู่ในยามภุมมะ ยามอังคาร คือเลข 3 เลข 3 อยู่ที่ภพธนังซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพสุภะ โดยมีเลข 7 เลขของเสาร์เล็กเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กกับเลข 3 ให้โทษในทางอิทธิพลมืด ทำนายว่า "ภรรยาเกิดความขัดสนเรื่องเงินทองเพราะลูกสาวเป็นสาเหตุจึงได้ตัดสินใจไปทำงานหาเงินที่ต่างประเทศเลยถูกพวกตุ้มตุ๋นหลอกให้ไปทำงานที่ต่างประเทศอีกไม่นานก็จะถูกส่งกลับประเทศไทย"
-ตอบปัญหาข้อที่ 2:- เลข 5 อยู่ในภพปุตตะซึ่งไปตรงกับภพมาตาและภพลาภะ โดยมีเลข 13 เลขของมหาอุจเป็นฐานบวก ถ้าเขายืม เงินเลย 5 เดือนไปแล้วจะไม่ได้คืน คือจะถูกโกง
-ตอบปัญหาข้อที่ 3:- ลูกชายจะสอบเข้าทำงานได้อย่างแน่นอน
กลบทงูกินหาง
-กลบทงูกินหางมีประโยชน์ในการพยากรณ์ดังนี้
๑.ใช้พยากรณ์บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าชะตา เช่น:-
-บิดา มารดา
-พี่ชาย น้องชาย
-พี่สาว น้องสาว
-แฟน ดู่ครอง
-ลูกชาย ลูกสาว
-มิตรสหาย
-ข้าทาสบริวาร
-การลงทุน การร่วมหุ้น การเล่นแชร์
-คดีความ
-พ่อ หรือ บิดา ให้ใช้เลขในภพปิตาเป็นจุดในการทำนาย
-แม่ หรือ มารดา ให้ใช้เลขในภพมาตาเป็นจุดในการทำนาย
-พี่ชาย หรือ น้องชาย ให้ใช้เลขในภพสหัชชะเป็นจุดในการทำนาย
-พี่สาว หรือ น้องสาว ให้ใช้เลขในภพสหัชชะเป็นจุดในการทำนาย
-แฟน คู่ครอง ให้ใช้เลขในภพปัตตนิเป็นจุดในการทำนาย
-มิตรสหาย ให้ใช้เลขในภพสหัชชะเป็นจุดในการทำนาย
-ทาสชาย คนรับใช้ชาย ให้ใช้เลขในภพทาสาเป็นจุดในการทำนาย
-ทาสหญิง คนรับใช้หญิง ให้ใช้เลขในภพทาสีเป็นจุดในการทำนาย
-การลงทุน การร่วมหุ้น การเล่นแชร์ ให้ใช้เลขในภพปัตตนิเป็นจุดในการทำนาย
-คดีความ ให้ใช้เลขในภพปัตตนิเป็นจุดในการทำนาย
๒.วิธีการทำนาย:-
๑.ถ้าทำนายบุคคลให้เอาเลขในภพนั้นเป็นจุดในการทำนายให้ทำนายย้อนขึ้นด้วยเพื่อจะได้ดูความเกี่ยวข้องบุคคลนั้น เช่น:-
-นางนภารัตน์ ดวงดี มาขอให้พยากรณ์เกี่ยวกับลูกชายที่ไปทำงานในต่างประเทศ ลูกชายเกิดในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๕ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล มาในวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ เวลา ๙.๔๗ น. ตรงกับวันศุกร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑ ปีวอก
-มีคำถามอยู่ ๓ ข้อ คือ:-
๑.เขาไปทำงานที่ต่างประเทศจะเป็นผลดีหรือผลร้ายแก่เขา?
๒.เขาจะทำงานอยู่ต่างประเทศประมาณกี่ปี?
๓.ลูกชายคนนี้เขาชอบเอาเงินไปร่วมหุ้นกับเพื่อนมันจะเป็นผลดีแก่เขาหรือไม่?
เลขในพื้นดวงชะตา
7 1 2 3 4 5 6
6 7 1 2 3 4 5
3 4 5 6 7 1 2
16 12 8 11 14 10 13
-วิธีพยากรณ์:-
๑.ให้ดูวาสนาชะตาชีวิตเขาก่อนว่าอยู่ในเกณฑ์ดีหรือร้าย
๒.ให้ดูเลขในภพสหัชชะซึ่งเป็นตัวแทนของลูกชาย
๓.ให้ดูตัวเลขในภพกัมมะเพื่อดูการงานของเขา
๔.ให้ดูอายุจรของเขาประกอบในการทำนาย
-เลข 7 อยู่ในภพอัตตะซึ่งไปตรงกับภพกฎุมพะและภพพยายะ โดยมีเลข 14 เลขพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก
ทำนายว่า " วาสนาชะตาชีวิตของเขาอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง"
-เลขใหภพสหัชชะคือเลข 1 ซึ่งไปตรงกับภพหินะและภพทาสา โดยมีเลข 10 เลขกำลังของดาวพระเสาร์เป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่ธาตุให้คุณในทางอำนาจ ทำนายว่า "ลูกชายคนนี้เป็นคนขยันขันแข็งในการทำงานดีแต่มีนิสัยเป็นคนดื้อดึงมักทำตามใจของตนเองไมค่อยมีเหตุผล นิสัยอันนี้แหละจะเป็นผลเสียแก่เขาในภายหลัง"
-เลข 5 อยู่ในภพกัมมะซึ่งไปตรงกับภพโภคาและภพปัตตนิ โดยมีเลข 8 เลขกำลังของดาวพระอังคารเป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่สมพล ให้คุณในทางการพนัน ทำนายว่า "ดวงชะตาของเขามีผลดีในการร่วมหุ้นลงทุนมากเขาจะได้เงินในการร่วมหุ้นในครั้งนี้มากพอสมควรมันจึงเป็นผลดีแก่เขามาก"
-เลขของอายุจรไปตกลงที่เลข 3 ในภพปุตตะซึ่งไปตรงกับภพปิตาและภพมรณะ โดยมีเลข 16 เลขกำลังเศณษฐีเป็นฐานบวก ทำนายว่า"การเดินทางไปหาเงินในต่างประเทศจะเป็นผลดีแก่เขามากจะได้ทั้งเงินและจะไปเจอคู่ครองที่มีฐานะทางการเงินดีอึกด้วย"
-ตอบปัญหาข้อที่ 1:- จะเป็นผลดีมากกว่าผลร้าย
-ตอบปัญหาข้อที่ 2:- ประมาณ 4 ปี ปีที่ 5 จะถูกศัตรูป้องร้ายจึงต้องเดินทางกลับ
-ตอบปัญหาข้อที่ 3:- จะเป็นผลดีแก่เขามาก จะได้รับเงินก้อนใหญ่เกี่ยวกับการลงร่วมหุ้นในครั้งนี้
ตัวอย่างเกี่ยวกับการทำนายคดีความ
-นางวารินทร์ ถุงทอง เกิดวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๕ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีวอก
มาให้ทำนายคดีความเกี่ยวกับเรื่องที่ดินที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่
-ถามว่า:- จะแพ้หรือชนะคดี?
-เจ้าชะตามาให้ทำนายเมื่อวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ เวลาา ๑๐.๓๓ น. ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๒
ปีวอก
เลขในพื้นดวงชะตา
3 4 5 6 7 1 2
7 1 2 3 4 5 6
7 1 2 3 4 5 6
17 6 9 12 15 11 14
-หลักในการทำนาย:-
1.ให้ดูเลขในภพอัตตะเพื่อจะดูว่าวาสนาชะตาชีวิตอยู่ในเกณฑ์ดีหรือร้าย
2.ให้ดูเลขในภพปัตตนิเป็นจุดในการทำนายเรื่องคดีความ จงพิจารณาดูภพปัตตนิให้ดีว่ามันไปตรงกับภพอะไร ถ้าตรงกับภพที่ดีและฐานบวกก็ดีด้วย คดีความนั้นจะต้องชะนะอย่างแน่นอนแน่นอน
3.ให้ดูอายุจร วันจร เดือนจร ปีจร เป็นจุดในการตัดสินชี้ขาดในการทำนาย
-วิธีดูอายุจร ให้เอาพ.ศ.ปัจจุบันคือ 2559 ตั้งแล้วลบด้วย พ.ศ.เกิดคือ 2535 ได้ผลลัพธ์ถือเป็นอายุปัจจุบัน
2559 - 2535 = 24 ปี เต็ม เมื่อหาอายุปัจจุบันได้แล้วให้เอาไปไล่หาเลขอายุจรในพื้นดวงชะตา
-วิธีหาเลขวันจร ให้เอาวัที่เขามาขอให้ทำนายนั้นไปตรวจดูว่ามันไปตกอยู่ภพไหน
-วิธีหาเดือนจร ให้เอาเดือนที่เขามาให้ขอให้ทำนายนั้นไปตรวจดูที่พื้นดวงชะตาว่ามันไปตกอยู่ภพไหน
-วิธีหาปีเกิด ให้เอาเลขประจำปีเกิดที่เขามาขอให้ทำนายนั้นไปตรวจดูที่พื้นดวงชะตาว่ามันไปตกอยู่ภพไหน
-วิธีการทำนาย:-
-เลขในภพอัตตะคือเลข 3 ซึ่งไปตรงกับภพพันธุและภพลาภะ โดยมีเลข 12 เลขกำลังของพระราหูเป็นฐานบวก
ซึ่งเป็นเลขคู่ธาตุ ให้คุณในทางการเป็นเจ้านักเลข ทำนายว่า "เจ้าชะตาชอบดำเนินอาชีพแบบอิสระส่วนจะหนักไปในเล่นหุ้นเล่นแชร์การลงทุนและการพนัน ถ้าเจ้าชะตาเป็นเจ้าของบ่อนหรือเป็นเจ้ามือแทงหวยจะถูกโฉลกกับชะตาชีวิตมาก ชะตาชีวืตอยู่ในเกณฑ์ดี"
-เลข 6 อยู่ในภพปัตตนิซึ่งเลขคดีความไปตรงกับภพปิตาและภพทาสี โดยมีเลข 14 เลขกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นฐานบวก ทำนายว่า "คดีความของเจ้าชะตามีผู้ใหญ่ชายที่เป็นญาติของสามีคอยให้ความช่วยเหลืออยู่อย่างลับๆ"
-เลขของอายุจรคือเลข 5 อยู่ในภพธนังซึ่งไปตรงกับภพอริและภพทาสา โดยมีเลข 11 เลขของราชาโชคเป็นฐานบวก ทำนายว่า "เจ้าชะตาต้องหมดเงินไปเยอะเหมือนกันจึงชนะคดี"
-เลข 7 อยู่ในภพมาตาเป็นเลขของวันที่มาให้ดูซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมรณะ โดยมีเลข 17 เลขกำลังของดาวพระพุธเป็นฐานบวกซึ่งเป็นเลขคู่สมพลกับเลข 7 ให้คุณในทางความจริง
-เลข 2 คือเลขของเดือนที่มาให้ดูอยู่ในภพมัชฌิมาซึ่งไปตรงกับภพสหัชชะและภพกัมมะ โดยมีเลข 9 เลขกำลังของดาวพระเกตุเป็นฐานบวก ทำนายว่า "จะให้ผลโดยฉับพลันทันทีในสิ่งที่กระทำเอาไว้อย่างเหนือความคาดหมาย"
-เลข 7 คือเลขของปีที่มาขอให้ทำนายอยู่ในภพมาตาซึ่งไปตรงกับภพตนุและภพมรณะ โดยมีเลข 14 เลขกำลังของดาวพระพุธเป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่สมพล ให้ผลในทางความจริง ทำนายว่า "เจ้าชะตาจะชนะคดีนี้ร้อยเปอร์เซ็นเต็ม"
-ตอบปัญหา: จะชนะคดี 100 % เต็มอย่างแน่นอน.
การทำนายเรื่องของหาย
การทำนายเรื่องของหายให้ใช้การทำนายแบบยามอัฏฐกาลดีที่สุดแม่นยำดีง่ายสะดวกสบายรวดเร็วกว่าการทำนายแบบอื่น เพราะมันสามารถทำการทำนายได้ทุกชนืดทุกรูปแบบ
เช่น:- นางรวี ศรีสกุล เกิดวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๒ ปีเถาะ
-รถมอเตอร์ไซค์ได้หายไปเมื่ิอวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเย็น ตรงกับเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู
-มีคำถามอยู่ ๓ ข้อ คือ:-
๑.ใครเป็นคนลักไป?
๒.ตอนนี้รถอยู่ที่ไหน?
๓.รถที่หายไปจะได้คืนหรือไม่?
เลขในพื้นดวงชะตา
5 6 7 1 2 3 4
2 3 4 5 6 7 1
3 4 5 6 7 1 2
10 13 16 12 15 11 7
-หลักในการทำนาย:-
๑.ให้ดูว่าเลขของวันเกิดในภพอัตตะเป็นเลขคู่ศัตรูกับเลขของเดือนเกิดในภพตนุหรือไม่
๒.ให้ดูว่าเลขของเดือนเกิดในภพตนุเป็นเลขคู่ศัตรูกับเลขของปีเกิดในภพมรณะหรือไม่
๓.ให้ดูเลขในภพสหัชชะและฐานบวกเป็นจุดในการทำนาย
๔.ให้ดูเลขของยามที่รถหายเป็นจุดในการทำนาย
๕.ถ้าอยากรู้ว่ารถที่หายไปตอนนี้อยู่ที่ไหน? ให้ดูเลขของเดือนเกิดเป็นจุดในการทำนาย
๖.ถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นคนลักขโมยไป ให้ดูเลขในฐานของปีเกิดเป็นจุดในการทำนาย
-วิธีการทำนาย:-
๑.เลข 5 ในภพอัตตะเป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข ๒ ในภพตนุ ให้โทษในทางมีความคิดเห็นขัดแย้งทะเลาะวิวาทกัน
เสียคะแนนไป ๒๕ %
๒.เลข 2 ในภพตนุเป็นเลขคู่ศัตรูใหญ่กับเลข 3 ในภพมรณะซึ่งเป็นเลขของปีเกิด ให้โทษในทางกล้าทำในทางที่ผิด เสียคะแนนไป ๒๕ %
3.เลข 4 อยู่ในภพสหัชชะซึ่ไปตรงกับภพมัชฌิมาและภพสุภะ โดยมีเลข 13 เลขกำลังมหาอุจเป็นฐานบวก ได้คะแนน 25 %
4.เวลา 15.00 น. - 16.30 น. ของวันเสาร์ เป็นยามจันเทา เลข 2 อยู่ในภพมาตาซึ่งไปตรงกับตนุและภพทาสี โดยมีเลข 7 เลขของเสาร์เล็กเป็นฐานบวก ซึ่งเป็นเลขคู่ศัตรูเล็กกับเลข 2 ให้โทษในทางพลัดพรากจากกันและความผิดหวัง
เสียคะแนน 25 %
-ตอบปัญหาที่ถาม:-
๑.คนที่ลักขโมยรถไปเป็นชาย รูปร่างสันทัด ผิวเนื้อดำแดง
๒.ผู้หญิงรูปร่างข้าวท้วมมีอายุชาวสวนเป็นคนซื้อเอาไว้
๓.รถมีโอกาสได้คืน 25 % มีโอกาสไม่ได้รถคืน 75 % เพราะฉะนั้นจึงทำนายได้อย่างเต็มปากว่า "รถที่หายไปจะไม่ได้คืนอย่างแน่นอน"
การทำนายตามตำราของยามอัฏฐกาล
วันอาทิตย์ภาคกลางวัน
-เวลา ๖.๐๑ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้ข่าวที่ได้รับร้ายทั้งสิ้น อย่าได้เชื่อถือ จะรับคนเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านมีแต่จะถูกทรยศหักหลัง สิ่งของที่เขามาเสนอเป็นของลักขโมยมาถ้ารับไว้ระวังจะมีโทษ ถ้าสิ่งของหายก็อยู่ไม่ไกล คนในบ้านนั้นแหละลักเอาไป ห้ามทำการมงคลโดยเด็ดขาด
-เวลา ๗.๓๐ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามสุกระ
-ยามนี้ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวลวงไม่แน่นอนบอกว่าตายอาจจะรอด ใครมาชักชวนไปไหนอย่าได้ไปโดยเด็ดขาดอาจจะถูกลวงไปฆ่าหรือไปทำมิดีมิร้ายก็ได้หรืออาจจะลวงไปเรียกค่าไถ่หรือปล้นทรัพย์ก็ได้ ทำการมงคลไม่ดีเลย
-เวลา ๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้เป็นยามที่จะเกิดถ้อยคดีความหรือข้าวของเสียหาย ให้ระวังคนมาบอกข่าวล้วนเป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น
-เวลา ๑๐.๓๑ น. - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวที่แน่นอน ถ้าของหายจะถูกนำเอาไปซ่อนไว้ในที่ลับตา ของอยู่นอกบ้านไม่ได้อยู่ในบ้านเลย
-เวลา ๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้ไม่ควรเจรจากันเรื่องการงานหรือคุยกันในเรื่องที่จะถกเถียงกัน ไม่ควรทำการมงคลเพราะจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นในภายหลัง
-เวลา ๑๓.๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้เป็นยามวุ่นวายไม่ควรประกอบการมงคลใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นแต่การพิจารณาคดีหรือสืบพยานจึงจะต้องโฉลก
-เวลา ๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้เหมาะสำหรับการตกลงยอมความประนีประนอมและการจับกุมคนร้าย ถ้าได้ข่าวเกี่ยวกับคนป่วยทำนายว่ายังไม่หายแต่ก็ยังไม่ตาย การตกลงทำสัญญาใดๆจะมีอุปสรรคไม่สำเร๊จ
-เวลา ๑๖.๓๑ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้เป็นยามที่ปลอดโปร่งดีเหมาะแก่การเจรจาง้อนง้อคืนดี ประนีประนอมเรื่องหนี้สิน การเดินทางเพื่อแสวงหาโชคลาภก็สดใสผ่องแผ้วดี จะทำสัญญาเงินกู้ก็ได้ผลดี คนเจ็บหรือข่าวที่ได้ยินมาเป็นข่าวจริงไม่หลอกลวง
วันอาทิตย์ภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้ให้ระวังโจรผู้ร้าย การแตกหัก การเสียข้าวของ การพลัดตกหกล้ม ระวังจะถูกงูพิษกัดหรือแมลงมีพิษต่อย
ไม่ควรกระทำการมงคล แต่เป็นฤกษ์ดีในการจู่โจมเข้าจับกุมและการตรวจค้นเหมาะสมที่สุด ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวร้ายแทบทั้งสิ้น
-๑๙.๐๑ น. - ๒๑.๐๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เหมาะแก่การโจมตี การทำสงครามและการตกลงธุรกิจต่างๆที่ต้องมีการตกลงรายการใหญ่ๆ เหมาะมากในช่วงนี้ จะเข้าจับกุมผู้ร้ายก็ดีนักแล จะมีชัยสมคะเนทุกประการ ข่าวที่ได้รับสวนมากเป็นข่าวดี
-๒๑.๐๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้ทำการมงคลส่งตัวเข้าห้อหรือทำการฉลองขึ้นบ้านใหม่ เจิมเสาเอกเสาโทหรือทำการมงคลนีนักแล ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดีแทบทั้งสิ้น
-๒๒.๓๑ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้ไม่ให้ทำการมงคล เพียงแต่ให้ตั้งทัพรออยู่ที่คอยรับมือโจรผู้ร้าย ให้งดเว้นการเดินทาง ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้ายแทบทั้งสิ้น
-๒๔.๐๑ น. - ๐๑.๓๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้ไม่เหมาะแก่การทำมงคลทุกชนิด แต่เหมาะสำหรับการเข้าทำศึกเพื่อชัยชนะนับว่าได้ผลดี
-๐๑.๓๑ น. - ๐๓.๐๐ น. เป็นยามโสโร
-ยามนี้ห้ามทำการมงคลโดยเด็ดขาด ถ้าเป็นทหารระวังจะถูกโจมตีรับอรุณ รณรงค์สงครามก็ไม่ดีระวังจะถูกดักซุ่มโจมตี เป็นยามไพร่พลเข้าเมืองไม่เฟื้องฟู
-๐๓.๐๑ น. - ๐๔.๓๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้ไม่เหมาะแก่การทำมงคลทุกชนิด เป็นยามที่กรุงศรีอยุธยาแตกเสียเอกราชแก่พม่าข้าศึก ถ้าเป็นทหารให้ระวังข้าศึกจะโจมตีอย่าประมาท
-๐๔.๓๑ น. - ๐๖.๐๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้เป็นยามที่ห้ามการทำมงคลทุกชนิด ห้ามการเดินทางยับยั้งอยู่กับที่ดีที่สุด
-สรูปยามที่ดีของวันอาทิตย์
-ยามที่ดีภาคกลางวัน คือ ยามที่ ๔ ๗ ๘
-ยามที่ดีภาคกลางคืน คือ ยามที่ ๒ ๓
วันจันทร์ภาคกลางวัน
-๖.๐๐ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้ไม่ดี ถ้าตกลงทำสัญญาใดๆจะมีการเบี้ยวเกิดขึ้นในภายหลัง รับจำนองจำนำอะไรก็ตามให้ระวังของปลอม และให้ระวังเรื่องร้อนรนร้าวฉาน ข่าวที่ได้ยินมาไม่ว่าจะดีหรือร้ายมีโอกาสผลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ง่ายๆ ห้ามทำการมงคล
-๗.๓๑ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้เป็นยามอุบาทว์ การหลอกลวงต้มตุ๋นหลอกลวงรับอรุณก็ยามนี้แหละ จะรับคนเข้าบ้านเปิดประตูรับใครให้ดูหน้าดูหลังเสียก่อนไม่งั้นจะวุ่นวายแน่ ข่าวที่รับได้รับเป็นข่าวลวงทั้งสิ้น ใครมาชวนให้ไปไหนมาไหนด้วยอย่าไปโปรดระวังให้ดี
-๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้เป็นยามดี จะไปทวงหนี้ ขอกู้หนี้ ประนอมหนี้หรือติดต่อธุรกิจทำมาค้าขายให้ทำได้ในทันที จะมีการตกลงทำสัญญาใดๆให้ทำได้ในทันที ข่าวที่ได้รับส่วนมากเป็นข่าวดีและแน่นอน ทำการมงคลได้ทุกชนิด
-๑๐.๓๑ น. - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้เป็นยามอุบาทว์ ตกลงทำสัญญาใดๆก็จะกลับกลายเป็นร้ายไปหมด ทำการเปิดร้านดีแต่ตอนแรกต่อไปในภายหลังจะเกิดความพินาศฉิบหาย เป็นยามที่เหมาะแก่การหลอกลวงต้มตุ๋นของพวกมิจฉาชีพ อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด อย่าซื้อขายของร้อนของไม่ดีจะเดือดร้อนในภายหลัง
-๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้เป็นยามไม่ดี จะมีผู้คิดปองร้ายมีผู้วางแผนอันเร้นลับให้ร้าย ห้าทเดินทางจะเกิดเป็นอันตราย
-๑๓.๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้ทำการมงคลดี เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี จะปรับความเข้าใจต่อรองยอมความกันได้ ข่าวที่ได้ยินมาล้วนแต่เป็นข่าวดี คนป่วยว่าไม่ตาย ที่ป่วยเกือบตายถ้าได้ข่าวยามนี้แล้วหาย
-๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้เรียกว่าเป็นยามมรณะ จะเดินทางไปไหนมาไหนโปรดระมัดระวังให้ดีเดี๋ยวจะเป็นอันตรายไม่ตายก็คางเหลือง จำได้ว่าในสมัยพล ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ได้ใช้ฤกษ์นี้เข้าปราบปรามโจรผู้ร้ายบาดเจ็บล้มตายกันระนาว ท่านห้ามนักอย่าได้ทำการใดๆเลยมีแต่เสียกับเสียไม่มีได้ ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวร้ายแทบทั้งสิ้น
-๑๖.๓๐ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้ดีทำการมงคลได้ทุกชนิด เจรจาความเมืองดี ทวงหนี้สินดีตกลงซื้อขายดี ฉลองการขึ้นบ้านใหม่ก็ดีทั้งนั้น เป็นยามที่มีฤกษ์ดีแต่ถ่ายเดียว ข่าวที่ได้รับล้วนแล้วแต่เป็นข่าวดีแทบทั้งสิ้นไม่มีเสียเลย ถ้าถามถึงคนป่วยว่าไม่ตาย
วันจันทร์ภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้ดีนักแลทำอะไรก็ไม่ติดขัด เด็กที่เกิดในยามนี้จะมีตบะเดชะมากและมีปัญญาประเสริฐเลิศนักแล
-๑๙.๓๑ น. - ๒๑.๐๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้ทำงานมงคลดีนัก จะส่งตัวเข้าหอดี จะตกลงทำสัญญาใดๆก็ดีทั้งนั้น ไม่เหมาะอย่างเดียวคือการจับกุมจี้ปล้นและหลอกลวงมีหวังติดคุกหัวโตอย่างแน่นอน
-๒๑.๓๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้ห้ามการทำมงคลทุกชนิด งดการเจรจาหารือ ควรจะออมชอมไม่งั้นจะวงแตก
-๒๒.๓๑ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามโสโร
-ยามนี้ร้ายหรือดีก็พอๆกันได้ครึ่งเสียครึ่ง ทำการได้แต่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเช่น ตำรวจจะไปทะลายแก๊งมิจฉาชีพอย่างถอนรากถอนโคนจะทำการจับกุมไม่ได้หมดตัวการจะหนีไปได้ ข่าวที่ได้รัยดีร้ายพอๆกัน
-๒๔.๐๑ น. - ๑.๓๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้ร้าย ห้ามออกจากเคหสานไปทธุรกิจข้างนอกบ้าน เป็นยามยมขันธ์ไม่มีดีมีแต่ร้ายกับตาย ถ้าไม่อยากคอขาดบาดตายอย่าได้ออกไปเชียวร้ายยิ่งนัก ใครมาเรียกอย่าขานอย่าเปิดประตูรับ เว้นไว้แต่ได้นัดเวลากันไว้หรือเคยเป็นคนเข้านอกออกในมาก่อน ให้ระวังเอาไว้เป็นดีที่สุด
-๑.๓๑ น. - ๓.๐๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้เป็นยามปลอดดีนักแล แต่เวลานี้ส่วนใหญ่จะนอนหลับกันหมดแล้ว
-๓.๐๑ น. - ๔.๓๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นยามดีรับอรุณ จะจู่โจมจับกุมหรือทำการมงคลใดๆก็จงเลือกเอาตามสบาย ข่าวที่ได้รับดีทั้งนั้น คนป่วยว่าจะตายอาจจะไม่ตายก็ได้
-๔.๓๑ น. - ๖.๐๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้ยอดเยี่ยมดีนักแลจะทำอะไรก็ดีทั้งนั้น
-สรูปยามที่ดีของวันจันทร์
-ยามที่ดีภาคกลางวัน คือ ยามที่ ๓ ๖ ๘
-ยามที่ดีภาคกลางคืน คือ ยามที่ ๑ ๒ ๖ ๗ ๘
วันอังคารภาคกลางวัน
-๖.๐๑ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้ ทำกิจการงานใดๆดีครึ่งเสียครึ่ง ไม่ทำเสียเลยจะดีกว่า ข่าวที่ได้รับดีและร้ายปานๆกันนั่นแหละ
-๗.๓๑ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้เป็นยามปลอดโปร่ง จะทำอะไรจะติดต่ออะไรก็ดีทั้งนั้น จะมีความสำเร็จดีนักแล ข่าวที่ได้รับล้วนแล้วเป็นข่าวดีแทบทั้งสิ้น
-๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้เป็นยามร้ายไปไหนไม่สะดวกมักจะมีการหลอกลวงคดโกงต้มตุ๋นและทรยศหักหลังกันต่างๆนานา เซ็นสัญญาใดๆไม่ดี ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวลวงแทบทั้งสื้น
-๑๐.๓๑ น. - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้เป็นยามปลอดโปร่งโล่งใจดี จะทำอะรไก็ดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดี
-๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้ ห้ามตกลงเป็นนายประกันให้เขาและการค้ำประกันทุกอย่าง ห้ามรับคนเข้ามาอยู่ในบ้านจะกลับกลายเป็นงูพิษ
ใครมาบกข่าวให้ไปไหนจงอย่าไปโดยเด็ดขาดจะเกิดเป็นอันตราย
-๑๓.๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้เป็นยามร้าย ร้อนใจจะแพ้แก่คนพาล ไปไหนมาไหนไม่ดีโปรดระวัง ข่าวที่ได้รับไม่ดีทั้งสิ้น
-๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้เป็นยามมรณะกาล ห้ามเดินทาง ห้ามทำการรณรงค์สงคราม ห้ามทำการมงคลทุกชนิด ไม่จำเป็นอย่าทำการหักาญโดยเด็ดขาด ยามนี้ร้ายยิ่งนัก ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวร้ายทั้งนั้น ใตรมาชวนไปไหนมาไหนอย่าได้ไปเป็นเด็ดขาดขืนไปตายลูกเดียว
-๑๖.๓๑ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยาภุมมะ
-ยามนี้เป็นยามดีมาก จะย่าตราไปไหน ทำอะไรล้วนปลอดโปร่ง จะจัดเลี้ยงสังสรรค์และทำสัญญาใดๆ ก็ใหรีบทำดีนักแล ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นขาวดีทั้งสิ้น ตำรวจจะจู่โจมจับตัวผู้ร้ายก็จะจับกุมได้หมด
วันอังคารภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้เป็นที่พระรถได้ดวงตานางสิบสองแล้วจกเมืองยักษ์ไป ปลอดโปร่งดีนักแล จะทำการสิ่งใดก็จะสัมฤทธ์ผลทุกอย่าง ท่านว่าดีเยี่ยมให้รีบทำเถิด
-๑๙.๓๑ น. - ๒๑.๐๐ น เป็นยามโสโร
-ยามนี้เป็นยามดีสำหรับผู้เล่นหุ้นและเล่นการพนัน จะเล่นเป็นเจ้ามือหรือลูกมือก็ได้ท่านว่าดีนักแล ท่านเรียกยามนี้ว่า "เป็นยามผีพนัน" แต่อย่างอื่นไม่ดี
-๒๑.๐๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้เป็นยามดี ตกลงทำสัญญาอะไรก็ดีทั้งนั้นตลอดปลอดภัยดีทุกประการ
-๒๒.๓๑ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้เป็นยามมรณะอีกยามหนึ่ง ห้ามการทำมงคลทุกชนิด และห้ามการเดินทางอีกด้วย
-๒๔.๐๑ น. - ๑.๓๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นยามที่พิลึกกึกกือคือยามที่ทำให้ยามที่ร้ายกลับกลายเป็นดี ทำการมงคลได้แม้ว่าฤกษ์แวดล้อมจะเสียก็ตาม สำรับยามนี้ใช้ข่มฤกษ์อื่นยามอื่นได้ทั้งหมด ทำอะไรให้รีบทำเถิดดีนักแล ข่าวที่ได้รับถึงเป็นข่าวร้ายก็จะกลับกลายเป็นดีไปหมด
-๑.๓๑ น. - ๓.๐๐ น. เป็นยามศะศิ
ยามนี้เป็นฉุกละหุก จะหลบหนีมีโอกาสนับสิบๆคือรอดก็รอดกันไปเลย ถ้าไม่รอดก็จะปะทะกันอย่างดุเดือดหรือจะเอ๋กันไปเลย ดังนั้นยามนี้จึงไม่เหมาะแก่การทำมงคลทุกชนิด ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้ายแทบทั้งสิ้น
-๓.๐๑ น. - ๔.๓๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้เป็นยามร้ายห้ามทำการมงคล ไม่ควรออกนอกชายคาบ้านเป็นดีที่สุด โจรภัยและภัยต่างๆมีมากหลาย จะนัดผู้หญิงแล้วพาหนีหรือพาเข้าโรงแรมจะถูกไล่จับกุมได้อย่างแน่นอน ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น
-๔.๓๑ น. - ๖.๐๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้ดีนักแลจะทำมงคลอะไรก็จะดีเหนือฤกษ์เบิกอรุณเลยทีเดียวไม่ต้องกลัวอไรทั้งสิ้น ทำอะไรก็ให้รีบทำเถอะอย่าได้ชักช้าเลย ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดีทั้งสิ้น
-สรูปยามดีของวันอังคาร:-
-ยามดีภาคกลางวัน คือ: ยามที่ ๒ ๔ ๘
-ยามดีภาคกลางคืน: ยามที่ ๑ ๒ ๓ ๕ ๘
วันพุธภาคกลางวัน
-๖.๐๑ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้ดีมากจะทำอะไรมักจะได้ผลดี เด็กที่เกิดในยามนี้ท่านว่าสวรรค์ส่งมาเกิดมีบุญวาสนาดีจะเดินทางไปทางใดก็สะดวกสบายดีมีอุปสรรคน้อยไม่ค่อยลำบากเหมือนคนอื่น ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดีแทบทั้งนั้น
-๗.๓๑ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้เหมาะแก่ฤกษ์มงคลรดน้ำสังข์ในการแต่งงาน จะเข้าพระเข้านางก็ดี จะเจรจาสู่ขอใช้ยามนี้ปลอดภัยยิ่งนัก ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดีแทบทั้งสิ้น
-๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้เป็นยามร้าย เป็นทหารตำรวจออกลาดตระเวนโปรดระวังให้ดียามนี้ร้ายนัก จะไปไหนมาไหนในที่เปลี่ยวอย่าได้ประมาทอาจจะถูกโจมตีได้ง่ายๆ มีคนมาชวนให้ไปในที่เปลี่ยวด้วยกันอย่าได้ไปยามนี้ร้ายมากกว่าดี ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้ายแทบทั้งนั้น
-๑๐.๓๑ น. - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้เป็นยามร้ายที่ต่อเนื่องกันมา ไม่ควรทำการมงคลใดๆ หากจะเดินทางไกลให้เลื่อนออกไปอย่าได้ไปในยามนี้เดี่๋ยวจะกลายเป็นผีเฝ้าถนนได้ง่ายๆ ข่าวที่ได้รับมาล้วนเชื่อถือไม่ได้เลย
-๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้ดี เดินทางไกลไปค้าขายดีจะมีโชคลาภและผลกำไรงาม ทำการมงคลดี ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๑๓.๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้ไม่ดีจะมีคนคิดปองร้าย จะเดินทางไปไหนโปรดระวังให้ดีเดี๋ยวภัยจะมาถึงตัวอย่างไม่คาดฝัน คนคิดร้ายจะจู่โจมเอา ข่าวที่ได้รับร้ายนักแล
-๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้เหมาะแก่การทวงหนี้หรือไปพบปะเจรจาเรื่องการงาน จะไปหาใครเลือกยามนี้ดีที่สุดจะได้พบปะไม่หนีไปไหน
ตำรวจที่จะตามจับผู้ร้ายให้ใช้ยามนี้ดีที่สุดคงจะได้ตัวผู้ร้ายอย่างแน่นอนทีเดียว โอกาสที่จะพบมีมาก ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดี
-๑๖.๓๑ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้ห้ามการเดินทางไปในที่เปลี่ยวๆหรือในที่ๆมีอันตราย ถ้าไม่จำเป็นให้ยับยั้งเอาไว้ก่อนเป็นดีที่สุด หากทำการอะไรแล้วมันไม่งอกเงยให้อยู่เฉยๆดีกว่า ใครมาชักชวนให้ไปไหนการไม่ไปนั้นแหละเป็นดีที่สุด ถ้าไปอาจจะตายหรือมิฉะนั้ก็คางเหลือง ข่าวที่ได้รับมาร้ายมากกว่าดีโปรดระมัดระวังให้มาก
วันพุธภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้ตกยามพระลอเดินดงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรไม่ได้ไม่เสีย ไปไหนมาไหนเพื่อแสวงหาโชคลาภไม่ดีเลย แต่ก็ไม่มีอันตรายอะไรเพราะผ่านยามร้ายมาแล้ว ข่าวที่ได้รับมีทั้งดีและร้ายก้ำกึ่งกัน
-๑๙.๓๑ น. - ๒๑.๐๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้ จะขอช่วยเหลืออะไรก็เร่งทำเถิดดีนักแล เหมาะแก่ผู้หลักผู้ใหญ่จะให้ความเมตตาช่วยเหลือแก่ผู้น้อย ข่าวที่ได้รับดีมากกว่าร้าย
-๒๑.๐๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นยามเลือกคู่เรียงหมอนอ้อนออดงอนง้อขอความรักหรือเจรจาเรื่องปัญหาหัวใจดีที่สุด มันจะทำให้ผู้หญิงหัวใจอ่อนเพราะมันเป็นยามที่ทำให้คนหัวใจอ่อนได้ง่ายๆ ข่าวที่ได้รับส่วนมากจะเป็นข่าวดี
-๒๒.๓๑ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้ทำธุรกิจเรื่องความรักดีนักแล ข่าวที่ได้รับส่วนใหญ่ดี
-๒๔.๐๑ น. - ๑.๓๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้เป็นยามโสกาอาดูร มีแต่ความหดหู่รันทดใจ ไปไหนมาไหนโปรดระวังให้ดีเดี๋ยวจะมีภัย ข่าวที่ได้รับมีแต่ข่าวร้ายทั้งนั้น
-๑.๓๑ น. - ๓.๐๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้เป็นยามไม่ดีเพราะเป็นยามปล่อยคุณไสย์ ยามผีออกหลอกหลอนและเป็นยามกาลีอีกด้วย ห้ามมิให้ออกจากเคหสถานบ้านเรือน ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวร้าย
-๓.๐๑ น. - ๔.๓๐ น. เป็นยาม็นยามโสโร
-ยามนี้เป็นยามกึ่งดีกึ่งร้าย ไม่ควรทำการมงคลใดๆทั้งสิ้น ข่าวที่ได้รับมาล้วนแต่เป็นข่าวที่ไม่แน่นอน
-๔.๓๑ น. - ๖.๐๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้เป็นยามอุดมมงคล จะยกขันหมากหรือยาตราทัพดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดีทั้งนั้น
-สรูปยามดีของวันพุธ
-ยามดีภาคกลางวัน: ยามที่ ๑ ๒ ๕ ๗
-ยามดีภาคกลางคืน: ยามที่ ๒ ๓ ๔ ๘
วันพฤหัสบดีภาคกลางวัน
-๖.๐๑ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้เป็นยามที่เป็นมงคล สร้างบ้านใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงานออกรถออกเรือ เปิดร้านทำธุรกิจการค้าดี ใช้เป็นฤกษ์ในการไปนั่งทำงานเป็นวันแรกดี ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดีไม่มีเสีย
-๗.๓๑ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้อยู่เฉยๆดีที่สุด ไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเป็นดีที่สุด ข่าวที่ได้รับมาล้วนไม่แน่นอน
-๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้เป็นยามดี จะทำการมงคลอะไรก็ดีทั้งนั้น จะไปสู่ขอและการแต่งงานดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดีทั้งนั้น
-๑๐.๓๐ น. - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้ให้ระวังของหาย คนหนี เจ้าหนี้ตาม ยามพลัดพรากทำอะไรก็ไม่ดี บั้นปลายมือจะร้ายทำอะไรโปรดระวังให้ดี ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น
-๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้เป็นยามแคล้วคลาด จะไปทวงหนี้หริอติดต่อทำสัญญาใดๆไม่สะดวกพบก็มีเหตุขัดข้อง ทำอะไรไม่ดีเลย ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวร้าย
-๑๓.๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้เป็นยามพลัดพรากโลเลไม่แน่นอน พบคนรักหรือทำอะไรในยามนี้เอาแน่นอนไม่ได้ ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวที่ไม่แน่นอน
-๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้เรียกว่ายามชนะศึก จะยาตราไปรบและเข้าจู่โจมจับกุมทำลายล้างพวกมิจฉาชีพดีนักแล มีแต่ได้ไม่มีเสีย เป็นยามอุดมมงคลของขุนศึก ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดี
-๑๖.๓๑ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้ทำการมงคลดีทุกอย่างสะดวกสบายดีนักแล ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดีทั้งสิ้นแล
วันพฤหัสบดีภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นยามบอกรัก ใช้ในการฝากรักดีนักแล ทำการมงคลอะไรก็ดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๑๙.๓๑ น. - ๒๑.๐๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้เป็นยามดีใช้เป็นฤกษ์ในการสู่ขอหรือประกอบพิธีในการหมั่นดีนักแล จะทำการมงคลอะไรก็ดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๒๑.๐๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้เป็นยามดีในการแสวงหาคู่ บอกฝากรักดีนักแล จะทำให้เพศตรงกันข้ามเกิดความเห็นอกเห็นใจ ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดี
-๒๒.๓๑ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้ใช้เป็นฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอดีนักแล ใช้เป็นฤกษ์เรียงหมอนอย่างง่ายๆดีนัก ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๒๔.๐๑ น. - ๑.๓๐ น. เป็นยามโสโร
-ยามนี้เป็นยามครึ่งดีครึ่งร้าย ไม่ควรทำการมงคลอะไรเป็นดีที่สุดเพราะเป็นฤกษ์เสีย ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวไม่ดี
-๑.๓๑ น. - ๓.๐๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้เป็นยามมรณะห้ามออกจากบ้าน ห้ามเปิดประตูรับคนเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน ห้ามออกลาดตระเวณโดยเด็ดขาดจะมอดม้วยมรณา ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวร้าย
-๓.๐๑ น. - ๔.๓๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้เป็นยามร้ายสำหรับผู้เดินทางในทางน้ำ อย่าเดินทางในทางเรือจะประสบกับภัยของพายุเรือจะอับปางหรือแตก ยามนี้ชาวเรือควรระมัดระวังให้มาก เพราะเป็นยามสมุทรพิโรธแล
-๔.๓๑ น. - ๖.๐๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นยามที่ดีมาก จะเดินทางและจะทำการมงคลใดๆก็ดีทั้งนั้นรีบทำเถิด ยามนี้ถือเป็นมงคลฤกษ์ ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
วันศุกร์ภาคกลางวัน
-๖.๐๑ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้เป็นยอดยามอุดมมงคล จะเปิดบริษัทห้างร้านโรงงานโรงเรียนสมาคมและสำนักงาน ขึ้นบ้านใหม่แต่งงาน ปลูกบ้านสร้างเรือนยกเสาเอก หรือจะเริ่มทำกิจการใดๆให้ตั้งเป็นยามปฐมฤกษ์ดียิ่งนักท่านเอ๋ย ถ้าปลูกบ้านสร้างเรือนก็จะอยู่เย็นเป็นสุข ถ้าใช้เป็นฤกษ์ในการแต่งงานก็จะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ถ้าใช้เป็นฤกษ์เปิดร้านขายของกิจการค้าจะเจริญก้าวหน้าดียิ่งนัก ข่าวที่ได้ยินมาล้วนแต่เป็นข่าวยอดดี
-๗.๓๑ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้เป็นยามดีในการรดน้ำสังข์ในเวลาแต่งงานหรือฤกษ์ยกขันหมากดีนักจะอยู่กันยืดยาวดีไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน
ขาวที่ได้รับส่วนมากจะเป็นข่าวดี
-๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้ให้ระวังเรื่องข่าวลวงหรือคนพาไปไหนมาไหนอย่าได้ไปมันร้ายมากกว่าดี ข่าวที่ได้รับร้ายทั้งสิ้นโปรดระมัดระวังให้ดี
-๑๐.๓๑ - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้ทำกิจการใดๆไม่ดี มักจะไม่สำเร็จ จะตกลงทำสัญญาใดอย่าได้ทำในเวลานี้จะมีเรื่องให้ตามแก้ไม่มีที่สิ้นสุด
ข่าวที่ได้รับมาสับสนไม่แน่นอน
-๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้ห้ามทำการมงคลใดๆทั้งสิ้น การเดินทางก็ควรงด อย่าได้ไปเป็นหมู่คณะในยามนี้ จะได้กลับมาไม่หมดแล
ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวไม่ดี
-๑๓.๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้เป็นยามแห่งการต่อสู้ การจู่โจม การเข้าเจรจาขายของหรือการขอสินเชื่อดีนักแลจะทำสำเร็จโดยง่ายดาย
ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดี
-๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้เป็นยามเหมาะแก่การนัดพบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม นัดพบแล้วได้ผลสมความมุ่งหมาย จะขอเข้าพบผู้ใหญ่ก็ได้ทั้งนั้น จะเจรจาขอความเห็นใจก็คล่องดี ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดีทั้งสิ้น
-๑๖.๓๑ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้เป็นยามดี จะรดน้ำสังข์แต่งงานก็ดีทั้งนั้น จะใช้ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์สำเร็จก็ได้ดีนักแล ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
วันศุกร์ภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้เป็นยามดีเป็นฤกษ์ที่มีชัยใช้ทำมงคลได้ทุกอย่างตามแต่จะปราถนาดีนักแล ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวดี
-๑๙.๓๑ น. - ๒๑.๐๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้ร้ายเหลือดีเรื่องดีจะกลับกลายเป็นร้ายไปหมด การทวงหนี้การปรับความเข้าใจจะไม่สำเร็จ ความอวดดีจะกลับกลายเป็นเรื่องเลวร้าย ให้ระมัดระวังให้ดี ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้าย
-๒๑.๐๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามโสโร
-ยามนี้ไม่กระทำการมงคลใดๆทั้งสิ้น ห้ามโดยเด็ดขาด ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น
-๒๒.๓๑ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้ไม่ดีเลย ไม่ควรออกจากบ้านไปไหนมาไหน ข่าวที่ได้รับร้ายนัก
-๒๔.๐๑ น. - ๑.๓๐ เป็นยามระวิ
-ยามนี้ร้ายนักไม่ดีเลย ทำการร้ายมิได้เดี๋ยวจะถูกจับกุมหรือมีอันเป็นไปอย่างแน่นอน ไม่ควรทำการมงคลใดๆทั้งสิ้น
ข่าวที่ได้รับไม่ดีเลย
-๑.๓๑ น. - ๓.๐๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นดิถีพิฆาต จะยาตราไปไหนโปรดระวังให้ดีจะเป็นอันตราย ข่าวที่ได้รับร้ายทั้งนั้นไม่ควรเชื่อถือ เป็นกฤษ์จี้ปล้น
-๓.๐๑ น. - ๔.๓๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้เป็นยามดี จะทำการมงคลใดๆก็ดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๔.๓๑ น. -๖.๐๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้เป็นยามดีรับอรุณ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็จะมีแต่ความปลอดภัย จะประสบแต่ควาสุขความเจริญ ทำการมงคลใดๆก็ดีทั้งนั้น ข่าวที่ได้รับล้วนแล้วแต่เป็นข่าวดีทั้งสิ้นไม่มีเสีย
-สรูปยามดีของวันศุกร์
-ยามดีภาคกลางวัน: ยามที่ ๑ ๒ ๖ ๗ ๘
-ยามดีภาคกลางคืน: ยามที่ ๑ ๗ ๘
วันเสาร์ภาคกลางวัน
-๖.๐๑ น. - ๗.๓๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้เป็นยามแห่งชัยชนะ ใชเคลื่อนพลทหารหรือตำรวจเขาจับกุมพวกทุจิตมิจฉาชีพ ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๗.๓๑ น. - ๙.๐๐ น. เป็นยามคะรู
-ยามนี้เป็นยามหลอกลวงล้วงตับคู่ศัตรู โปรดระวังการหลอกลวง ถ้าจะทำเอกสารสัญญาใดๆให้ทบทวนดูให้ดีๆเสียก่อน จะรับคนเข้ามาอยู่อาศัยภายในบ้านโปรดดูให้ดีๆเสียก่อนเดี๋ยวจะเสียใจในภายหลัง ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวลวง
-๙.๐๑ น. - ๑๐.๓๐ น. เป็นยามภุมมะ
-ยามนี้เป็นยามที่เหมาะในทางการเจรจา ข่าวที่ได้รับล้วนแต่เป็นข่าวดี
-๑๐.๓๑ น. - ๑๒.๐๐ น. เป็นยามสุริชะ
-ยามนี้เหมาะแก่การการู่โจม ตัดหน้าและการเจรจาตัดสินใจโดยรีบด่วน ต้องแก่งแย้งแข่งขันชิงดีชืงเด่นเอาชัยชนะใช้ฤกษ์นี้ดีนักแล ข่าวที่ได้รับไม่แน่นอนอะไรอาจจริงหรืออาจเท็จก็ได้
-๑๒.๐๑ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นยามศุกะระ
-ยามนี้เหมาะแก่การหลบหนี แหกด่าน แหกที่คุมข้ง หรือการโจมตีข้าศึกศัตรูให้พินาศ จะมีโอกาสรอดมากกว่าเสีย
ข่าวที่ได้รับมีทั้งข่าวดีและข่าวเสีย
-๑๓,๓๑ น. - ๑๕.๐๐ น. เป็นยามพุธะ
-ยามนี้เป็นยามที่ไม่ดี ห้ามทำการมงคลทั้งปวง ถ้าเจ็บไข่ได้ป่วยจะร้ายแรง ใครมาชวนไปไหนมาไหนให้ระวัง อย่าได้ไว้ใจเป็นเด็ดขาดจะเป็นอันตรายในภายหลัง ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวลวงอย่าไว้ใจ
-๑๕.๐๑ น. - ๑๖.๓๐ น. เป็นยามจันเทา
-ยามนี้เป็นยามร้าย ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีอาการหนัก จะไปไหนมาไหนถ้าไม่จำเป็นจริงๆให้งดไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น
-๑๖.๓๑ น. - ๑๘.๐๐ น. เป็นยามเสารี
-ยามนี้ดียิ่งนักแล จะทำการมงคลสิ่งใดก็ดีทุกอย่าง จะติดต่อการงานใดๆก็ดีทั้งนั้นให้เร่งทำเถิด ข่าวที่ได้รับล้วนแล้วแต่เป็นข่าวดีทั้งสิ้น
วันเสาร์ภาคกลางคืน
-๑๘.๐๑ น. - ๑๙.๓๐ น. เป็นยามโสโร
-ยามนี้เข้าไปหาเจ้านาย เจรจาปรับความเข้าใจกันดียิ่งนัก เจรจาขอความช่วยเหลือต่างๆก็ดี ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดี
-๑๙.๓๑ น. - ๒๑.๐๐ น. เป็นยามพุโธ
-ยามนี้รับอาสาเจ้านายดี สื่อข่าว ส่งเอกสารและทำการติดต่อประสานงานต่างๆดีนักแล ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวที่แน่นอน
-๒๑.๐๑ น. - ๒๒.๓๐ น. เป็นยามระวิ
-ยามนี้เป็นยามที่เหมาะแก่การโจมตี การแอบดูพฤติกรรมของคนร้ายที่ลักล้อบทำผิดกฏหมาย จะรู้เบาะแสการทำชั่วของมันได้ดี ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวดี
-๒๒.๓๐ น. - ๒๔.๐๐ น. เป็นยามชีโว
-ยามนี้เป็นยามดักพบลูกหนี้ หรือดักจับคนร้ายดีทำอย่างอื่นไม่ดี ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวร้ายโปรดระวัง
-๒๔.๐๑ น. - ๑.๓๐ น. เป็นยามศะศิ
-ยามนี้เหมาะแก่การส่งกำลังบำรุง การรุกรบบุกโจมตีให้แตกกระจายจะได้ชัยชนะโดยง่าย เรียกว่า "ฤกษ์หนุมานทลายสวน" ข่าวที่ได้รับครึ่งดีครึ่งร้าย
-๑.๓๑ น. - ๓.๐๐ น. เป็นยามศุกะโร
-ยามนี้ห้ามทำการมงคลทุกชนิด ถ้ามีเสียงเอะอะเอ็ดตะโรภายนอกบ้าน จงได้ใส่ใจมันเป็นยามร้าย อย่าออกนกเคหสถานบ้านเรือน ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น
-๓.๐๑ น. - ๔.๓๐ น. เป็นยามภุมโม
-ยามนี้ ห้ามทำการมงคลทุกชนิด ถ้าคิดตัดช่องย่องเบาและจี้ปล้นในเวลานี้ มีหวังเข้าไปนอนในมุ้งสายบัวแน่นอน
ข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวร้าย
-๔.๓๐ น. - ๖.๐๐ น. เป็นยามโสโร
-ยามนี้เป็นยามร้าย ไม่ควรทำการมงคลทุกชนิด ให้ระวงจะเกิดอุบัติเหตุ ข่าวที่ได้รับเป็นข่าวร้ายแทบทั้งสิ้น
-สรูปยามดีของวันเสาร์
-ยามดีภาคกลางวัน: ยาม ๑ ๓ ๘
-ยามดีภาคกลางคืน: ยาม ๑ ๒ ๓